การสังเกตสัญญาณอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เช็กเป็น เห็นก่อน โอกาสรอดก็สูง
มะเร็งทุกชนิดหากเราสังเกตเห็นสัญญาณอาการที่ส่อว่าจะนี่อาจเป็นมะเร็ง แน่นอนว่าหากพบได้ในระยะแรก ๆ การรักษามะเร็งย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการพบเซลล์มะเร็งเมื่อสายเกินไป เช่นเดียวกันกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งถือเป็นมะเร็งในระบบโลหิตที่พบได้บ่อยทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะจำแนกออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ได้แก่ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin disease) ซึ่งพบได้มากในวัยผู้ใหญ่ และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิน (Non-hodgkin Lymphoma) ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงอายุ 10-35 ปี และในวัย 60 ปีขึ้นไป
โดยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้ง 2 ชนิดจะมีอาการ ความรุนแรงของโรค และการตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทในสุขภาพ เราจะขอพาทุกคนมาเช็กอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกันค่ะ
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการในระยะแรก ๆ
1. อาจคลำได้ก้อนโตที่ใดที่หนึ่งของร่างกาย เช่น คลำก้อนได้ที่คอ ที่ขาหนีบ หรือในร่องเหนือกระดูกไหปลาร้าโดยไม่มีอาการเจ็บปวด ไม่แสดงความผิดปกติ เช่น ผิวแสบแดงร้อน
2. ก้อนเนื้อมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะมีลักษณะคลำได้หยุ่น ๆ มือ คล้ายยางลบดินสอ กลิ้งไปกลิ้งมาได้เล็กน้อย โดยก้อนนั้นอาจมีขนาดแตกต่างกันไป บางก้อนโตเร็วมากอย่างสังเกตเห็นได้ชัด บางก้อนโตช้ามากใช้เวลาเป็นปี ๆ
3. มีไข้บ่อย อุณหภูมิในร่างกายสูง-ต่ำ สลับกันไป
4. เหงื่อออกง่าย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
5. กินได้น้อยลง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
6. อ่อนเพลียง่าย เหนื่อยง่าย
7. หายใจไม่สะดวก ไอเรื้อรัง
8. มีอาการคันเรื้อรังตามร่างกาย โดยไม่พบสาเหตุที่ทำให้คัน หรือแม้กระทั่งตุ่มคัน
9. ปวดหัวเรื้อรัง
10. อาจตรวจพบต่อมทอนซิลโตโดยบังเอิญ
11. มีภาวะติดเชื้อง่าย
12. ซีด มีเลือดออกง่าย เช่น จุดเลือดออกตามตัว หรือพบจ้ำเลือดที่ผิวหนัง
อย่างไรก็ตาม สัญญาณเตือนอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองข้างต้นเป็นเพียงจุดสังเกตง่าย ๆ ที่เราสามารถเช็กร่างกายได้ด้วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ดี การคลำได้ก้อนในร่างกายอาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป โดยอาจเป็นแค่อาการอักเสบธรรมดา หรือเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย สามารถผ่าตัดให้หายได้ หรือในกรณีที่ก้อนนั้นเป็นเซลล์มะเร็งก็ตามที การตรวจพบสัญญาณของโรคในระยะเริ่มต้นก็มีโอกาสรักษาให้หายได้เช่นกัน
ทว่าในกรณีที่เราไม่ได้เอะใจกับความผิดปกติของร่างกาย กระทั่งเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ อาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะต่าง ๆ ก็จะมีดังต่อไปนี้
อาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะต่าง ๆ
* มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 1
เป็นระยะที่พบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพียงตำแหน่งเดียว โดยมากจะพบเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอด้านซ้าย หรือบริเวณรักแร้ด้านขวาบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ซึ่งอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรก ผู้ป่วยมักจะมีอาการต่อมน้ำเหลืองบวม คลำได้ก้อนบริเวณนั้น ๆ โดยอาจไม่รู้สึกเจ็บหรือเป็นก้อนที่กดแล้วเจ็บก็ได้ ร่วมกับมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
* มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2
ระยะนี้จะพบว่าต่อมน้ำเหลืองโต 2 ตำแหน่งขึ้นไป แต่ยังอยู่ในส่วนของกระบังลมฝั่งเดียวกัน เช่น พบเซลล์มะเร็งในช่องอกหรือช่องท้องอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือพบเซลล์มะเร็งที่คอด้านซ้าย ร่วมกับทรวงอก โดยอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะที่ 2 หากเกิดในส่วนของช่องท้องจะมีอาการแน่นท้อง กินอาหารได้น้อย เบื่ออาหาร กินไปนิดเดียวก็อิ่ม อาหารไม่ย่อย ท้องโตขึ้นจากการมีน้ำในช่องท้อง รวมไปถึงอาการปวดหลังเนื่องจากต่อมน้ำเหลืองหลังช่องท้องโต หรือบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนบ่อย ๆ ร่วมด้วย
ทั้งนี้หากเซลล์มะเร็งไม่ได้อยู่ในช่องท้อง แต่ไปเกิดในบริเวณทรวงอก ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก มีอาการปวดบวมที่แขนข้างซ้าย หรือมีอาการเลือดคั่งจนผิวบริเวณคอ แขน หน้าอก เป็นจ้ำแดง เนื่องจากเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะส่งผลให้เลือดในบริเวณนั้น ๆ ไหลย้อนกลับ ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดเสียสมดุลไป และอาจก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะเรื้อรังได้ด้วย
* มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 3
ระยะนี้เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายมายังส่วนเหนือและส่วนใต้ของกระบังลม เช่น มีต่อมน้ำเหลืองโตที่รักแร้ ร่วมกับขาหนีบ โดยผู้ป่วยจะมีอาการบวมจากก้อนมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ใต้รักแร้หรือที่ขาหนีบ โดยก้อนนั้นอาจกดเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้ แต่ส่วนมากผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ซีด อ่อนเพลียร่วมด้วย
* มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย อาการของผู้ป่วยจะค่อนข้างมีความรุนแรง เนื่องจากเซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายออกนอกระบบน้ำเหลือง เช่น ลุกลามมาที่ไขกระดูก หรือเนื้อเยื่ออวัยวะอื่น ๆ เช่น ผิวหนัง กระเพาะอาหาร ตับ ปอด สมอง และกระดูก ซึ่งหากเซลล์มะเร็งไปลุกลามที่จุดไหน ก็เหมือนจะมีอาการอักเสบเกิดขึ้น ณ จุดนั้น โดยหากลุกลามที่สมอง อาจมีความผิดปกติทางด้านความคิด มีอาการแขน-ขาอ่อนแรง ชัก บุคลิกภาพเปลี่ยนไป ปวดหัวเรื้อรัง ความจำเสื่อม หรือหากต่อมน้ำเหลืองโตจนกดเบียดหลอดเลือด เส้นประสาท ก็อาจนำมาสู่อาการชาเรื้อรังตามแขนและขาร่วมด้วย
อย่างไรก็ดี อาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะแรก ๆ มักไม่ค่อยแสดงอาการให้เราสังเกตได้ เพราะอาการมักจะเหมือนความเจ็บป่วยทั่วไป ดังนั้นเราจึงควรต้องใส่ใจความผิดปกติของร่างกายให้มากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจหามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่เราสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ดังวิธีต่อไปนี้
เพื่อความไม่ประมาทในโรคภัย โดยเฉพาะโรคร้ายอย่างมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็ควรใส่ใจสุขภาพเพิ่มขึ้นกันอีกนิด คลำตรวจหาก้อนมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเดือนละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย และควรดูแลสุขภาพในด้านอื่น ๆ ร่วมด้วยนะคะ เพราะจริง ๆ แล้ว หากพบเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะเริ่มแรก โอกาสรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองให้หายก็มีความเป็นไปได้สูง
kapook