ถือศีลอด: การบำบัดตามหลักโภชนาการทางธรรมชาติ


1,615 ผู้ชม

เดือนรอมฎอนปีนี้ ดร.เอลสัน เอ็ม ฮาส แพทยศาสตรบัณฑิต ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก เกี่ยวกับการถือศีลอด โดยเขาได้เขียนหนังสือไว้หลายเล่ม พูดถึงการแพทย์แบบผสมผสาน และในรูปของการป้องกัน การบำบัดโดยอาศัยโภชนาการทางธรรมชาติ ...


ถือศีลอด: การบำบัดตามหลักโภชนาการทางธรรมชาติ

เดือนรอมฎอนปีนี้ ดร.เอลสัน เอ็ม ฮาส แพทยศาสตรบัณฑิต ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก เกี่ยวกับการถือศีลอด โดยเขาได้เขียนหนังสือไว้หลายเล่ม พูดถึงการแพทย์แบบผสมผสาน และในรูปของการป้องกัน การบำบัดโดยอาศัยโภชนาการทางธรรมชาติ และการบำบัดผู้ติดยาหรือเหล้า (การงดเว้นอาหาร) นอกจากนี้เขายังได้เขียนหนังสือซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปเกี่ยวกับ การอดอาหาร และโภชนาการซึ่งเป็นวิธีการทางธรรมชาติ เรื่อง "อยู่อย่างมีสุขภาพดี" ซึ่งเป็นหนังสือแนะนำเกี่ยวกับอาหารและการแพทย์ตามหลักโภชนาการฉบับสมบูรณ์

ปัจจุบันดร.ฮาส เป็นผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์ด้านการป้องกันมาริน มีสำนักงานอยู่ที่เมืองซานราฟาเอล และซานโจเซ รัฐแคลิฟอร์เนียร์ ในบทความดังกล่าว คุณหมอได้พูดถึงกระบวนการ ประโยชน์และโทษของการอดอาหาร

การอดอาหารเป็นการวีธีการรักษาตามธรรมชาติที่ดีเยี่ยมที่สุดวีธีหนึ่ง เป็นการรักษาที่มีมาแต่โบราณ และใช้กับการรักษาโดยทั่ว ๆ กับโรคต่าง ๆ แต่สำหรับในสัตว์แล้ว จะมีสัญชาตญาณที่ช่วยให้หายเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น ดร.ฮาสค้นพบเรื่องการอดอาหารเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าได้รับการช่วยชีวิตเอาไว้ แล้วก็เปลี่ยนจากคนที่เป็นโรค มาเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง เรี่ยวแรงกลับคืนมา ช่วยให้เกิดความคิดอะไรดี ๆ ขึ้น มีชีวิตชีวามากขึ้น

ดร.ฮาสยังพบอีกด้วยว่า การอดอาหารเป็นเครื่องมือส่วนตัวที่มีประโยชน์ และเป็น การเยียวยาที่สำคัญต่อปัญหาชีวิต และปัญหาด้านการแพทย์อีกหลายอย่าง
แน่นอนว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่ดร.ฮาสแนะนำให้ใช้วิธีการอดอาหาร ในการรักษานั้น เป็นโรคที่เกิดจากโภชนาการที่มีมากเกินเกณฑ์ มากกว่าจะเป็นความบกพร่องทางด้านโภชนาการ ทั้งนี้ ปัญหาการรับประทานอาหารอย่างไม่ถูกต้องในโลกตะวันตก ถือเป็นเรื่องปกติมากกว่าในประเทศโลกที่สาม ซึ่งทำให้เกิดเป็นโรคเรื้อรังเมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ อาการก็จะทรุดหนักลงนั้น ดร.ฮาสได้เขียนเอาไว้มากมาย รวมทั้งโรคผนังหลอดโลหิตกระด้าง โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง ต่าง ๆ ซึ่ง ดร.ฮาสเชื่อว่าสามารถใช้การอดอาหารในการรักษาได้ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือการป้องกันจากอาการต่าง ๆ เหล่านี้ รวมทั้งอาการอื่น ๆ ด้วย

การอดอาหาร (การขจัดสารพิษออกให้หมดสิ้น) เป็นหนึ่งในสามหัวข้อของโภชนาการทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกัน และอีกสองเรื่องก็ได้แก่ การทำให้เกิดสมดุลย์ และการทำให้ร่างกายหรือกล้ามเนื้อแข็งแรง กระชับ ดร.ฮาสเชื่อว่าการอดอาหารเป็นตัวเชื่อมที่ขาดหายไปในเรื่องของอาหารตะวันตก ที่คนส่วนใหญ่รับประทานมากเกินไป บ่อยครั้งเกินไป หรือรับประทานอาหารที่มีโปรตีน ไขมัน อาหารที่มีคุณค่ามาก ที่เป็นตัวช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ หรือผิวหนังของร่างกายคนเรา อาหารที่ต้องอาศัยการย่อยมากเกินกว่าที่จำเป็น

