ปัญหาปากเหม็น กลิ่นปากหรือลมหายใจไม่สะอาด หากเกิดขึ้นกับใครนั้นก็ทำให้ขาดความมั่นใจ เป็นอะไรที่สังคมรังเกียจ เวลาไปพูดกับใคร หลายๆ คนก็เบือนหน้าหนี ...
จะบอกให้!! เรื่องกลิ่นปาก ปัญหาที่หลายคนมี แต่แก้ไม่หาย เลิกกลุ้ม..เรามีวิธีมาบอก!!
ปัญหาปากเหม็น กลิ่นปากหรือลมหายใจไม่สะอาด หากเกิดขึ้นกับใครนั้นก็ทำให้ขาดความมั่นใจ เป็นอะไรที่สังคมรังเกียจ เวลาไปพูดกับใคร หลายๆ คนก็เบือนหน้าหนี จะทำอะไรก็กังวลไปหมด หาวิธีลดกลิ่นปากก็ยังไม่ได้ผลดีพอ จะปรึกษาใครก็รู้สึกเป็นเรื่องที่น่าอาย ใครที่มีปัญหาปากเหม็นปล่อยไว้ไม่ได้นะคะ ฟังทางนี้ค่ะ เรามีวิธีช่วยให้คุณลดกลิ่นปากได้
เรื่องกลิ่นปาก ปัญหาที่หลายคนมี แต่มันแก้ไขได้ง่าย ๆ นะคะ มา! เราจะบอกให้
ที่จริงว่าจะเขียนกระทู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่ก็ขี้เกียจบ้าง ลืมบ้าง จนวันนี้ได้ไปอ่านกระทู้นึงที่พูดถึงเรื่องกลิ่นปากสาวสวย ซึ่งอ่านแล้วเห็นด้วยกะเขามากค่ะ (ยกเว้นเรื่อง one night stand นะคะ) เลยฮึดจะเขียนแนะนำทริคการแปรงฟันที่ทำให้คนที่เคยมีกลิ่นปากรุนแรงอย่างเรา กลายเป็นคนที่ไม่มีกลิ่นปากได้ค่ะ
อย่างที่บอกไปนะคะว่าเราเคยมีกลิ่นปากมาก่อน จนถึงช่วงประมาณ ม.ปลายเลยล่ะค่ะ (มันแย่มากเลยอะ ปล่อยให้ปากเหม็นมานานขนาดนี้ได้ไงฟะ) ซึ่งสาเหตุที่ปล่อยให้ตัวเองมีกลิ่นปากมานานขนาดนี้ เราคิดว่าเป็นเพราะ
1. ชินกลิ่นตัวเองค่ะ ซึ่งเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่มีกลิ่นปาก ก็เป็นแบบนี้ค่ะ
2. ไม่เคย ไ ม่ มี กลิ่นปากมาก่อน เลยไม่รู้ว่า อ๋ออออ เวลาปากสะอาดเนี่ย มันจะไม่มีกลิ่นจริง ๆ นะเว่ย มันจะรู้สึกปากโล่ง ๆ สดชื่นมากเลยเอาะ ไม่เหมือนตอนมีกลิ่นปาก ที่มันจะรู้สึกว่าในโพรงปากเรามันร้อน ๆ หน่อย ๆ ยังไงไม่รุ บอกไม่ถูกอะค่ะ
3. ได้กลิ่นปากคนอื่นเหมือนกัน เลยคิดว่า เออ มันก็เรื่องธรรมดานี่หว่า ที่จะมีกลิ่นปาก เราไม่ผิดเน่ คนอื่นก็มีนะเว่ยยยย
เนี่ยค่ะ สาเหตุสำคัญที่เราประมวลได้จากการย้อนไปพิจารณาตัวเองเมื่อก่อน เพราะฉะนั้น คนมีกลิ่นปากมักจะไม่รู้ตัวหรอกค่ะ ว่าเนี่ย ฉันกำลังมีกลิ่นปากอยู่นะ ต้องปรับปรุง ต่อให้มีคนมาบอก มาแซว บางทีก็ยังไม่รู้สึกรู้สาค่า (อันนี้หมายถึงเราเองนะคะ เคยเป็นงี้มาก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าละเลยคำแซวของคนอื่นนะคะ เพียงแต่ตอนนั้น มันคิดแบบ ข้อ 3 ด้วยอะค่ะ)
คราวนี้มาดูวิธีเช็คกลิ่นปากของตัวเองดีกว่าค่ะ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเวลาปากสะอาด มันเป็นอย่างไร นั่นก็คือ ให้อ้าปากกว้าง ๆ แล้วเอานิ้วเข้าไปแตะที่โคนลิ้นค่ะ แล้วลองดมดูค่ะ (วิธีนี้เคยอ่านเจอจากในกระทู้ pantip นี่แหละค่ะ แต่นานมาแล้ว ขอโทษด้วยค่ะ จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหน)
เป็นไงคะ?? มึนหัว วิงเวียน คลื่นไส้กันบ้างรึเปล่า หลังจากทำตามวิธีนี้ อิอิ
