พูดถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แน่นอนว่าย่อมมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคุณถึงขนาดทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจในการเข้าสังคมกันเลยก็มี ...
10 ความจริงเรื่อง "กลิ่นตัว" ที่คุณอาจยังไม่รู้
พูดถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แน่นอนว่าย่อมมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคุณถึงขนาดทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจในการเข้าสังคมกันเลยก็มี นอกจากกลิ่นเหม็นใต้วงแขนที่ทำให้คุณเสียเซลฟ์ได้แล้ว คุณจะเชื่อหรือไม่ว่าเรื่องของกลิ่นตัวก็มีสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว ไปดูความจริง 10 ประการเกี่ยวกับกลิ่นตัวที่คุณอาจจะยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
1. กลิ่นตัวไม่ได้เกิดจากเหงื่อ
หนุ่ม ๆทราบหรือไม่ว่าเหงื่อของคนเรานั้นไร้กลิ่น แต่กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่สร้างความรำคาญใจให้คุณนั้นเกิดจากแบคทีเรียบนผิวหนังทำปฏิกิริยากับเหงื่อที่ร่างกายหลั่งออกมาต่างหาก จึงทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ๆ โดยเฉพาะบริเวณใต้วงแขนที่มีต่อมเหงื่ออยู่มาก
2. กลิ่นตัวบอกโรคได้
มนุษย์เรานั้นมีกลิ่นตัวเป็นเอกลักษณ์ ฟังดูไม่น่าเชื่อแต่เป็นเรื่องจริงที่แต่ละคนมีกลิ่นเฉพาะตัว เรียกได้ว่าไม่ซ้ำใคร กลิ่นตัวบางอย่างอาจบ่งบอกว่าคุณกำลังป่วยอยู่ก็ได้ยิ่งถ้าคุณได้กลิ่นตัวแปลก ๆคล้ายกลิ่นไฮเตอร์แปลว่าคุณอาจจะกำลังเป็นโรคตับ โรคไต อยู่ก็ได้ แต่หากคุณได้กลิ่นตัวคล้ายกลิ่นผลไม้ส่วนใหญ่มักจะมีอาการของโรคเบาหวาน ทางที่ดีเมื่อได้กลิ่นตัวแปลก ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีกันบ้างน่าจะดีที่สุด
3. กลิ่นตัวหนุ่ม ๆ ดึงดูดเพศตรงข้าม
มีนักวิจัยที่ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับกลิ่นเหงื่อระบุว่า สารประกอบบางตัวที่อยู่ในเหงื่อของผู้ชายนั้นมีส่วนไปกระตุ้นการสั่งการของสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความรู้สึกทางเพศของสาว ๆ ทำให้มีอารมณ์หวั่นไหว เกิดความรู้สึกปิ๊งปั๊งกับคุณทันทีที่ได้กลิ่นเลยล่ะ แต่ในกรณีที่กลิ่นตัวของคุณแรงเกินไปคงต้องหาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมาเป็นตัวช่วยลดกลิ่นลงบ้างไม่เช่นนั้นจากที่จะเป็นการดึงดูดสาว จะกลายเป็นการทำให้สาว ๆ วิ่งหนีแทนซะมากกว่า
4. กลิ่นตัวมีผลต่อการเลือกคู่ของมนุษย์เรา
หากหนุ่ม ๆ มีความรู้สึกไม่พิศวาสกลิ่นตัวของคู่ควงของคุณขึ้นมา นั่นแปลว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเธออาจจะไปกันไม่รอดซะแล้วล่ะ ทั้งนี้ก็เพราะกลิ่นตัวของคนเรานั้นมีความสัมพันธ์กับการดึงดูดทางเพศ ซึ่งหากคุณไม่โอเคกับกลิ่นกายของอีกฝ่ายจะคบกันยาว ๆ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
