มารู้จักวิธีรักษา 'ท้องลาย' หลังคลอดกันเถอะ


3,689 ผู้ชม

เชื่อว่าคุณแม่ยังสาวส่วนใหญ่ แม้จะอุ้มท้องบุตรด้วยความรักและเอ็นดูมากเพียงใด แต่ลึกๆแล้วภายในใจก็คงจะยังอดมีความกังวลไม่ได้ว่า



เชื่อว่าคุณแม่ยังสาวส่วนใหญ่ แม้จะอุ้มท้องบุตรด้วยความรักและเอ็นดูมากเพียงใด แต่ลึกๆแล้วภายในใจก็คงจะยังอดมีความกังวลไม่ได้ว่า เมื่อคลอดลูกแสนรักแล้ว น้ำหนักตัว รวมไปถึงผิวสวยๆ จะสามารถกลับมาเนียนใสได้เหมือนเดิมหรือเปล่า


โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวหนังบริเวณหน้าท้องที่มีการขยายตัวขึ้นจากการอุ้มท้อง ที่หลังจากคลอดก็มักที่จะหลงเหลือร่องรอยจากการหดตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งทำให้เกิดปัญหาท้องลายขึ้น


สำหรับในวันนี้จะขอพาเหล่าคุณแม่ยังสาว ไปรู้จักกับ วิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเพื่อรักษาอาการท้องลาย เพื่อให้ผิวหน้าท้องกลับมาเนียนใสดังเดิม


 

ขั้นตอนการดูแลรักษาตัวเอง ให้หน้าท้องปราศจากริ้วรอย


สำหรับขั้นตอนการดูแลรักษาไม่ให้ท้องลายนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็นสองช่วง ซึ่งหากคุณแม่ยังสาวมีการปฏิบัติตัวตามขั้นตอนต่อไปนี้ ก็จะสามารถช่วยลดและรักษาปัญหาท้องลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


การดูแลรักษาตัวเองก่อนคลอด
1. เริ่มต้นจากการดูแลผิวหนังบริเวณหน้าท้องของตัวเองให้ดีตั้งแต่ก่อนคลอด ถึงจะบอกว่าบทความชิ้นนี้จะกล่าวถึงวิธีการรักษาอาการท้องลายหลังการคลอดก็ตาม แต่วิธีที่ดีที่สุดในการรักษานั้น


ควรเริ่มต้นจากวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดหรือลดความรุนแรงของปัญหาขึ้นมาก่อนจึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด โดยเริ่มตั้งแต่ในช่วงแรกๆของการตั้งครรภ์ ให้เริ่มทำการทาครีมบำรุงในบริเวณหน้าท้อง โดยต้องไม่ใช่ครีมที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ อาจจะเป็นน้ำมันมะกอก หรือเบบี้โลชั่น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
2. การอาบน้ำในระดับอุณหภูมิห้องช่วยป้องกันการเกิดท้องลายได้ เพราะการอาบน้ำอุ่นมากๆจะยิ่งทำให้ผิวหนังกลายเป็นขุย และทำให้เกิดอาการท้องแตกลายมากยิ่งขึ้นในช่วงท้ายๆก่อนการคลอดบุตร


3. ควรออกกำลังกายในขณะที่อุ้มท้องบ้าง เช่น การบริหารกล้ามเนื้อบริเวณท้องด้วยการเล่นโยคะ หรือพิลาทิส แต่ควรออกกำลังกายโดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอยู่ข้างๆ หรือการออกกำลังกายโดยการเกร็งกล้ามเนื้อท้อง หรือแขม่วท้องโดยนับ 1-5 แล้วผ่อนออก วิธีการออกกำลังกายเหล่านี้จะช่วยพยุงมดลูกไม่ให้ไปดันที่ผิวหนังมากนักในขณะตั้งครรภ์ หรืออาจจะใช้วิธีออกกำลังง่ายๆ โดยการเดินวันละประมาณ 5 นาที เป็นต้น


4. ถ้าหากรู้สึกคันบริเวณหน้าท้องโปรดหลีกเลี่ยงการเกา เพราะจะเป็นการทำร้ายผิว ถ้าหากเกิดอาการระคายเคืองควรไปรับยาทาเพื่อแก้อาการคันจากแพทย์จะดีกว่า แต่ถ้ากลัวอดใจให้เกาไม่ได้ก็ให้ทำการตัดเล็บเอาไว้สั้นเสียตั้งแต่เนิ่นๆจะช่วยลดการทำร้ายผิวที่เกิดขึ้นจากการเกาได้
 


5. การนองตะแคงในขณะตั้งครรภ์ทำให้เกิดท้องลายได้ง่าย โดยปกติแล้วการนอนตะแคงถือว่าเป็นท่าที่นอนสบายที่สุดของผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่การนอนตะแคงนั้นทำให้ผิวหนังเกิดการดึงรั้งไปในทิศทางเดียวกันมาก แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้หมอนมารรองรับหน้าท้องเอาไว้ ซึ่งจะช่วยทำให้ปัญหาท้องลายลดลง
6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นพื้นฐานของสุขภาพและผิวหนังที่ดี โดยการรับประทานผลไม้ ผักสด ธัญพืช เมล็ดพืชเปลือกแข็ง และถั่วชนิดต่างๆ

7. ค่อยๆเพิ่มน้ำหนักตัวในขณะที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากการเพิ่มน้ำหนักตัวที่รวดเร็วจนเกินไปจะทำให้ผิวหนังมีการยืดหดอย่างรวดเร็วจนเกินพอดี ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ท้องลาย แต่คุณแม่ยังสาวจำเป็นที่จะต้องเพิ่มปริมาณน้ำหนักตัวเพื่อเตรียมพร้อมในการอุ้มท้อง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามการเพิ่มน้ำหนักตัวควรค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉลี่ยแล้วควรเพิ่มน้ำหนักตัวขึ้นอย่างช้าๆ ประมาณ 2 กก. ต่อเดือน


การดูแลรักษาตัวเองหลังคลอด


1. การใช้ครีมทาผิวหลังการคลอด มีผลวิจัยว่า ครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากโกโตโคลา วิตามินอี และคอลาเจนไฮโดราไลเสท มีคุณสมบัติในการช่วยลดการแตกลายของหน้าท้องได้ ในกรณีที่มีอาการท้องลายไม่มากนัก สามารถใช้ยาที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ ทาเพื่อช่วยให้รอยแตกลายจางลงได้


2. เสริมสร้างคอลลาเจนด้วยวิตามินอี ซึ่งจะช่วยทำการซ่อมแซมเซลล์ผิว ทำให้ริ้วรอยที่หน้าท้องจางลง โดยการรับประทานวิตามินอีวันละ 1 เม็ด หรือทำการนวดบริเวณหน้าท้องด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เช่น น้ำมันจมูกข้าว น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ ไขมันจากเมล็ดโกโก้ หรือที่เรียกกันว่าเนยโกโก้ เป็นต้น


3. ดื่มน้ำในระหว่างวันมากๆ นอกจากน้ำสะอาดแล้ว ยังควรดื่มชาเขียว ชาสมุนไพร น้ำผักและน้ำผลไม้ เพื่อเป็นการช่วยคืนความชุ่มชื้น ป้องกันรอยแตกของผิวได้เป็นอย่างดี

แหล่งที่มา: kondoodee.com

อัพเดทล่าสุด