ผัก 36 ชนิด (ไม่กินไม่ได้แล้ว) โดยเฉพาะรายการสุดท้าย
ผัก 36 ชนิด (ไม่กินไม่ได้แล้ว) โดยเฉพาะรายการสุดท้าย
1. สะเดา ( Neem tree)มีเบต้าแคโรทีนสูง บำรุงสายตา เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้นอนหลับ
2. ผักกาดขาว ( Chinese white cabbage) ช่วยระบบย่อยอาหารขับปัสสาวะ แก้ไอ มีโฟเลทสูงบำรุงคุณแม่ตั้งครรภ์
3. ต้นหอม ( Shallot) หอมระเหย บรรเทา อาการหวัด มีสารฟลาโวนอยด์ต้านมะเร็ง
4. แครอท ( Carrot) เบต้าแคโรทีน ป้องกันโรคมะเร็ง มีแคลเซียม แพคเตท ลดระดับคลอเลสเตอรอลได้
5. หอมหัวใหญ่ (Onion) มีสาร ฟลาโวนอยด์ ช่วยลดอาการของโรคหัวใจ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
6. คะน้า ( Chinese kale) มีแคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันโรค กระดูกพรุน และมะเร็ง
7. พริก ( Chilli) มีแคปไซซิน กระตุ้นการ ขยายตัวของหลอดเลือด ช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ
8. กระเจี๊ยบเขียว(Okra) ลดความดันโลหิต บำรุงสมอง ลดอาการกระเพาะ หรือ ลำไส้อักเสบ
9. ผักกระเฉด ( Water mimosa) ดับพิษไข้ กากใยช่วยระบบขับของเสีย เพิ่มการเผาผลาญสารอาหาร
10. ตำลึง ( Ivy gourd) มีวิตามินเอสูง ดีต่อดวงตา เส้นใยจับไนเตรต ลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร
11. มะระ ( Chinese bitter cucumber) มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เป็นยาระบายอ่อน ๆ น้ำคั้นลดระดับน้ำตาล ในเลือด
12. ผักบุ้ง ( Water spinach) บรรเทาอาการร้อนใน มีวิตามินเอ บำรุงสายตา ธาตุเหล็กบำรุงเลือด
13. ขึ้นฉ่าย ( Celery) กลิ่นหอมช่วยเจริญ อาหาร มีวิตามินเอ บี และซี บำรุงสมอง ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด
14. เห็ด ( Mushroom) แคลอรีน้อย ไขมันต่ำ มีวิตามินดีสูงช่วยในการดูดซึม แคลเซียมเสริมกระดูกและฟัน
15. บัวบก ( Indian pennywort)มี วิตามินบีสูงช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายบำรุง สมองและความจำบำรุงผิวพรรณลดอาการ อักเสบ
16. สะระแหน่ (Kitchen mint) กลิ่นหอมเย็นของใบให้ความสดชื่นทำให้ ความคิดแจ่มใส แก้ปวดหัว
17. ชะพลู (Cha-plu) รสชาติเผ็ดเล็กน้อย แก้จุกเสียด ขับเสมหะมีแคลเซียมสูง
18. ชะอม ( Cha-om) ช่วยลดความร้อน ในร่างกาย ขับลมในลำไส้มีเส้นใยคอยจับ อนุมูลอิสระ
19. หัวปลี ( Banana flower) รสฝาด แก้ร้อนใน กระหายน้ำ และบำรุงน้ำนม มีกากใย โปรตีน และวิตามินซีสูง
20. กระเทียม ( Garlic) ลดไขมันในเลือด ป้องกันหัวใจขาดเลือด ใบกระเทียมมีโฟเลท เหล็กวิตามินซีสูง
21. โหระพา ( Sweet basil) น้ำมันหอม ระเหยทำให้โล่งจมูก ช่วยระบายลม มีเบต้าแคโรทีนแคลเซียม
22. ขิง ( Ginger) บรรเทาอาการหวัดเย็น ลดอาการคัดจมูก รสเผ็ดร้อนแก้อาการ ท้องอืดท้องเฟ้อ
23. ข่า ( Galangal) น้ำมันหอมระเหย ช่วยระบบย่อยอาหารขับลมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา
24. กระชาย ( Wild ginger) บรรเทา อาการท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงธาตุ มีวิตามิน เอและแคลเซียม
25. ถั่วพู ( Winged bean) ให้คุณค่าทาง อาหารสูง มีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และสาร ช่วยย่อยกรดไขมันอิ่มตัว
26. ดอกขจร ( Cowslip creeper) กระตุ้นให้รู้รสอาหาร ให้พลังงานสูง ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน
27. ถั่วฝักยาว ( Long bean) มีเส้นใย ช่วยลดคอเลสเตอรอล มีวิตามินซี ช่วยให้ ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก บำรุงเลือด
28. มะเขือเทศ ( Tomato) มีวิตามินเอสูง วิตามินซี รสเปรี้ยว ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย และแก้อาการคอแห้ง
29. กะหล่ำปลี ( White cabbage) มีกลูโคซิโนเลท เมื่อแตกตัวจะเป็น สารต้านมะเร็ง และมีวิตามินซีสูง
30. มะเขือพวง (Plate brush eggplant) ช่วยให้เจริญอาหารและช่วยลด ความดันเลือด มีแคลเซียม และฟอสฟอรัส
31. ผักชี ( Chinese paraley) ขับลม บำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร มีน้ำมันหอม ระเหย แก้หวัด มีวิตามินเอและซีสูง
32. กุยช่าย ( Flowering chives) มีกากใยช่วยระบายของเสียมีธาตุเหล็กช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง
33. ผักกาดหัว ( Chinese radish) แก้ไอ ขับเสมหะเพิ่มภูมิต้านทางโรคมีสารช่วยให้กระเพาะอาหารและลำไส้บีบตัวได้ดี
34. กะเพรา ( Holy basil) แก้อาการ จุกเสียดแน่นท้อง มีเบต้าแคโรทีนสูง ป้องกันโรคมะเร็ง และโรคหัวใจขาดเลือดได้
35. แมงลัก ( Hairy basil) ช่วยย่อย อาหาร ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ขับลม ขับเหงื่อ
36. ดอกแค ( Sesbania) กินแก้ไข้ช่วง ที่อากาศเปลี่ยนแปลงเป็นยาระบายอ่อน ๆ มีวิตามินเอสูง บำรุงสายตา
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้อยู่
สีปัสสาวะบอกได้ ว่าคุณขาดน้ำรึเปล่า
มารู้จักวิธีรักษา 'ท้องลาย' หลังคลอดกันเถอะ
ไขมัน-รอยตีนกา กำจัดง่ายๆเพียงใช้ ฟักทอง พืชสุดมหัศจรรย์
ใส่ใจอาหารการกิน เพื่อชีวิตที่ดีของตัวเอง
ที่มา: เพจอาหารเพื่อสุขภาพ