ทุกวันนี้กิจกรรมประจำวันเรามีมากขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะ แล้วยิ่งเทคโนโลยีเข้ามามากขึ้น แน่นอนล่ะว่าเราจะใช้เหล่าสมาร์ทโฟนเป็นตัวช่วยจำในสิ่งต่าง ๆ
เทคนิคแก้นิสัยขี้ลืม (Womanplus)
ทุกวันนี้กิจกรรมประจำวันเรามีมากขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะ แล้วยิ่งเทคโนโลยีเข้ามามากขึ้น แน่นอนล่ะว่าเราจะใช้เหล่าสมาร์ทโฟนเป็นตัวช่วยจำในสิ่งต่าง ๆ เป็นผลให้ตอนนี้เรามักติดนิสัยขี้ลืมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ใครเป็นปัญหานี้กันอยู่บ้างคะ
วันนี้ W+ มีวิธีแก้นิสัยขี้ลืมมาบอกกันค่ะ
จดบันทึกช่วยจำ
การจดบันทึกในสมุดที่มีวันที่นั้น จะช่วยให้วางแผนเรื่องในชีวิตได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ต้องทำแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ หรือแต่ละเดือน จดข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัน ๆ นั้นที่ต้องทำหรือมีความสำคัญ หรือแม้แต่ความรู้สึกนึกคิด คำคมต่าง ๆ การจดจะช่วยย้ำให้สมองจำเรื่องราวเหล่านี้ได้ดีขึ้น
หมั่นพูดกับตัวเอง
ไม่ว่าจะต้องทำอะไรบ้างในวันนั้น ก่อนออกจากบ้าน หรือก่อนจะเริ่มกิจกรรมควรเปล่งเสียงออกมาเสมือนพูดกับตัวเอง "ฉันต้องไปซื้อของ แล้วขับรถไปรับแม่ พอตอนเย็นฉันมีนัดทานข้าวกับเพื่อน" ประมาณนี้ การพูดออกมาซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ กับตัวเองจะทำให้เราจำในสิ่งที่ต้องทำได้อีกทางหนึ่ง
![]()
จัดระเบียบการเก็บข้าวของให้เป็นที่
เปลี่ยนนิสัยการวางของแบบไม่เป็นระเบียบ ไม่ใช่ว่าจะวางอะไรก็วางได้เลย ยิ่งจะทำให้ลืมของเหล่านั้นง่ายขึ้น หันมากำหนดการวางของตัวเอง เช่น กุญแจรถวางไว้บนตู้โชว์ ส่วนนาฬิกาวางไว้บนตู้ข้างเตียง ยาประจำตัวก็ไว้ในกระเป๋าใบเล็กที่พกประจำ การจัดระเบียบการเก็บของแบบนี้จะทำให้ไม่ลืมว่าเราเก็บของอะไรไว้ที่ไหนบ้าง
อย่าทำหลายอย่างพร้อมกัน
ลำพังแค่การจำสิ่ง ๆ หนึ่งก็ยังจะชอบลืมเลย ไม่ต้องไปพูดถึงสำหรับอะไรที่ทำในเวลาเดียวกัน อย่างเช่น เปิดนิตยสารอ่าน พร้อมกับฟังดีเจคลื่นวิทยุ แล้วก็คุยโทรศัพท์กับเพื่อนไปด้วย นั่นจะยิ่งทำให้เราไม่มีสมาธิต่ออะไรเลยสักอย่าง แล้วก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลในหนังสือที่เราอ่าน ข่าวที่ดีเจเล่าให้ฟัง หรือแม้แต่เรื่องที่เพื่อนคุยกับเราก็ตาม
![]()
ทำอะไรให้ช้าลง
หากเราติดนิสัยทำอะไรเร็ว พูดเร็ว ก็จะยิ่งทำให้รายละเอียดของสิ่งเหล่านั้นเบาบางลงไป ยิ่งจะทำให้สมองเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไม่ทัน หันมาทำให้ช้าลง ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ ทำ และใส่ใจในรายละเอียดของแต่ละสิ่งที่ทำ
ทำสุขภาพกาย สุขภาพใจ ให้แข็งแรง
ไม่ว่าจะตั้งแต่การดูแลตัวเองให้ดี ทานอาหารให้ครบหมู่ เน้นอาหารที่อุดมวิตามินซี อี และเบต้าแคโรทีน โดยเฉพาะส้ม องุ่น เบอร์รี่ ผักสีเขียว ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ให้ร่างกายแข็งแรง ส่งผลให้ถึงสมองและจิตใจที่ดีตามไปด้วย นอกจากนั้นอาจจะหากิจกรรมบริหารสมองเสริมเข้าไป อย่างเช่น การเล่นเกมฝึกทักษะ การอ่านหนังสือ การเล่นดนตรี เพราะกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้สมองได้ออกกำลังด้วย
![]()
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้
คลินิกทำฟันขาวคงไม่บอกคุณแน่ ว่า กล้วย ดีกับฟันคุณแค่ไหน!
แย่แล้ว! 15 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังติดโทรศัพท์อย่างแรง
ตำแหน่งสิว บนใบหน้า บอกโรคร้ายได้อย่างคาดไม่ถึง มาดูกันเลย
4 นิสัยที่สาวๆต้องเลิก! ถ้าไม่อยากให้หน้าอกยาน
อาหาร 4 อย่างที่โรคไขข้ออักเสบกลัว ไม่อยากเป็นต้องทาน
ที่มา Womanplus