จากผลการวิจัยพบว่า การนำสัตว์เลี้ยงไปทำงาน สามารถลดความตึงเครียด และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วย ...
เชื่อไหม? ... สัตว์เลี้ยงช่วยอาจงานคุณไม่ได้ แต่ช่วยให้คุณคลายเครียดได้
จากผลการวิจัยพบว่า การนำสัตว์เลี้ยงไปทำงาน สามารถลดความตึงเครียด และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วย
สัตว์เลี้ยง นอกจากจะช่วยในเรื่องของการลดความตึงเครียด ยังสามารถเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานได้อีกด้วย
นาง Fiona Woodhouse จาก SPCA ระบุว่าการนำสัตว์เลี้ยงไปทำงานด้วยสามารถลดความตึงเครียดจากบรรยากาศการทำงาน และยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น Woodhouse กล่าวว่า การมีสัตว์เลี้ยงในออฟฟิศสามารถเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีและอารมณ์ในเชิงบวกให้กับพนักงานได้อีกด้วย
โดยหัวหน้าของบริษัท Garage Society ยังมีนโยบายที่ให้พนักงานสามารถนำสัตว์เลี้ยงของตนเองมาทำงานได้ที่ออฟฟิศในย่าน Sai Ying Pun ในประเทศฮ่องกง นอกจากนี้พวกเค้ายังมีความคิดที่ว่าสัตว์เลี้ยง จะช่วยละลายพฤติกรรมระหว่างเพื่อนร่วมงานและยังส่งเสริมบรรยากาศที่ดีและลดความตึงเครียดในที่ทำงานอีกด้วย โดยที่ออฟฟิศแห่งนี้มีสุนัขที่มีชื่อว่า Mui Mui ซึ่งถือว่าเป็นมาสคอตของออฟฟิศนี้เลยทีเดียว โดยสุนัขไม่ได้เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่เราสามารถมองเห็นได้ในย่าน Sai Ying Pun บ่อยๆ เจ้าของร้านขายของแห้งหลายๆห่างในย่านนี้ก็อนุญาตให้แมวเข้ามาอยู่ในร้านของเขาเช่นกัน โดยเชื่อว่าแมวนั้นคือสัตว์นำโชค
จากผลสำรวจจะพบว่า ความเครียดในการทำงานถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งในฮ่องกง จากการสำรวจของธนาคาร UBS ในเมือง 71 เมือง พบว่า ตัวเลขเฉลี่ยของชั่วโมงการทำงาน ของฮ่องกงอยู่ที่ 50.1 ชม./ต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ในเดือนมิถุนายนปี 2015 ได้พบว่าพนักงานกว่า 60 %ของ 377 คน ได้รับความทุกข์ทรมานจากความเครียดอยู่ในระดับสูง ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพและการทำงานได้
มหาวิทยาลัย Virginia Commonwealth ในสหรัฐอเมริกาได้ทำการทดลองในปี 2012 เพื่อติดตามความเชื่อมโยงของผลกระทบจากสัตว์เลี้ยงและความเครียดในการทำงาน โดยจากผลวิจัยได้พบว่า พนักงานที่นำสัตว์เลี้ยงมาทำงาน สามารถลดระดับความเครียดได้ตลอดทั้งวัน
ในปัจจุบันบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google และ VMWare ได้มีนโยบายในการให้พนักงานสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาทำงานได้ ธุรกิจประกัยภัยสัตว์เลี้ยงยังเติบโตและได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงหลายปีมานี้และมีแนวโน้มที่จะสามารถเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆในอนาคต ทางด้าน Pew Research Center ยังค้นพบอีกว่า ชาวอเมริกันผู้อยู่ในช่วงอายุที่เรียกได้ว่า Gen Y นั้นเลือกที่จะเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงมากกว่าการมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม โดยปัจจุบัน 75% ของชาวอเมริกันในช่วงอายุ 30 ปี นั้นเป็นเจ้าของสุนัข และ 51% เป็นเจ้าของแมว จากสถิติของบริษัทการตลาด Mintel