กรดไหลย้อน...โรคฮิตคู่สาวออฟฟิศ


    ข้อแนะนำต่อไปนี้เป็นทั้งการป้องกันตัวเองจากกรดไหลย้อน และเป็นวิธีรักษาเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด ที่เราสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้

สาวทำงานทั้งหลายที่ชอบทำงานแบบ workaholic จนลืมเวลากินอาหาร หรือเมื่อถึงเวลากินก็กินอย่างรีบเร่ง แถมยังมีนิสัยมีนิสัยกินจุบกินจิบด้วย คุณกำลังเสี่ยงกับโรคกรดไหลย้อนอยู่ค่ะ 

สังเกตตัวเอง

อาการหลักๆ ของโรคนี้คือ มีน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรด ไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร และมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่ยอดอก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว หรือมีรสขมในปากร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้คล้ายคลึงกับโรคกระเพาะ จนทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะ เลยไปซื้อยาเคลือบกระเพาะมากินเอง ซึ่งเป็นการรักษาที่ไม่ตรงจุด ฉะนั้นทางที่ดีถ้ามีอาการเตือนเหล่านี้น่าจะปรึกษาคุณหมอ เพื่อตรวจให้แน่ชัดว่าคุณเป็นโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อนกันแน่ และรักษาตามขั้นตอนที่ถูกต้องค่ะ

นอกจากนี้แล้ว อาการที่กล่าวมาข้างต้นจะเป็นมากขึ้น หลังจากที่คุณผ่านอาหารมื้อหนักๆ ยกของหนัก โน้มตัวไปข้างหน้าหรือนอนหงาย กรดที่ไหลย้อนขึ้นมานี้มีความเข้มข้นสูงมากพอที่จะทำอันตรายกับเยื่อบุหลอดอาหารจนอักเสบและเกิดแผลได้ แม้โรคนี้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็สร้างความทรมานและมีผลกับคุณภาพชีวิต ประสิทธิภาพการทำงานของเราได้ ซึ่งถ้าเป็นแล้วปล่อยทิ้งไว้ ไม่รีบรักษาก็จะทำให้หลอดอาหารอักเสบเป็นแผลรุนแรงเรื้อรัง จนหลอดอาหารตีบ เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่หลอดอาหาร และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งที่หลอดอาหารได้ค่ะ

ปรับวิถี....เพื่อสุขภาพ

ข้อแนะนำต่อไปนี้เป็นทั้งการป้องกันตัวเองจากกรดไหลย้อน และเป็นวิธีรักษาเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด ที่เราสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้

-ต่อให้งานหนักและยุ่งขนาดไหน ต้องไม่ลืมเวลาอาหารในแต่ละมื้อ ซึ่งควรกินให้เป็นเวลา

-ให้เวลากับการกินอาหารให้พอเหมาะไม่เร่งรีบจนเกินไป แต่ละมื้ออาหารควรกินแค่พออิ่ม ไม่มากจนเกินไปโดยเฉพาะในมื้อเย็น และไม่ควรนอนทันทีหลังจากกินอาหาร

-หลีกเลี่ยงอาหารที่มันจัด อาหารรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด น้ำอัดลม น้ำชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

-ดูแลตัวเองไม่ให้น้ำหนักมากหรืออ้วนจนเกินไป เพราะความอ้วนจะทำให้มีความดันในช่องท้องสูง ทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้มาก

-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

-งดการสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้เกิดกรดมาก หูรูดอ่อนแอ

-นอนตะแคงซ้ายและนอนหนุนหัวเตียงให้สูงอย่างน้อย 6 นิ้ว การนอนในท่านี้จะช่วยให้จำนวนครั้งในการคลายตัวของหูรูดน้อยลง

หากปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตตามนี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อรับยาร่วมด้วยหรืออาจต้องส่องกล้อง หรือผ่าตัด ซึ่งแล้วแต่ความรุนแรงของอาการค่ะ แต่หากคุณรักษาอาการต่างๆ จนทุเลาดีแล้ว ก็ยังต้องคงพฤติกรรมเหล่านี้ต่อไป ไม่เช่นนั้นกรดไหลย้อนก็จะย้อนกลับมารังควานสุขภาพของเราได้อีกค่ะ

คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้

อัพเดทล่าสุด