กินแล้วนอนทันทีอ้วนไหม กินข้าวเสร็จกี่ชั่วโมงถึงนอนได้

  กินอาหารแล้วนอนอ้วนไหม หลายคนสงสัยว่าหากกินอาหารแล้วนอนทันทีจะเป็นสาเหตุของความอ้วนที่เป็นอยู่นี่หรือเปล่า เราบอกเลยว่า กินแล้วนอน ไม่ได้แค่ทำให้อ้วนอย่างเดียวด้วยล่ะ

ด้วยไลฟ์สไตล์ของหลาย ๆ คนที่กลับมาถึงที่พักก็มืดค่ำ เวลากินอาหารเลยเลทเกินปกติ ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า กินแล้วนอนทันทีทำให้อ้วนได้ไหม หรือผลเสียของการกินแล้วนอนมีอะไรบ้าง  

ปัจจัยที่ทำให้คนอ้วนหรือไม่อ้วนจริง ๆ มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง เช่น พฤติกรรมการกิน อาหารที่ชอบกิน หรือแม้แต่การนอนดึกก็ส่งผลให้อ้วนขึ้นได้เช่นกัน ทว่าการกินแล้วนอนทำให้อ้วนขึ้นไหม บอกตรง ๆ ว่ายังไม่มีผลสรุปที่แน่ชัดว่าการกินแล้วนอนทำให้อ้วนขึ้นได้ เพราะความอ้วนจากการกินแล้วนอนมีหลายตัวแปรด้วยกัน อย่างบางคนจัดหนักมื้อเย็น กินอาหารทอด ของมัน พิซซ่า หรืออาหารขยะแล้วเข้านอน ตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้ออกกำลังกาย ร่างกายไม่ได้ใช้พลังงานมากเท่าอาหารที่กินเข้าไป เคสนี้การกินแล้วนอนทำให้อ้วนขึ้นได้แน่ ๆ ค่ะ

แต่สำหรับบางคนกินโยเกิร์ต กินอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารแคลอรีต่ำ เช่น สลัดผัก ผลไม้ นมไขมันต่ำ แล้วเข้านอน และเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่เสมอ คนนี้กินแล้วนอนอาจจะไม่อ้วนก็ได้ เนื่องจากหลักการลดความอ้วนหรือรักษาหุ่นให้ดีมีอยู่ข้อเดียวเท่านั้น คือ เอาเข้าให้น้อยกว่าเอาออก ซึ่งหมายความว่า หากคุณกลัวอ้วน ก็ควรต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่กินเข้าไปได้หมด จะได้ไม่มีแคลอรีสะสมอยู่ในร่างกายกระทั่งแปลงตัวเป็นไขมันพอกพูนตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ 

ฉะนั้นถ้าถามว่ากินแล้วนอนอ้วนไหม ก็ต้องถามกลับว่าคุณกินอะไรก่อนเข้านอนล่ะ แล้วได้ออกกำลังกาย หรือมีโอกาสเคลื่อนไหวเพื่อให้ร่างกายดึงพลังงานมาใช้มากน้อยแค่ไหน ถึงจะตอบให้เคลียร์ได้ว่าพฤติกรรมกินแล้วนอนทันทีของคุณเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อ้วน น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า 

อย่างไรก็ตาม การกินแล้วนอนทันทีไม่เพียงแต่อาจจะทำให้อ้วนขึ้นเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีภัยสุขภาพที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงแถมมาด้วย ดังต่อไปนี้
กินแล้วนอนทันที ผลเสียมากกว่าผลดีแน่ ๆ

ถึงแม้ว่าการกินแล้วนอนไม่อาจทำให้อ้วนขึ้นได้กับทุกคน แต่พฤติกรรมกินแล้วนอนทันทีเพิ่มความเสี่ยงโรคทางเดินระบบอาหารให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันแน่นอนค่ะ โดยผลเสียจากการกินแล้วนอนก็มีดังนี้

1. โรคกรดไหลย้อน 

โรคกรดไหลย้อนเกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ซึ่งกรดเหล่านี้มีความเข้มข้นสูงมาก ทำให้เกิดอันตรายต่อหลอดอาหาร และเยื่อบุในหลอดอาหารที่มีความบอบบาง กระทั่งทำให้เกิดการอักเสบตามมา 

