ทุกคนคงเคยรู้สึกเครียด โศกเศร้า ทุกข์ทรมาน หรือขัดแย้งกัน ดังนั้นหากคุณรู้สึกไม่สบายหรือไม่เป็นตัวของตัวเองก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าได้เวลาที่ต้องพบกับมืออาชีพเพื่อจัดการปัญหาแล้วหรือยัง? ...
8 สัญญาณเตือน ว่าคุณควรไปพบกับ จิตแพทย์ ได้แล้ว
ทุกคนคงเคยรู้สึกเครียด โศกเศร้า ทุกข์ทรมาน หรือขัดแย้งกัน ดังนั้นหากคุณรู้สึกไม่สบายหรือไม่เป็นตัวของตัวเองก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าได้เวลาที่ต้องพบกับมืออาชีพเพื่อจัดการปัญหาแล้วหรือยัง? ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันราว 1 ใน 5 ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการป่วยทางจิตและมีเพียงร้อยละ 46-65 ที่อยู่ในระดับปานกลาง คนที่ได้รับความช่วยเหลือตั้งแต่เนิ่นๆจะยิ่งทำให้ปัญหาผ่านพ้นไปได้ง่ายขึ้น อีกทั้งเวลาที่ต้องมานั่งคิดมากก็ลดน้อยลง ทำให้ความเครียดในเรื่องนั้นๆลดลงตามไปด้วย แล้วอะไรล่ะคือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเราควรไปพบกับจิตแพทย์ได้แล้ว?
เราทุกคนต่างมีอารมณ์โกรธและเศร้า แต่ว่ามีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยขนาดไหนล่ะ? อารมณ์ดังกล่าวบั่นทอนประสิทธิภาพหรือเปลี่ยนแปลงความสามารถในการทำงานของคุณหรือเปล่า รูปแบบความรุนแรงและความหวาดวิตกในทุกๆเรื่องสามารถทำให้สุขภาพทรุดโทรมได้จริงๆ หากชีวิตของคุณถูกบีบคั้นมากเกินไปเพราะคุณเอาแต่หลีกเลี่ยงมันก็น่าจะได้เวลาที่คุณจะต้องพบกับใครบางคนแล้ว
คุณเป็นทุกข์จากเหตุการณ์บางอย่างและไม่สามารถเลิกคิดถึงมันได้ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดจากการเสียชีวิตของคนในครอบครัว ความสัมพันธ์ที่เลิกรากัน หรือการตกงานก็เป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่คุณต้องเข้ารับคำปรึกษาจากใครสักคน เรามักคิดว่าความรู้สึกเหล่านี้จะหายไปเอง อย่างไรก็ตามคุณควรพูดคุยกับใครสักคนเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ที่สามารถส่งผลกระทบในชีวิต
คุณมีอาการปวดหัวซ้ำๆ ปวดท้อง ระบบภูมิคุ้มกันลดลงแบบไม่ทราบสาเหตุอารมณ์ที่ขุ่นเคืองสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรา ตั้งแต่อาการปวดท้องไปจนถึงปวดหัวเรื้อรัง การเป็นหวัดบ่อย หรือแม้แต่ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ที่ลดลง นอกจากนี้ยังรวมถึงอาการปวดกล้ามเนื้อเฉียบพลันรุนแรงและอาการปวดคอซึ่งอาจเป็นสัญญาณของความเครียด
คุณกำลังใช้สารบำบัดหากคุณรู้สึกว่าตัวเองรับประทานยาในปริมาณที่มากขึ้นหรือบ่อยขึ้น หรือแม้กระทั่งคิดถึงการใช้ยา สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นสัญญาณบอกเหตุได้ว่าคุณต้องการใช้มันเพื่อให้ลืมปัญหาบางอย่าง อาการอยากอาหารที่เปลี่ยนไป เช่น รับประทานอาหารมากเกินไปหรืออดอาหารไปเลยล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าคนๆนั้นอาจกำลังต่อสู้กับความเครียดอยู่
ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงหากคุณได้รับการตอบรับในเชิงลบจากผู้จัดการหรือผู้ร่วมงานว่าคุณทำงานผิดพลาดบ่อยก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณควรหาเวลาไปขอคำปรึกษาจากมืออาชีพได้แล้ว
คุณเหมือนถูกตัดขาดจากกิจกรรมที่โปรดปรานหากการพบปะเพื่อนฝูงและการรวมญาติกันทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขอีกต่อไป นั่นก็อาจหมายความว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น หากคุณล้มเหลวและรู้สึกเหมือนว่าไร้จุดมุ่งหมายหรือเป็นทุกข์ การพบกับนักบำบัดจะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
ความสัมพันธ์ของคุณเผชิญกับความตึงเครียดหากคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุขในการปฏิสัมพันธ์กับคนรัก คุณอาจต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรักหรือครอบครัว คุณควรเลือกใช้คำพูดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังรวมถึงภาษากายและทัศนคติโดยรวมของคุณด้วย
พวกเพื่อนๆกังวลเกี่ยวกับคุณบางครั้งเพื่อนๆก็สังเกตเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในได้ หากเพื่อนๆพูดอะไรบางอย่างกับคุณ เช่น “ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับคนอื่นหรือยัง?” หรือ “เป็นไงบ้างฉันเป็นห่วงเธอนะ” นั่นล่ะคือสัญญาณที่คุณควรรีบเข้ารับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