เราไม่ได้ห้อยหัวแบบแดรกคูร่ากันทั้งวันทั้งคืนนะค่ะ เอาแค่ 10 นาทีก็หน้ามืดมึนงงกันแล้วค่ะ เพื่อให้ศีรษะเราอยู่ต่ำกว่าตัวบ้าง (ตามรูปประกอบ เเต่เวลาที่ดีที่สุดคือ ช่วงตอนเช้าหลังตืนนอนกับช่วงก่อนนอนค่ะ)
เราไม่ได้ห้อยหัวแบบแดรกคูร่ากันทั้งวันทั้งคืนนะค่ะ เอาแค่ 10 นาทีก็หน้ามืดมึนงงกันแล้วค่ะ เพื่อให้ศีรษะเราอยู่ต่ำกว่าตัวบ้าง (ตามรูปประกอบ เเต่เวลาที่ดีที่สุดคือ ช่วงตอนเช้าหลังตืนนอนกับช่วงก่อนนอนค่ะ)
เพื่อเลือดจะได้ไหลลงไปเลี้ยงสมอง ใบหน้า นั่นก็เพราะ ประโยชน์ที่จะได้รับ มีมากเหลือคณา ครอบคลุมทั้งภายนอกและภายใน อารมณ์เหมือนเล่นโยคะ อะไรแบบนั้นอ่ะค่ะ แต่ทีนี้เราเล่นโยคะ เอาศีรษะยืนแทนเท้าแบบคนที่เค้าเล่นจริงจังไม่ได้ไงค่ะ ก็เลยเอามันง่ายๆแบนี้ล่ะค่ะ เราก็จะได้สุขภาพที่ดีขึ้น หน้าเด็กความจำดี และอะไรๆ ดีๆอีกหลายอย่างค่ะ
เพราะเซลล์ต่างๆ ของสมองต้องการเลือดไปหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากแม้ว่าระบบหัวใจจะทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายอย่างที่เรารู้ แต่กระนั้นเมื่ออายุมากขึ้น สภาพก็ต้องเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา
ดังนั้น การนอนห้อยหัวจึงช่วยเสริมเติมส่วน ทำให้เลือดที่หล่อเลี้ยงร่างกายอยู่แล้วได้มีโอกาสไหลไปตรงศีรษะได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อเลือดไหลเวียนดี เนื้อเยื้อสมองเนื้อเยื้อเซลล์ก็ได้รับการบำรุงซ่อมแซมเต็มที่ ระบบต่างๆ ก็ทำงานไหลลื่น ส่งผลให้ความคิดฉับไว เป็นระบบระเบียบ ความจำดีขึ้น ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ไมเกรน เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังลดอาการผมหงอก ผมขาว ช่วยให้สีผมกลับมาเป็นสีปกติ และยังทำให้มีความคิดในแง่บวก มองโลกในแง่ดี เพราะจะไปช่วยกระตุ้นต่อมหมวกไตที่ผลิตฮอร์โมนสำคัญๆ หลายชนิด และส่งผลต่อความรู้สึก ทำให้มีความคิดในแง่บวกมากขึ้น มองโลกในแง่ดีขึ้น แถมลดอาการความเครียดต่างๆ อารมณ์หมองเศร้าอีกด้วยนะค่ะ
ที่มา moomsabaay.blogspot.com