ี่น้องญามาอะห์ ที่เป็นที่รักของอัลเลาะห์ ทุกท่าน เราทั้งหลาย ควรดำรงอยู่บนความยำเกรง บนความสำรวมตน ต่ออัลเลาะห์ อย่างแท้จริง เราทั้งหลายต้องยึดมั่น ในกรอบอิสลาม อย่างเหนียวแน่น ...
ความสุขที่แท้จริง
โดย ท่านจุฬาราชมนตรี นายอาซิส พิทักษ์คุมพล
السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
พี่น้องญามาอะห์ ที่เป็นที่รักของอัลเลาะห์ ทุกท่าน เราทั้งหลาย ควรดำรงอยู่บนความยำเกรง บนความสำรวมตน ต่ออัลเลาะห์ อย่างแท้จริง เราทั้งหลายต้องยึดมั่น ในกรอบอิสลาม อย่างเหนียวแน่น และทุกคนต้องระวัง หลีกเลี่ยงจากเรื่องของ معصية และความเลวร้ายต่างๆ เพราะแน่นอนเท้าของพวกเราทุกคน ไม่อาจที่ยืนอยู่บนกองไฟ แห่งอัลเลาะห์ ได้ ในวันอาคิเราะห์ อย่างแน่นอน เราทั้งหลาย เตรียมไว้ ตั้งแต่โลกดุนยาวันนี้ ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ ยังมีศักยภาพที่จะเคลื่อนไหว ทำอะไรได้อยู่ ด้วยการเตรียมเสบียงไว้ สำหรับที่จะนำไปเป็นประโยชน์ ในอนาคตวันข้างหน้า หลังจากที่เรากลับไปหาอัลเลาะห์
เสบียงที่ดีที่สุด ที่พึงจะนำไปในวันข้างหน้า ไม่มีอะไรที่จะมีความสำคัญ และมีคุณค่า เท่ากับเรื่องของความสำรวมตน และความยำเกรง หรือตักวาต่ออัลเลาะห์ فَإِنَّ خَيْرَ الزَّادِ التَّقْوَى จึงขอให้เราทั้งหลาย ต้องดำรงอยู่บนโลกวันนี้ ด้วยความระมัดระวัง อย่าได้อยู่บนความเผลอเรอ อย่าได้ปล่อยตัว ไปตามความต้องการของฮาวอนับซู หรืออารมณ์เพียงอย่างเดียว อย่าปล่อยให้กระแสชีวิตของเรา ไหลไปตาม แรงผลักดันของโลกาภิวัฒน์ ที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสีย นำมาซึ่งแรงผลักดัน ที่จะทำให้เรานั้น ต้องเดินออกนอกกรอบของอิสลาม อยู่ตลอดเวลา ชีวิตที่เดินอยู่บนโลก โดยปราศจากความสำรวมตน และความระมัดระวัง เป็นชีวิตที่อันตราย ไม่มีทางที่มนุษย์เรา มุอ์มินเรา จะปลอดภัย ทั้งในดุนยาวันนี้ และในอาคิเราะห์ข้างหน้า นอกจากต้องดำเนินชีวิต อยู่ในกรอบที่อิสลามกำหนดไว้เท่านั้น
พี่น้องผู้มีอีหม่านทั้งหลาย สัญชาติญาณความเป็นมนุษย์ของเรานั้น ต้องการความสุข ต้องการความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าคนระดับไหน ตั้งแต่ระดับสูงสุด ตั้งแต่ระดับที่เป็นเจ้าบ้านเจ้าเมือง ผู้บริหารราชการแผ่นดิน จนกระทั่งถึงคนธรรมดา ที่อยู่ทางบ้าน แม้กระทั่งต้องอาศัย ขอทาน มาประทังชีวิต ต่างก็ต้องการความสำเร็จ ในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น