คือถ้าปากสะอาดแล้วคุณจะไม่ได้กลิ่นเน่า ๆ เลยค่ะ มันจะมีเพียงกลิ่นน้ำลายอ่อน ๆ อ่อนมากกกกก มาก ๆ จนแทบไม่ได้กลิ่นเลยน่ะค่ะ แต่ถ้าเหม็นหึ่งล่ะก็ มาลองทำตามวิธีของเราดูนะคะ เราเชื่อว่ามันน่าจะดีขึ้นนะคะ เพราะเราก็เคยปากเหม็นมาก่อนอะ แต่ตอนนี้เราแก้ปัญหานี้ได้แล้วนะคะ
จากที่เราสังเกตตัวเองมา เราพบว่าสิ่งที่ทำให้ปากเราเหม็นคือ "น้ำลายเหนียว" ค่ะ เมื่อไรที่น้ำลายเหนียว ให้รู้ไว้เลยว่าเริ่มมีกลิ่นปากละ ยิ่งหนืดเท่าไร กลิ่นยิ่งหึ่งค่ะ คราวนี้เวลาเราเห็นใครอ้าปากแล้วดูมีเส้นน้ำลายหนืด ๆ ยืด ๆ เยอะเนี่ย เราจะแอบสงสัยไว้ก่อนเลยว่าคนนี้น่าจะมีกลิ่นปากน่ะค่ะ ซึ่งเท่าที่เจอมาก็ตรงตามที่สงสัยนะคะ
ดังนั้น เรามากำจัดน้ำลายเหนียว ๆ นี้กันดีกว่าค่ะ เพื่อความสุขของคนรอบข้าง
1. แปรงสีฟันที่ใช้นั้น ขนแปรงจะต้องไม่แข็ง หรือนิ่มเกินไปนะคะ เพราะถ้าแข็งเกินไปเวลาแปรงก็จะเจ็บเหงือกไปหมด แปรงไม่ทั่วถึง แต่ถ้านิ่มไปก็เหมือนเราเอาแปรงสีฟันบาน ๆ มาถูอะค่ะ ส่วนตัวเราชอบใช้แบบที่มันมีขนสั้นสลับยาวด้วยอะค่ะ แบบนั้นมันรู้สึกยิ่งแปรงได้ทั่วถึงขึ้น
2. ยาสีฟันที่ดี อันนี้ไม่รู้จะแนะนำยังไงเหมือนกันค่ะ กลัวจะกลายเป็นโฆษณาไป ต้องลองใช้ แล้วสังเกตกันเอาเองนะคะ เพราะบางยี่ห้อก็มีผลจริงๆนะคะ ส่วนตัวเราชอบที่เป็นแบบสมุนไพรค่ะ สดชื่นดี
3. แปรงฟันให้ครบทั้ง 3 ด้านของผิวฟันนะคะ ทั้งด้านบน ด้านนอก ด้านใน และแปรงให้ครบทุกซี่ ทั้งฟันบน ฟันล่างด้วย ที่ต้องบอกอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่หลายคนก็รู้อยู่แล้ว ก็เพราะว่าบางคนอาจแปรงไปงั้น ให้มันเสร็จ ๆ ไป ไม่ได้ใส่ใจจะแปรงให้ทั่วน่ะค่ะ แบบนั้นนอกจากจะมีกลิ่นปากแล้ว ยังอาจทำให้ฟันผุหลายซี่ด้วยนะคะ
4. แปรงลิ้น และเพดานปากด้วยค่ะ ข้อนี้แหละค่ะ สำคัญมากเลย เมื่อก่อนเราไม่ค่อยแปรง 2 จุดนี้ค่ะ เลยมีกลิ่นปาก แต่พอทำแล้วก็หายเป็นปลิดทิ้ง เพราะเวลาแปรงลิ้นจนเกือบถึงโคนลิ้น มันจะทำให้เราคายน้ำลายเหนียว ๆ ออกมาได้หมด โดยอัตโนมัติค่ะ
วิธีการแปรงลิ้น และเพดานเนี่ย อย่าแปรงรุนแรงนะคะ ค่อย ๆ ถูไป เดี๋ยวเพดานจะถลอก หรือปุ่มรับรสที่ลิ้นจะหลุดหมดซะก่อน แล้วก็ไม่ใช่ว่าทิ่มแปรงเข้าไปซะถึงโคนลิ้นนะคะ กะ ๆ เอา แค่เกือบถึงก็พอค่ะ ตอนแรก ๆ อาจจะยังรู้สึกแปลก ๆ นะคะ แต่เดี๋ยวก็ชินค่ะ น้ำลายเหนียวจะออกมาหมดเลย ดี๊ดี
5. บ้วนปากแล้วกลั้วคอด้วยค่ะ เวลาที่เรากลั้วคอด้วย เราจะรู้สึกว่าได้ล้างสิ่งสกปรกบริเวณโคนลิ้นด้วยน่ะค่ะ แปรงฟันเสร็จแล้ว สดชื่นนนนนนน มั่ก ๆ
ทริคสำคัญก็คือ 5 ข้อที่กล่าวไปนี่นะคะ ถ้าทำตามนี้แล้ว ก็แทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นปากระหว่างวันเลยค่ะ แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นอีกอะนะ ก็เลยขอต่อข้ออื่นอีกสักหน่อยนะคะ