ดังนั้น ถ้าเรารับประทานอาหารที่ให้ความสมดุลย์มากขึ้น และอาหารที่เข้ากันได้ดีเป็นประจำ ก็จะทำให้เราลดความต้องการในเรื่องของการอดอาหาร และการวางแผน เกี่ยวกับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลงได้ แม้ว่าทั้งสองสิ่งนี้ จะยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็นในช่วงเวลาหนึ่งของระยะเวลา ตลอดทั้งปีก็ตาม
ถ้าพิจารณากันตามเหตุผลแล้ว การขจัดสารพิษ เป็นกระบวนการแก้ไข หรือทำให้กลับมามีความกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญประการหนึ่งของวงจรโภชนาการ เพราะเป็นช่วงที่คนเรา จะได้มีโอกาสปล่อยให้เซลส์และอวัยวะต่าง ๆ ระบายหรือปลดปล่อยสิ่งที่ไม่ดีออกมาในตอนนั้นนั่นเอง อีกทั้งยังได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอด้วย

อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการอดอาหารเสมอไป จึงจะทำให้มีการขจัดสาร พิษออกจากร่างกายได้ การสับเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับอาหาร เช่น รับประทานอาหารที่ไม่ค่อยสุกมากเพิ่มขึ้น หรือลดปริมาณการรับประทานอาหารที่ต้องอาศัยระบบการย่อย มาช่วยให้น้อยลง รวมทั้งเพิ่มปริมาณการรับประทานของเหลวให้มากขึ้น สิ่งเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ร่างกายสามารถขจัดสารพิษออกไปได้

ตัวอย่างเช่น สัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหารแล้วกินผัก หรืออาหารประเภทธัญพืชเข้าไปแทน ก็สามารถช่วยขจัดสารพิษและทำให้ร่างกายปลอด จากสารพิษต่าง ๆ ได้เช่นกัน ทั้งนี้ ยังมีการถกเถียงกันอย่างจริงจัง เรื่องกระบวนการขจัดสารพิษโดยทั่ว ๆ ไปในโครงการขจัดสารพิษโครงการหนึ่งดังนี้ คือ เรามุ่งไปในเรื่องของการอดของเหลว โดยทำการศึกษา เกี่ยวกับประวัติของการอดของเหลว ประโยชน์ด้านการบำบัดรักษาและประโยชน์ด้านอื่น ๆ การที่สามารถงดการให้ยากับผู้ป่วยได้ และแน่นอนวิธีปฏิบัติที่จะต้องสอดคล้อง กับทัศนะในการดำเนินชีวิตที่ส่งเสริม ในเรื่องของการอดอาหารด้วย

การอดอาหาร เป็นการรักษาโรคที่สามารถใช้กาลเวลา เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการนำเอาวิธีการดังกล่าวมาใช้ นับตั้งแต่เริ่มมีการถือกำเนิดของสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้น หรือ แม้แต่ในฐานะกระบวนการรักษาเยียวยา และกระบวนการที่เป็นความเชื่อทางด้านศาสนาเอง ก็ทำให้เราเชื่อว่า ได้มีการนำเอาวิธีการดังกล่าวมาใช้อย่างชาญฉลาด อีกเมื่อหลายพันปีที่ผ่านมานี้อย่างแน่นอน
การงดเว้นอาหารโดยสมัครใจ เป็นประเพณีอย่างหนึ่งของศาสนาส่วนใหญ่ และเป็นพิธีกรรมที่ช่วยขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์อย่างเห็นได้ชัด ศาสนาหลาย ๆ ศาสนารวมทั้งศาสนาคริสต์ ศาสนายิว และศาสนาทั้งหลายของชาวตะวันออก กระตุ้นให้มีการอดอาหารด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น การสำนึกผิดและกลับตัว การเตรียมตัวเพื่อเข้าพิธีกรรม การทำให้บริสุทธิ์ การไว้อาลัย การพลีหรือการเส้นสังเวย หรือเพื่อแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า การเสริมความรู้และพลังอำนาจ

นับตั้งแต่สมัยโมเสส เอลิจาห์แดเนียล ไปจนกระทั่งถึงพระเยซูคริสต์ ล้วนแล้วแต่กล่าวถึง ผู้อดอาหารในคัมภีร์ไบเบิล ที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยทำให้จิตใจบริสุทธิ์ในการเข้าถึงพระเจ้า และมีการกำหนดระยะเวลาในการอดอาหารเป็นเวลา 40 วัน มาใช้เพื่อเป็นการล้างบาป และขจัดสิ่งชั่วร้ายให้หมดไป

อัพเดทล่าสุด