ทั้งนี้พฤติกรรมกินแล้วนอนทันทีจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงโรคกรดไหลย้อนมากขึ้น เนื่องจากปกติเมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายจะต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารในกระเพาะอาหารราว 2-3 ชั่วโมง โดยในระหว่างการย่อยอาหารที่ว่านี้ กรดในกระเพาะอาหารจะถูกผลิตออกมามากขึ้นเพื่อทำการย่อยอาหารที่เรากินเข้าไป ซึ่งหากร่างกายอยู่ในแนวตั้งตรง (ในท่านั่งหรือท่ายืน) กรดในกระเพาะอาหารก็จะทำหน้าที่ย่อยอาหารตามปกติ ไม่ไหลย้อนไปทางไหน ทว่าเมื่อไรที่เราเอนตัวลงนอนในระหว่างที่ร่างกายกำลังย่อยอาหาร ท่าเอนนอนลงไปนี่แหละค่ะที่จะทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาทางหลอดอาหาร ก่อให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก และความเจ็บป่วยอื่น ๆ ตามมาได้

2. กินแล้วนอน ท้องอืด

บางคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ท้องอืดจากพฤติกรรมกินแล้วนอนทันที โดยอาการท้องอืดแทบจะเกิดขึ้นในทันทีที่เอนตัวลงนอนก็ว่าได้ มีความรู้สึกเหมือนอาหารในกระเพาะอาหารไหลมาถึงคอ ในบางเคสอาจถึงขั้นอาเจียนออกมาเล็กน้อยเลยก็เป็นได้ค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่า หลังจากการรับประทานอาหาร ร่างกายต้องใช้เวลาย่อยอาหารเหล่านั้นประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ดังนั้นหากเรานอนในขณะที่ท้องกำลังทำการย่อยอาหารอยู่ ความผิดปกติเหล่านี้คงหนีไม่พ้น นอนหลับไปก็คงไม่ค่อยสบายตัว โดยเฉพาะคนที่จัดหนักจัดเต็มในมื้อสุดท้ายก่อนเข้านอน

3. นอนไม่หลับ

อ่านมาถึงข้อนี้บางคนแอบเถียงในใจว่า หนังท้องตึงหนังตาฉันก็หย่อน พร้อมนอนเต็มที่แล้วจ้า...จะนอนไม่หลับได้ยังไง แต่เราขออธิบายอย่างนี้ค่ะว่า พฤติกรรมกินแล้วนอนทันทีอาจไม่ถึงกับทำให้นอนไม่หลับ แต่จะส่งผลให้การนอนหลับนั้นไม่มีคุณภาพ กล่าวคือ อาจมีอาการนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ นอนฝันร้าย หรือนอนหลับไม่ค่อยสนิทนัก เนื่องจากเรานอนในขณะที่กระเพาะอาหารยังทำหน้าที่ไม่เสร็จ ดังนั้นกระบวนการเบิร์น กระบวนการย่อยอาหารดังกล่าว ยังไงก็ส่งผลให้ร่างกายนอนหลับดี ๆ ไม่ได้แน่ 

เห็นไหมคะว่าพฤติกรรมกินแล้วนอนส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ไม่น้อยเลย ยิ่งกับโรคกรดไหลย้อน ใครไม่เคยเป็นก็อย่าพยายามเป็นเลยดีกว่า เพราะอาการกรดไหลย้อนไม่สนุกเลยนะคะ ทรมานอย่างเนื่อง การรักษาก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว อีกทั้งหากการนอนหลับของเราไม่มีคุณภาพ ร่างกายก็เหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ ตื่นเช้าขึ้นมาคงไม่สดชื่น หรืออาจส่งผลให้มีความรู้สึกอ่อนเพลีย อยากกินอาหารหวาน ๆ เพื่อเติมความสดชื่นให้ร่างกาย พาให้น้ำหนักขึ้น อ้วนขึ้นก็ตรงนี้ล่ะ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมระหว่างการกินมื้อสุดท้ายกับการเข้านอน ควรเว้นระยะให้ห่างกันประมาณ 3 ชั่วโมงกำลังดีค่ะ และเพื่อสุขภาพที่ดี แนะนำให้ออกไปเดินเล่นสัก 30 นาทีหลังกินข้าวอิ่มแล้ว หรือพยายามหากิจกรรมที่ร่างกายได้เคลื่อนไหว เช่น ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำงานบ้านสักหน่อยเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและช่วยในการเผาผลาญแคลอรี แล้วค่อยอาบน้ำ จากนั้นก็ค่อยเข้านอน

กินแล้วนอนทันทียังไงก็ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ของคนอยากมีสุขภาพดีนะคะ ฉะนั้นหากจำเป็นต้องกินมื้อดึกจริง ๆ ควรกินอาหารที่ย่อยง่าย อย่าง โจ๊ก ผลไม้ สลัดผัก เพื่อย่นระยะเวลาในการย่อยอาหารของร่างกาย และเว้นระยะห่างสัก 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำก่อนเข้านอน

ที่มา               health.kapook.com