6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ถ้ามาตรฐานก็อย่างน้อย 6-8 แก้ว อย่างที่รู้ ๆ กันนะคะ พยายามอย่าปล่อยให้คอแห้งค่ะ จิบน้ำบ่อย ๆ ต่อให้คุณไม่ได้พูดคุยกับใครทั้งวัน แต่ได้จิบน้ำเรื่อย ๆ น้ำลายก็ไม่บูดค่ะ สังเกตดูนะคะ ถ้าเราคอแห้งแล้ว น้ำลายจะเริ่มเหนียวละ กลิ่นปากเริ่มมาหน่อย ๆ ละล่ะ
7. หลังรับประทานอาหารเสร็จ ควรดื่มน้ำสักหน่อยค่ะ และถ้าจะให้ดี ควรใช้ไหมขัดฟัน และบ้วนปากด้วยค่ะ เพื่อขจัดกลิ่น และเศษอาหารที่ติดฟัน บ้วนด้วยน้ำเปล่าก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีน้ำยาบ้วนปากด้วยจะยิ่งดีเข้าไปอีกค่ะ (ข้อนี้เพิ่มเติมเรื่องไหมขัดฟันตามที่ทุก ๆ ท่านติติงกันเข้ามานะคะ แถมคลิปคุณหมอท่านนึงที่แนะนำเรื่องการใช้ไหมขัดฟันด้วยนะคะ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ มัวแต่มองหน้าคุณหมอ อิอิ)
8. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง โดยเฉพาะเวลาที่ต้องพบปะพูดคุยกับคนอื่น ๆ ถ้าอยู่คนเดียวจะกินอะไรก็กินไปเถอะค่ะ แต่ถ้าต้องใกล้ชิดใคร ก็อยากให้แคร์ประสาทการรับกลิ่นของเขาบ้างนะคะ ยกตัวอย่างอาหารที่มีกลิ่นแรงก็อย่างเช่น กระทียม หัวหอม ผักชี ผักกระเฉด กุยช่าย กะปิ ส้มตำ ฯลฯ
9. อย่านอนน้อยเกินไปค่ะ วันไหนเรานอนน้อยมาก จะรู้สึกได้จริงว่าวันนั้นมีกลิ่นปากง่ายกว่าปกติ อันนี้เราไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่าทำไมนอนไม่พอแล้วมันถึงส่งผลไปถึงกลิ่นปากได้นะ ท่านใดช่วยอธิบายเราหน่อยได้มั้ยคะ
มีเท่านี้แหละค่ะทริค 9 ข้อ ที่เราอยากให้เพื่อน ๆ ลองทำกันดู แล้วจะรู้ค่ะว่าปากสะอาดเนี่ย มันดีจริง ๆ นะ กล้าพูดคุยกับคนอื่นใกล้ ๆ ได้อย่างมั่นใจ และยิ่งถ้าคุณมีแฟนแล้ว ยิ่งควรระวังเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม การต้องจูบกับคนที่มีกลิ่นปากเนี่ย มันทรมานอยู่เหมือนกันนะคะ ต่อให้จูบเก่งแค่ไหน ก็สะดุดเพราะกลิ่นปากน่ะ เลยฟินไม่สุดเลยค่ะ
เราขอฝากกระทู้นี้ไว้หน่อยนะคะ ขอโทษด้วยค่ะที่ยาวหน่อย มันอัดอั้นมาก อยากบอก อยากแชร์ เผื่อคนที่เราอยากแนะนำเรื่องกลิ่นปาก จะได้ลองมาอ่าน และทำตามดูบ้าง มันหายจริง ๆ นะเธอ เชื่อฉันเถอะ ฉันเคยเป็นมาก่อนน่ะ
****ขอโทษด้วยค่ะที่พลาดอย่างแรง เรื่องไหมขัดฟัน เพราะเราเองก็ไม่ได้ใช้ค่ะ ยอมรับเลย อาจจะเพราะฟันเราค่อนข้างห่างเลยไม่ค่อยมีเศษอาหารมาติดฟันฝังแน่นมาก (ก็ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจกับความห่างนี้นะคะ T.T) เลยอาศัยการแปรงและบ้วนปากเป็นหลัก แต่จากนี้จะเริ่มใช้บ้างแล้วค่ะ เพื่อความสะอาดทุกซอกทุกมุม ต้องขอบคุณทุกความคิดเห็นมาก ๆ เลยนะคะ ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นตั้งหลายอย่างแน่ะ
อย่าปล่อยให้กลิ่นปากเหม็นสร้างปัญหาให้กับตัวคุณและบุคคลรอบข้าง เริ่มต้นดูแลช่องปากและฟันอย่างดีวันนี้ เพื่อเสริมความมั่นใจ บุคลิกภาพที่ดี การอยู่ร่วมในสังคมอย่างมีความสุขค่ะ