เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีอย่างน้อยครั้งหนึ่งที่เมื่อต้องทานยาก่อน หรือหลังอาหาร และลืมทาน หรือลืมพกยามาด้วย ...
ต้องอ่าน! ลืมกินยา ทำอย่างไร ก่อน-หลังอาหารกี่นาที?
เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีอย่างน้อยครั้งหนึ่งที่เมื่อต้องทานยาก่อน หรือหลังอาหาร และลืมทาน หรือลืมพกยามาด้วย ทางคนเลือกที่จะทานเลยเดี๋ยวนั้น บางคนก็เลือกที่ข้ามมื้อนั้นไปเลย จริงๆ แล้วเราควรทำอย่างไร หรือยาก่อนและหลังอาหารเราควรทานเมื่อไรถึงจะดีที่สุด เรามีคำตอบค่ะ
ยาก่อนอาหาร
ยาก่อนอาหารเราควรทานก่อนอย่างน้อย 30 นาทีค่ะ และต้องทานขณะที่ท้องยังว่าง คือไม่ได้ทานอะไรในระหว่างนั้น ทั้งนี้เพื่อให้ยาไม่โดยน้ำกรดในกระเพาะอาหารทำลายจนหมด นอกจากนี้หากทานยาก่อนอาหารพร้อม หรือหลังอาหารอาจทำให้ยาดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยลง เพราะเจอกับส่วนประกอบของอาหาร และยาบางชนิดต้องการเวลาประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะออกฤทธิ์อีกด้วย
หากลืมทานยาก่อนอาหาร ควรทำอย่างไร?
ไม่ควรทานพร้อม หรือหลังอาหาร ควรข้ามมื้อนั้น แล้วไปทานก่อนอาหารมื้อถัดไปแทน หรืออาจจะทานอีกทีหลังมื้ออาหาร 2 ชั่วโมงก็ได้ ซึ่งเมื่อถึงมื้อถัดไปก็ไม่ต้องทานยาก่อนอาหารแล้ว (คือทานแทนยาก่อนอาหารมื้อถัดไปไปเลย)
ยาหลังอาหาร
ควรทานยาหลังอาหารทันที หรือไม่ควรเกิน 15 นาที นอกจากนี้ยังสามารถทานพร้อมอาหาร หรือก่อนอาหาร ก่อนตักข้าวเข้าปากคำแรกก็ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรจุดประสงค์ของยาหลังอาหารคือ ให้ยาเข้าไปอยู่ในกระเพาะอาหารพร้อมๆ กับอาหารนั่นเอง เพราะยาหลังอาหารอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และยาบางชนิดอาจต้องการกรดในกระเพาะอาหารเพื่อช่วยดูดซึมตัวยาเข้าร่างกายได้ดีขึ้น
หากลืมทานยาหลังอาหาร ควรทำอย่างไร?
หากยังอยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที ยังพอกินตามทัน แต่หากเลย 15 นาทีไปแล้ว ควรทานมื้อถัดไปเลยดีกว่า หรือหากเป็นยาที่สำคัญมากๆ ควรทานอาหารมื้อย่อย แล้วทานยาหลังอาหารมื้อย่อยนั้นแทน
ยาก่อนนอน
ควรทานก่อนนอน 15-30 นาที เพราะหากทานก่อนหน้านั้นนานเกินไป อาจทำให้ง่วงนอนจากฤทธิ์ของยา ประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆ ก็จะลดลงไปด้วย ควรทานตอนที่พร้อมจะเข้านอนแล้วจริงๆ เท่านั้น
หากลืมทานยาก่อนนอน ควรทำอย่างไร?
ลืมแล้วลืมเลย ทานอีกทีตอนก่อนนอนของคืนถัดไปได้เลย ไม่ควรทานในตอนเช้าของวันถัดไป
นอกจากนี้ สำหรับยาที่ทานเฉพาะเมื่อมีอาการ เช่น พาราเซตามอลที่ช่วยลดไข้ ปวดหัว สามารถทานได้เลยเมื่อมีอาการ และยาหมดฤทธิ์และยังมีอาการอยู่ สามารถทานต่อได้ (ในระยะเวลาที่กำหนด) และหยุดยาได้ทันทีเมื่อไม่มีอาการแล้ว แต่ยาบางชนิดมีวิธีทานที่แตกต่างไปจากยาทั่วไป ควรสอบถามแพทย์ และเภสัชกรเป็นกรณีๆ ไปค่ะ
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้อยู่
อึ๋ย! 6 อาหารต้องห้ามกินดิบๆ แค่คำเดียว พยาธิกว่า 6,000 ตัวอยู่ในร่างกายแล้ว
สูตรเด็ด กำจัดริมฝีปากแตกแบบง่ายๆ ที่หลายคนมองข้าม
ไม่อยากกระดูกพรุน ต้องกิน..เต้าหู้