ต้องการที่จะดำเนินชีวิต อย่างผาสุก อัลเลาะห์สั่งในอายะห์กุรอานมากมาย ในเรื่องของ إِتَّقُوْااللهَ حَقَّ تُقَاتِهِ فَإِنَّ خَيْرَ الزَّادِ التَّقْوَى เหมือนที่กล่าวไปแล้ว ก็บอกว่า ชีวิตที่จะประสบความสำเร็จ ก็คือคนประเภทไหน อย่างไร อายะห์กุรอานอัลเลาะห์ ทรงบัญญัติ أَلاَ إِنَّ أَوْلِيَاءَ اللهِ لاَخَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلاَهُمْ يَحْزَنُوْنَ แน่นอนระวังเถิด บรรดา أَوْلِيَاءَ ของอัลเลาะห์ คนที่เป็นฝ่ายของอัลเลาะห์ คนที่รักต่ออัลเลาะห์ และพระองค์ทรงรักต่อเขานั้น لاَخَوْفٌ عَلَيْهِمْ คนเหล่านี้ จะไม่มีความกลัวหวาดหวั่น وَلاَهُمْ يَحْزَنُوْنَ เขาจะไม่โศกเศร้า จะไม่มีวันกลัดกลุ้ม اَلَّذِيْنَ كَانُوْا يَتَّقُوْنَ นั่นแหละคือบรรดาคน ที่มีความสำรวมตน มีความตักวาในอัลเลาะห์ لَهُمُ اْلبُشْرَى فِى اْلحَيَاةِ الدُّنْيَا คนเหล่านี้จะมีแต่ข่าวดี มีแต่ความชื่นชม ทั้งในชีวิตดุนยาแห่งนี้ وَفِى اْلآخِرَةِ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในชีวิตแห่งอาคิเราะห์ لاَتَبْدِيْلُ لِكَلِمَاتِ اللهِ นี่คือสัจจะ นี่คือความจริง นี่คือประกาศิตของอัลเลาะห์ ซึ่งไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลง อย่างแน่นอน และเด็ดขาด ذَلِكَ هُوَ اْلفَوْزُ اْلعَظِيْمُ และนั่นแหละคือความสำเร็จ และชัยชนะอย่างแท้จริง ในชีวิตของคนมุอ์มินทุกคน
พี่น้องผู้มีอีหม่านทั้งหลาย อัลกุรอานบอกทางแล้วว่า คนที่จะประสบความสำเร็จ ได้รับชัยชนะในชีวิต คือลักษณะอย่างที่ว่า และความสำเร็จ หรือความร่มเย็นของชีวิต เป็นความปราถนาของคนทุกระดับ เป็นความปราถนาของคนทุกคน แต่ความคิดในเรื่องของความสำเร็จ ในชีวิตนั้น มีความแตกต่างกันไป เมื่อเป้าหมายแตกต่างกันไป ความสำเร็จในนิยาม ของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น วิธีการ หรือ ที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จ จึงมีความแตกต่างกันออกไป
บางคนมองว่า ความสำเร็จในชีวิต ก็คือการสะสมเงินทอง ทรัพย์สิน สมบัติไว้ให้มากๆ ไว้นั่งนับในยามชรา ไว้แบ่งให้ลูกหลาน แล้วก็จะได้เห็นความสุข เมื่อลูกหลานนั้น มีความสบายบนดุนยา เพราะฉะนั้น ชีวิตจึงทุ่มเท เพราะการสะสมทรัพย์สินเท่านั้น เพราะคิดว่าเป้าหมาย ความสำเร็จในชีวิต คือความมั่งมีสีสุข การรวบรวมเอาทรัพย์สิน สมบัติไว้อย่างมากมาย นั่นคือความสำเร็จในชีวิต
