เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่มีความยิ่งใหญ่ เป็นเดือนแห่งการให้อภัยโทษซึ่งในตอนกลางวันเราถือศีลอด ส่วนในตอนกลางคืนเราละหมาด ตะรอเวี๊ยะหฺ ...
การอภัยโทษของผู้ที่ละหมาดตะรอเวี๊ยะหฺ
โดย วะร่อซะตุซซุนนะฮฺ
รายงานอบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอัยฮุ อันที่จริงท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إيْمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
"ผู้ใดยืน (ละหมาดยามค่ำคืน) ในเดือนรอมฎอน ด้วยความศรัทธาและหวังในผลบุญ บาปของเขาที่ ผ่านมาจะถูกอภัยโทษให้"
(บันทึกโดยบุคอรี : 37 มุสลิม : 759)
คำอธิบาย
เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่มีความยิ่งใหญ่ เป็นเดือนแห่งการให้อภัยโทษซึ่งในตอนกลางวันเราถือศีลอด ส่วนในตอนกลางคืนเราละหมาด ตะรอเวี๊ยะหฺ ซึ่งผลบุญของการละหมาดตะรอเวี๊ยะหฺนั้นจะได้รับการอภัยโทษ จากพระองค์ หากเราละหมาดด้วยความบริสุทธิ์ใจ และหวังในผลบุญ ส่วนที่ถูกเรียกว่า "ตะรอเวีียะหฺ" นั้น เพราะชาวสลัฟฟุศศอและหฺเมื่อเขาละหมาดได้ 4 ร่อกาอัต คือ 2 สลาม พวกเขาก็จะหยุดพัก และเมื่อเขา ละหมาด 4 ร่อกาอัต เขาก็หยุดพัก หลังจากนั้น ก็ละหมาดอีก 3 ร่อกาอัต
ส่วนจำนวนร่อกาอัตสำหรับละหมาดตะรอเวี๊ยะหฺนั้นมีปรากฎ จากการ ที่ท่านอบูสะละมะฮฺ บินอับดุรฺเราะหฺมาน ได้กล่าวถามท่านหญิง อาอีชะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา ว่า
كَيْفَ كَانَتْ صَلاَةُ رَسُوْلِ اللهِ صلى الله عليه وسلم فِي رَمَضَانَ ؟
"ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดอย่างไรในเดือนรอมฎอน ?"
ซึ่งท่านหญิง อาอีชะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา ก็กล่าวตอบว่า
مَا كَانَ رَسُوْلُ الله صلى الله عليه وسلم يَزِيْدُ فِي رَمَضَانَ وَلاَ فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً........
"ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาด ไม่ว่าในเดือนรอมฎอนหรือมิใช่เดือน รอมฎอนเกินกว่า 11 ร่อกาอัต .........."
(บันทึกโดยบุคอรี : 1096 มุสลิม : 738,1219 อบุดาวูด : 1341 นะซาอียฺ : 1697)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ส่งเสริมให้ลุกขึ้นละหมาดในเวลากลางคืนของเดือนรอมฎอน โดยท่านไม่ได้ใช้อย่างเด็ดขาด แต่ท่านกล่าวว่า
مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إيْمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِه
"ผู้ใดยืน (ละหมาดยามค่ำคืน) ในเดือนรอมฎอน ด้วยความศรัทธาและหวังในผลบุญ บาปของเขา ที่ผ่านมาจะถูกอภัยโทษให้"
(บันทึกโดยบุคอรี : 37 มุสลิม : 759)
ดังนั้นเราควรปฏิบัติละหมาดตะรอเวี๊ยะหฺตลอดในช่วงของเดือนรอมฎอนด้วยความบริสุทธิ์ใจ และหวังในผลบุญ หรือความดีอื่นๆ เพื่อที่ว่าเราจะ ได้รับการอภัย โทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในเดือนรอมฎอนนี้
บทเรียนจากฮะดีษ
1. บุคคลใดละหมาดตะรอเวี๊ยะหฺด้วยความบริสุทธิ์ใจ และหวังในผลบุญ จะได้รับการอภัยโทษจากอัลลอฮฺ
2. ท่านนบีส่งเสริมให้ละหมาดตะรอเวี๊ยะหฺ แต่ไม่ได้ใช้อย่างเด็ดขาด
3. การที่ถูกเรียกว่า "ตะรอเวี๊ยะหฺ" นั้นเกิดขึ้นในยุคหลังจากท่านนบี
4. จำนวนร่อกาอัตในละหมาดตะรอเวี๊ยะหฺนั้นมีซุนนะฮฺให้ละหมาด 11 ร่อกาอัต ดังที่ท่านหญิง อาอีชะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา รายงานว่า
مَا كَانَ رَسُوْلُ الله صلى الله عليه وسلم يَزِيْدُ فِي رَمَضَانَ وَلاَ فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً........
"ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาด ไม่ว่าในเดือนรอมฎอนหรือมิใช่เดือน รอมฎอนเกินกว่า 11 ร่อกาอัต.........."
(บันทึกโดยบุคอรี : 1096 มุสลิม : 738,1219 อบุดาวูด : 1341 นะซาอียฺ : 1697)
ซึ่งเราก็ไม่บอกว่าจำนวนที่น้อยกว่านี้ หรือมากกว่านี้ ผิดแต่อย่างใด