มาดูข้อควรระวังการใช้เครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องซักผ้ามีปัญหาจนต้องส่งซ่อมบ่อย พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานตัวเครื่องให้นานขึ้น
มาดูข้อควรระวังการใช้เครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องซักผ้ามีปัญหาจนต้องส่งซ่อมบ่อย พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานตัวเครื่องให้นานขึ้น
ถ้าไม่อยากส่งเครื่องซักผ้าไปซ่อม ทั้ง ๆ ที่ซื้อมาได้ไม่นาน มาดูข้อควรระวังการใช้เครื่องซักผ้าที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้เครื่องซักผ้าพังเร็วขึ้น พร้อมวิธีการดูแลรักษาเครื่องซักผ้าให้ใช้งานได้นาน ๆ ด้วยวิธีการใช้เครื่องซักผ้าที่ถูกต้อง อยากรู้ว่าที่ทำอยู่เป็นประจำ เป็นการทำให้เครื่องซักผ้าพังเร็วขึ้นหรือเปล่า มาดูข้อควรระวังที่ไม่ควรทำกับเครื่องซักผ้าไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. ไม่เคยล้างถังซักด้วยน้ำร้อน
ถ้าไม่อยากส่งเครื่องซักผ้าไปซ่อม ทั้ง ๆ ที่ซื้อมาได้ไม่นาน มาดูข้อควรระวังการใช้เครื่องซักผ้าที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้เครื่องซักผ้าพังเร็วขึ้น พร้อมวิธีการดูแลรักษาเครื่องซักผ้าให้ใช้งานได้นาน ๆ ด้วยวิธีการใช้เครื่องซักผ้าที่ถูกต้อง อยากรู้ว่าที่ทำอยู่เป็นประจำ เป็นการทำให้เครื่องซักผ้าพังเร็วขึ้นหรือเปล่า มาดูข้อควรระวังที่ไม่ควรทำกับเครื่องซักผ้าไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. ไม่เคยล้างถังซักด้วยน้ำร้อน
เพราะน้ำอุ่นหรือน้ำประปาไม่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกและกลิ่นออกได้หมดอย่างที่ต้องการ ถ้าอยากให้ถังซักสะอาดควรปั่นด้วยน้ำร้อนโดยไม่ต้องใส่ผงซักฟอกหรือส่วนผสมอื่น ๆ แค่นี้ก็ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและกลิ่นอับได้แล้ว
2. ไม่เคยทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอก
2. ไม่เคยทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอก
แม้จะเป็นส่วนที่น้ำไหลผ่านขณะซัก ก็ควรทำความสะอาดส่วนนี้เช่นกัน เพื่อกำจัดผงซักฟอกหรือน้ำยาเก่า ๆ ออกจากตัวเครื่องให้หมดก่อนซักผ้ารอบถัดไป โดยถอดล้างด้วยน้ำอุ่นจนกว่าจะไม่เหลือสิ่งตกค้าง
3. ไม่เคยซักถุงกรองฝุ่น
3. ไม่เคยซักถุงกรองฝุ่น
หากไม่เคยนำถุงกรองฝุ่นมาทำความสะอาดเลย ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการกำดักจับฝุ่น เชื้อโรค และคราบสกปรกต่าง ๆ ของเครื่องซักผ้าน้อยลงแล้ว และทำให้เสื้อผ้ายังสกปรกแม้จะทำความสะอาดไปแล้วก็ตาม
4. ไม่เคยปรับโหมดก่อนซักผ้า
4. ไม่เคยปรับโหมดก่อนซักผ้า
แม้ว่าเครื่องซักผ้าจะมีโหมดการซักอัตโนมัติให้เลือก แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับการซักเสื้อผ้าทุกประเภทเสมอไป แถมยังทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ทางที่ดีควรปรับโหมดการซักให้เหมาะ ซึ่งจะช่วยถนอมทั้งเสื้อผ้าและตัวเครื่องให้ใช้ไปได้อีกนานด้วย
5. ขาตั้งเครื่อซักผ้าไม่สมดุลกัน
จุดเล็ก ๆ ที่จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ เนื่องจากหากขาตั้งเครื่องซักผ้าไมสมดุลกัน จะทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักขึ้น ก่อนจะเปิดปุ่มทำงานเช็กให้ชัวร์ก่อนจะดีกว่าว่าขาตั้งเครื่องซักผ้าสมดุลกันหรือเปล่า ?
6. ไม่เคยเปิดฝาเครื่องทิ้งไว้
5. ขาตั้งเครื่อซักผ้าไม่สมดุลกัน
จุดเล็ก ๆ ที่จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ เนื่องจากหากขาตั้งเครื่องซักผ้าไมสมดุลกัน จะทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักขึ้น ก่อนจะเปิดปุ่มทำงานเช็กให้ชัวร์ก่อนจะดีกว่าว่าขาตั้งเครื่องซักผ้าสมดุลกันหรือเปล่า ?
6. ไม่เคยเปิดฝาเครื่องทิ้งไว้
เพราะการปิดฝาเครื่องทันทีหลังการซัก ความชื้นที่ยังอยู่ภายในจะทำให้เกิดจุดดำ ๆ หรือเชื้อราเกาะอยู่ตามขอบยางฝาปิดและส่วนอื่น ๆ ของตัวเครื่องที่มองไม่เห็น แถมยังทำให้เกิดกลิ่นอับอีกต่างหาก ฉะนั้นควรเปิดฝาทิ้้งไว้ก่อนจะปั่นผ้าครั้งต่อไปดีกว่า
7. ซักผ้าเยอะเกินไป
7. ซักผ้าเยอะเกินไป
ถังซักผ้าทุกเครื่องจะกำหนดปริมาณผ้าที่เหมาะกับถังซักมาให้แล้ว หากใส่เสื้อผ้าหนักเกินจำนวนที่ระบุ จะทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักและมีอายุการใช้งานสั้นลง นอกจากนี้จะส่งผลให้เสื้อผ้าไม่สะอาดด้วย
8. เปิดเครื่องซักต่อเนื่อง
8. เปิดเครื่องซักต่อเนื่อง
หากจำเป็นต้องซักผ้ามากกว่า 2 ครั้งในวันเดียวกัน ไม่ควรซักต่อกันทันที เพราะจะทำให้ระบบไฟฟ้าภายในช็อต หยุดทำงานชั่วขณะ หรือมีปัญหาอื่น ๆ จากความร้อนที่มากเกินไป หลังซักครั้งแรกควรหยุดพักเครื่องไว้สักครู่ ก่อนเริ่มซักถังต่อไปดีกว่า
ตอนนี้ก็รู้แล้วนะคะว่าจ้อควรระวังการใช้เครื่องซักผ้ามีอะไรบ้าง จะได้เลี่ยงซะตั้งแต่เนิ่น ๆ ป้องกันการพังพร้อมยืดอายุการใช้งานเครื่องซักผ้าให้นานขึ้น ด้วยวิธีการใช้และดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
ตอนนี้ก็รู้แล้วนะคะว่าจ้อควรระวังการใช้เครื่องซักผ้ามีอะไรบ้าง จะได้เลี่ยงซะตั้งแต่เนิ่น ๆ ป้องกันการพังพร้อมยืดอายุการใช้งานเครื่องซักผ้าให้นานขึ้น ด้วยวิธีการใช้และดูแลรักษาอย่างถูกวิธี