บางคนคิดว่า ความสำเร็จในชีวิตคนเรานั้น การที่คนเราอยู่บนโลก โดยที่มีตำแหน่ง มียศถาบรรดาศักดิ์ มีตำแหน่งหน้าที่ เป็นที่เชิดหน้าชูตา และเป็นที่เคารพนับถือของคน มีคนรับใช้รอบๆ คอยบริการ คอยดูและเอาใจใส่ และประคับประคอง มีอำนาจวาสนา และก็นั่นคือความสำเร็จ
บางคนบอกว่า ความสำเร็จในชีวิต ก็คือ ความสนุก อะไรก็ได้ที่ทำให้ชีวิตมีความสนุก มีความเพลิดเพลิน โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น เมื่อเป้าหมายมีความแตกต่างกันอย่างนี้ นิยามความสำเร็จ ต่างกันอย่างนี้ แน่นอน วิธีการที่จะไปสู่เป้าหมายของคนเรานั้น ก็มีความต่างกัน
คนที่คิดว่า ความสุขคือความมั่งมี การได้ยึดครองทรัพย์สิน สมบัติ ก็มุ่งตั้งหน้าตั้งตา แต่การที่จะทุ่มเทชีวิต ทั้งชีวิต ต่อการได้มาของ ทรัพย์สิน สมบัติ แต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่นำพาว่า เมื่อได้มาแล้ว หลังจากจบชีวิตไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ได้มาโดยวิธีการใดก็ได้ ขอให้ได้มาก็แล้วกัน จะชอบไม่ชอบ จะได้มาในทางละเมิด หรือไม่ละเมิดข้าไม่สนใจ แต่ขอให้มันมีมากเอาไว้ก่อน แล้วก็บอกว่า นั่นคือความสำเร็จในชีวิต
ทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิต โดยไม่คิดถึงเรื่องกรอบแห่งการดำเนินชีวิต ที่ถูกต้องดีงาม ไม่เคยคิด ไม่เคยสำเหนียก ต่อการที่จะฟังเสียงอาซาน จากมัสยิด ไม่เคยฟังคำสั่งสอน คำแนะนำ จากคอเต็บทั้งหลายว่า ชีวิตคนไม่ได้จบ แค่ความตาย บนโลกดุนยานะ เราจะต้องเผชิญ กับอะไรอีกมากมาย หลังวันนั้น ไม่ได้นำพาสิ่งเหล่านี้ และลักษณะอย่างนี้ เป็นชีวิตที่สำเร็จสมบูรณ์จริงหรือไม่
ขอให้เราทั้งหลาย ได้มองดูสภาพแวดล้อมตัวเราเอง ที่เราเห็นอยู่บนโลกวันนี้ บนหน้าประวัติศาสตร์ ยังไม่เคยปรากฏว่า มีใครที่ร่ำรวยมหาศาลเท่ากับกอรูน ในยุคของนบีมูซา ใน ไคโร ในอัซฮัร ในอียิปต์ ความร่ำรวย ของกอรูน แค่กุญแจสำหรับที่จะใช้ไขคลังทรัพย์สิน สมบัติ หรือตู้เซฟสำหรับใส่ทรัพย์สิน สมบัติของกอรูนนั้น ต้องใช้กลุ่มคนเป็นจำนวนหนึ่ง عِصْبَةٌ مِنَ الرِّجَالِ เป็นกลุ่มคนทีเดียว กลุ่มคนต้องมากกว่า ๔ -๕ คน แสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยมหาศาล ของกอรูน บนหน้าประวัติศาสตร์ และคนเหล่านี้ ก็อุทิศตัวเพื่อการได้มา ซึ่งทรัพย์สินอย่างเดียว โดยไม่นำพาในคำสั่งสอนของท่านนบี ในการเรียกร้องไปสู่เตาฮีดของอัลเลาะห์ ในการเรียกร้อง ไปสู่กรอบคุณธรรมอันดีงาม ในการดำรงอยู่ ในที่สุดชีวิตของกอรูนเป็นอย่างไร ถูกสูบอยู่ภายใต้แผ่นดิน แล้วยังหาศพไม่เจอ จนกระทั่งถึงวันนี้ และปรากฏการณ์เหล่านี้ แหล่งที่กอรูนเคยถูกสูบ วันนี้เป็นทะเลสาบเล็กๆ ที่เรียกในภาษาของคนอียิปต์ว่า بُحَيْرَةُ قَارُوْن นี่คือตัวอย่างบนหน้าประวัติศาสตร์