5. กลิ่นตัวบ่งบอกการกินของคุณ
หนุ่ม ๆ ที่ชอบรับประทานอาหารเผ็ด ๆ อาทิเช่น เครื่องเทศ กระเทียม หัวหอม ยี่หร่า ก็เตรียมตัวรับมือกับกลิ่นตัวแรง ๆ ได้เลย เพราะอาหารกลิ่นฉุนเหล่านี้จะทำให้คุณมีกลิ่นตัวแรงนานถึง 24 ชม. หลังจากที่คุณรับประทานเข้าไป ใครไม่อยากเสียเซลฟ์เวลามีนัดเดทกับสาว ๆ ก็พยายามเลี่ยงอาหารเหล่านี้ก่อนวันนัดล่วงหน้าซักวันสองวันก็น่าจะโอเคแล้ว
6. ผู้หญิงเหม็นเหมือนหัวหอม ผู้ชายเหม็นเหมือนชีส
มีนักวิจัยออกมาระบุว่ากลิ่นตัวของสาว ๆ นั้นมักมีสารซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบอยู่ในปริมาณมาก และเมื่อซัลเฟอร์ทำปฏิกิริยากับเหงื่อก็จะทำให้เกิดกลิ่นคล้ายกลิ่นของหัวหอม ในขณะที่เหงื่อของหนุ่ม ๆ นั้นมีกรดไขมันเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่สูง เมื่อทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียบนผิวหนังก็จะทำให้เกิดกลิ่นคล้ายกลิ่นชีส
7. คนเอเชียมีกลิ่นตัวแรงไม่เท่าฝรั่ง
ชาวคอเคเชี่ยนและชาวแอฟริกันเป็นกลุ่มชนที่มีต่อมผมและต่อมขนมากกว่าชาวเอเชีย ดังนั้นร่างกายจึงมีการผลิตเหงื่อออกมาในปริมาณที่มากกว่า ทำให้ฝรั่งส่วนใหญ่ที่มาเจออากาศร้อน ๆ ของบ้านเรา ก็มักจะมีกลิ่นตัวค่อนข้างแรงกันเลยทีเดียว
8. มนุษย์เรามีกลิ่นเฉพาะตัวเช่นเดียวกับลายนิ้วมือ
ร่างกายคนเราผลิตกลิ่นออกมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสัมพันธ์กับการรับประทานอาหาร ของแต่ละคน นอกจากนี้ลักษณะทางพันธุกรรมก็มีส่วนทำให้กลิ่นตัวของคุณนั้นไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เช่นเดียวกับลายนิ้วมือ และ DNA ที่แต่ละคนนั้นมีไม่เหมือนกัน
9. เด็กเล็กไม่มีกลิ่นตัว
กลิ่นเหม็น ๆ ใต้วงแขนอาจจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเด็ก ๆ เลยจนกว่าจะเข้าสู่วัยแรกรุ่น โดยเด็ก ๆ จะเริ่มมีกลิ่นตัวกันได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 8-14 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มผลิตฮอร์โมนเพศชาย หรือ แอนโดรเจน ซึ่งส่งผลให้ต่อมเหงื่อเริ่มมีการผลิตกลิ่นตัวขึ้นมา
10. สาวๆ มักจมูกไวกับกลิ่นตัวมากกว่าหนุ่มๆ
หนุ่ม ๆ ทั้งหลายอย่าเพิ่งรำคาญเวลาสาว ๆเค้าสะกิดบอกคุณว่าแอบได้กลิ่นตัวคุณแล้วนะ เพราะมีนักวิจัยออกมายืนแล้วว่าโดยธรรมชาติแล้วสาว ๆมีความสามารถในการรับรู้กลิ่นได้ดีกว่าคุณ ดังนั้นถ้าเค้าทักคุณแล้วก็รีบหาทางจัดการกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์โดยด่วน ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเหงื่อใต้วงแขนเป็นประจำหลังอาบน้ำ คุณก็จะหมดห่วงกับปัญหากลิ่นตัวแล้วล่ะ