บนโลกวันนี้ที่เราอาศัยอยู่ก็เห็นๆ คนมีทรัพย์สิน มีวาสนาบารมี มียศตำแหน่ง มดไม่ไต่ไรไม่ตอม คิดว่าจะมีความสุขหรือ บ้านแตกสาแหรกขาด ชีวิตครอบครัวล้มเหลว ลูกไปคนละทิศคนละทาง ติดยาบ้าง ไม่ติดยาบ้าง อะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ซึ่งหากเรามองอะไรอย่างพินิจพิเคราะห์ ก็จะเห็นว่าสังคมที่เป็นอยู่วันนี้ ก็บอกให้รู้ ย้อนกลับไปมองถึงอดีต เมื่อประมาณ ๑๐ ปี ที่ผ่านมา ลูกชายของคนผู้หนึ่ง เป็นรัฐมนตรี เรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศ วันดีคืนดีจ้างอาชญากรมาสังหารบิดาตัวเอง สิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ นี่คือ การที่คนส่วนหนึ่ง นิยามความสุขว่า คือความมั่งมี นิยามความสุขว่า ต้องมีอำนาจวาสนา ในที่สุดก็ต้องประสบกับความล้มเหลว
ในบรรดาคนที่มีอำนาจ วาสนา บนโลก ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ ตั้งแต่อดีตมา ๕๐๐๐ - ๖๐๐๐ ปี จนกระทั่งถึงวันนี้ ยังไม่เคยปรากฏว่า ใครบนโลกที่จะมีอำนาจยิ่งใหญ่เท่ากับฟาโรห์ของอียิปต์ ฟาโรห์ ท่านทั้งหลายรู้จักดี ประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของเขา เขามีอำนาจใหญ่โต ถึงขนาดที่อ้างตนว่า ข้าเท่านั้นที่เป็นพระเจ้า ด้วยความที่มีอำนาจวาสนา สั่งอะไรต้องได้ ทำอะไรต้องประสบ ตามความต้องการทุกประการ อัลกุรอานได้เล่าถึงคำกล่าวของฟิรอูนไว้ ให้ปรากฏว่า เป็นอุทาหรณ์ แก่คนรุ่นหลังว่า ฟิรอูนกล่าวว่า يَاقَوْمِ أَلَيْسَ لِيْ مِلْكُ مِصْرَ ฉันเป็นผู้อำนาจในอียิปต์ไม่ใช่หรือ ฉันเป็นพระเจ้าแห่งอียิปต์ไม่ใช่หรือ وَهَذِهِ اْلاَنْهَارُ تَجْرِيْ مِنْ تَحْتِيْ เห็นไหมว่า ลำธารเหล่านี้ ต้องไหลผ่านหน้าราชวังของข้า أَفَلاَ تُبْصِرُوْنَ เห็นไหม นี่คืออำนาจอันยิ่งใหญ่ของฉัน يَأَيُّهَا اْلملَأُ บรรดาคนชั้นนำทั้งหลาย ของอียิปต์ ฟาโรห์พูด مَاعَلِمْتُ لَكُمْ مِنْ إِلَهٍ غَيْرِيْ ฉันไม่รู้เลยว่า มีใครที่นอกเหนือจากฉันแล้ว ที่มีอำนาจเท่ากับฉัน ที่จะเป็นพระเจ้าคนอื่น เหนือจากฉัน
นี่คือความอหังการของฟาโรห์ นี่คือคนที่มองว่า ความสุขและความสำเร็จในชีวิต คือการได้มา ซึ่งอำนาจเบ็ดเสร็จทุกอย่าง เหมือนกับที่ฟาโรห์ ปรากฏบนหน้าประวัติศาสตร์ แล้วท่านมาดูบ้านเมือง ในวันนี้ สังคมวันนี้ ผู้เผด็จการทั้งหลาย ต้องระหกระเห ออกจากอำนาจตัวเอง บางรายก็อยู่ในบ้านเมืองไม่ได้ ในต่างประเทศ ก็เห็นกันมากมาย เพราะฉะนั้น นี่คือความสำเร็จของคนที่คิดว่า ความสำเร็จอยู่ที่อำนาจ
ส่วนคนที่คิดว่า ความสำเร็จก็คือการแสวงหาความสุข โดย ไม่อีนังขังขอบว่า เรื่องกฏเกณฑ์กติกา และคุณธรรมอันดีงาม ในความเป็นมนุษย์ของตัวเอง ชีวิตทั้งชีวิต อุทิศเพื่อความสนุก ค่ำคืน นั่งอยู่ตามที่อโคจร เรียกอาหารดีๆมากิน มีบิดันนารีปลอม มาปนเปรอ แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างเสเพล สำมะเลเทเมา แล้วก็บอกว่า นี่คือความสุข ก็เห็นอยู่มากมายว่า คนเหล่านี้ยังไม่ตายเลย ยังมีชีวิตอยู่บนโลก แต่เขาก็ใช้ชีวิตอย่างทรมาน อันเนื่องมาจากโลกาพยาธิ ที่เขาจะต้องประสบ อันเนื่องมาจากความสิ้นเนื้อประดาตัว นอกเหนือจากตัวเองแล้ว แม้กระทั่งครอบครัว ก็ต้องรับผลแห่งความเดือดร้อน จากการนิยามความสุขปลอมๆเหล่านั้น
แล้วอะไรคือความสุข ที่แท้จริง ของมนุษย์ อะไรคือสิ่งที่จะทำให้มนุษย์นั้น มีความสำเร็จ และความสุขอย่างแท้จริง
وليد بن مُغِيْرَة เป็นเจ้าเมืองคนหนึ่ง ในยุคอุมัยยะห์ عبدالمالك بن مروان بن حِكَم เป็นเลขาของสมัยมุอาวียะห์ แล้วก็ในยุคของ عبدالمالك อาณาจักรอิสลามขยายใหญ่โต ก็มีอำนาจล้นฟ้า เรียกว่าอิสลามเป็นจักรวรรดิได้เลย ในยุคของ عبدالمالك بن وليد เป็นผู้ที่อำนาจที่สุดในยุคอุมัยยะห์ ท่านใช้ชีวิตอยู่ในตำแหน่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง แล้วท่านเจ็บป่วย ใกล้จะตาย เห็นคนซักเสื้อข้างบ้าน ได้ยินเสียงคนรับจ้างซักเสื้อ และในขณะที่ซักเสื้อ ก็ว่าลำนำเพลงไป ด้วยความสบายใจ مالك بن مروان บอกกับคนรอบข้างว่า หากข้าพเจ้าเกิดมา อยู่ในฐานะเหมือนคนรับจ้างซักผ้าคนนี้ ก็จะดีไม่น้อย ดีกว่าที่มาอยู่ในตำแหน่ง อำนาจวาสนาอย่างนี้ ดีกว่าที่มาขึ้นมาเป็นคอลีฟะห์ แล้วมารับผิดชอบอะไรมากมาย สำนึกผิดในการที่ตัวเองอยู่ในอำนาจ สำนึกว่านี่คือ نَدَامَةٌ ความเศร้าโศก ในภายหลังเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ความสุขที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลย ไม่มีอะไรที่จะเป็นความสุขจริงๆ ของมนุษย์ เท่ากับหัวใจที่สัมผัสกับอัลเลาะห์ ด้วยความอีหม่านอย่างลึกซึ้ง จงรักภักดีต่อพระองค์ ทำอะไร
ก็มีความบริสุทธิ์ใจ ต่ออัลเลาะห์ ถ้าเตือนก็เตือน ด้วยความบริสุทธิ์ ไม่หน้าอย่างหลังอย่าง ตรงไปตรงมา และก็เตือนด้วยความบริสุทธิ์ใจ นอบน้อม ทำตนเป็นผู้นอบน้อม ในคำสั่งของอัลเลาะห์ นอบน้อมต่อเพื่อนมนุษย์
ในความเป็นมุอ์มินของคนเรา ต้องเป็นคนที่มีความอ่อนโยน สุภาพอ่อนน้อมต่อคนทั่วไป وَعِبَادُالرَّحْمَنِ الَّذِيْنَ يَمْشُوْنَ عَلَى اْلاَرْضِ هَوْنًا บ่าวอันแท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า ผู้เมตตานั้น จะต้องเดินอยู่บนหน้าแผ่นดิน ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน وَإِذَاخَاطَبَ هُمُ اْلجَاهِلُوْنَ قَالُوْاسَلاَمًا เมื่อได้รับการกล่าวว่าด่าทอ จากคนไม่เข้าเรื่อง جَاهِلُوْنَ คน جَاهِل , قَالُوْاسَلاَمًاسَلاَمًا เขาก็จะตอบว่า สวัสดีครับ ๆ ผมไม่ร่วมด้วย ผมไม่โต้ด้วย นี่คือลักษณะของคน ซึ่งจะได้สัมผัสกับความสำเร็จ และความสุขอย่างแท้จริงใน ชีวิต
ท่านร่อซู้ล ได้บอกกับพวกเรา การที่จะให้ได้สัมผัสกับความสุข ชีวิตที่มีสุขอย่างแท้จริง مَنْ ذَاقَ الطَّعَامِ ذَاقَ الطَّعَامِ مَنْ رَضِيَ بِاللهِ رَبًّا คนที่จะประสบกับอีหม่าน คนที่จะได้ลิ้มรสความหวานของอีหม่าน ความเลื่อมใส ความศรัทธา ที่จะทำอะไรด้วยความจงรักภักดี ต่ออัลเลาะห์ และจะได้รับรสหวานของอีหม่านนั้น مَنْ رَضِيَ بِاللهِ رَبًّا คนที่ยึดเอาพระเจ้าเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ดูแลรักษา พอใจในพระเจ้า ที่อัลเลาะห์ เป็นผู้ดูแลรักษา ใครจะทำร้าย ใครจะทำอะไร ใครจะไม่ประสงค์ดี ก็เป็นเรื่องที่ธรรมดา แต่ว่า رَضِيَ بِاللهِ رَبًّا พอใจที่ได้ยึดเอาพระเจ้า เป็นผู้ดูแลรักษา وَبِاْلاِسْلاَمِ دِيْنًا คนที่ยึดเอากรอบของอิสลาม มาเป็นสรณะในการดำเนินชีวิต وَبِمُحَمَّدٍ رَسُوْلاً และคนที่ยึดเอามูฮำหมัด เป็นร่อซู้ล ที่จะต้องดำเนินแบบอย่าง นี่คือคนที่จะต้องดำรงชีวิต อยู่อย่างมีความสุข บนโลกดุนยา
วันนี้ เราก็เห็นอยู่ว่า คนเราไม่จำเป็นจะต้องมีตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องมีเงินทอง ทรัพย์สิน บารมีมากมาย ใช้ชีวิตเรียบๆ ง่ายๆ วันหนึ่งมีอาหารประทังชีวิต ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ อยู่อย่างธรรมดาๆ เขาก็สามารถที่จะสถาปนาความสุขขึ้น แก่ตนเองและครอบครัว ร่อซู้ลลุ้ลเลาะห์ บอกว่า مَنْ أَصْبَحَ مِنْ آمِنًا فِىْ سِرِّهِ ใครก็ตามที่ตื่นเช้าขึ้นมา มีจิตใจที่สงบ ไม่กระวนกระวาย ไม่หวาดผวา ไม่กลัว ในเรื่องความปลอดภัยของชีวิต และทรัพย์สิน ไม่หวั่นไหว ในเรื่องที่ใคร จะได้ดี หรือใครจะร่ำรวย آمِنًا รู้สึกใจที่สงบ آمِنًا فِىْ سِرِّهِ ในใจมีความสงบ وَمُعَافًا فِىْ جَسَدِهِ สุขภาพร่างกาย ก็ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ عِنْدَهُ قُوَّتِ يَوْمِهِ มีอาหารประทังชีวิต فَكَأَنَّمَا حِيْزَتْ لَهُ الدُّنْيَا คนเหล่านั้น ประหนึ่งเขาครองโลกทั้งโลก ไว้ในฝ่ามือ นี่คือความสุขจริงๆ ที่ท่านศาสดานบีมูฮำหมัด ได้สอนเอาไว้
เพราะฉะนั้น การแสวงหาความสุขความสำเร็จ ในชีวิต ที่เดินออกไป นอกกรอบของศาสนา เดินออกไปนอกกรอบของอิสลาม เดินออกไปนอกแบบการดำเนินวิถีชีวิต ที่ร่อซู้ล ได้ ทำไว้เป็นแบบอย่าง จึงเป็นความหลงทางทั้งนั้น ความสำเร็จในชีวิตคน ต้องหาในศาสนาของอัลเลาะห์เท่านั้น ต้องหาในแบบ ในกฏเกณฑ์ที่ท่านร่อซู้ล ได้กำหนด และปฏิบัติไว้ เป็นแบบอย่างเท่านั้น
จึงขอให้เราท่านทั้งหลาย ได้ดำรงอยู่บนโลกวันนี้ ด้วยความสำรวมตน ยึดเอาอิสลาม เป็นกรอบอย่างแท้จริง ในการดำเนินชีวิต และก็ดำเนินชีวิต อย่างผู้นอบน้อม สมถะ وَالَّذِيْنَ يَبِيْتُوْنَ لِرَبِّهِمْ سُجَّدًاوَّقِيَامًا ยามค่ำคืน ยามดึกดื่น ก็ยืนขึ้น เพื่อแสดงความจงรักภักดี ต่ออัลเลาะห์ ทั้งในรูปของการยืนขึ้น และก็ก้มกราบ ก้มนอบน้อม คือมาละหมาด ละหมาดเป็นการแสดงความจงรักภักดี ที่เป็นอัตลักษณ์ บ่งบอกถึงความมีอีหม่านของคน ความสุขที่แท้จริง ก็คืออยู่ที่พอใจ ที่อัลเลาะห์เป็นพระเจ้า พอใจที่อัลเลาะห์ เป็นผู้ดูแลรักษา แล้วก็ยึดอิสลามเป็นกรอบ ยึดท่านนบี เป็นแบบอย่าง ในการดำเนินชีวิต นี่คือแนวทาง ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง โลกในอดีตที่ผ่านมา คนที่ประสบความล้มเหลวในชีวิต ประสบความหายนะในชีวิต ตั้งแต่โบราณ จนกระทั่งถึงวันนี้ ล้วนแต่เป็นคนที่เดินออกนอกกรอบ อันดีงาม ของอิสลามทั้งนั้น คนที่ปฏิเสธอิสลาม คนที่ปฏิเสธพระเจ้า คนที่ปฏิเสธอัลเลาะห์ และคนที่ไม่ยอมก้าว ตามรอยก้าวของร่อซูลุ้ลลอฮ์
ดังนั้น จึงขอให้เราทั้งหลาย ได้มีความตระหนัก แล้วก็ยึดเอาอิสลาม เป็นสรณะ อย่างแท้จริง ในการดำรงอยู่ของเรา อันนั้นประตูเดียวเท่านั้น ที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ
คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