13 สัญญาณเตือนโรคตับ อย่าละเลย เพราะอาจสายเกินรักษา


38,166 ผู้ชม

วันนี้เรามีวิธีสังเกตกันว่า หากเรามี13 อาการนี้ คุณอาจกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับ...


13 สัญญาณเตือนโรคตับ อย่าละเลย เพราะอาจสายเกินรักษา

ตับ อวัยวะที่เมื่อมีอาการป่วย มักจะพบสาเหตุก็ต่อเมื่อมีอาการทรุดตัวลง เพราะตับแทบจะไม่มีเส้นประสาท

ดังนั้น แม้ตับจะถูกทำลายหรือสะสมของเสียไว้ก็ไม่มีอาการเจ็บป่วยที่ชัดเจน โรคตับจึงเป็นภัยเงียบที่หลายๆคนคงหวาดกลัวไม่น้อย

วันนี้เรามีวิธีสังเกตกันว่า หากเรามี13 อาการนี้ คุณอาจกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับ

1. อาการตาเหลือง อาการตาเหลือง เกิดจากเลือดมีปริมาณบิลิรูบิน (bilirubin)มากเกินไป ซึ่งเกิดจากการที่ตับทำงานได้อย่างไม่สมบูรณ์

2. อาการตาขาวมีเส้นเลือดปรากฏ หากมีอาการตาแดง ปรากฏเส้นเลือดในตาขาวอย่างชัดเจน โดยที่ไม่ได้ใช้สายตามาก ต้องระวัง เพราะนั่นหมายถึง สมรรถภาพตับของคุณลดลงไป และตับทำงานหนัก 

ภาพประกอบเท่านั้น

3. อาการมีน้ำตาคลอตลอดเวลา หากไม่ได้มีเรื่องเสียใจ ดีใจ หรือปลื้มปรีติ แต่จู่ๆคุณก็มีน้ำตาคลอตลอดเวลา ต้องระวัง เพราะในทางการแพทย์แผนจีนถือว่า ดวงตาคือหน้าต่างของตับ หากตับเกิดปัญหาจะทำให้ตาจะขาดน้ำหล่อเลี้ยง เมื่อตับมีปัญหาดวงตาจึงต้องหลั่งน้ำตาออกมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะน้ำตาคลอตลอดเวลา 

4. อาการสีหน้าคล้ำ คนที่มีสีหน้าคล้ำหมอง มีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาระหว่างคิ้วหรือขมับ อาจเป็นสัญญาณว่าตับของคุณกำลังทำงานผิดปกติ เพราะตับไม่สามารถขจัดสารพิษที่ตกค้างในเลือดได้อย่างเต็มที่ ทำให้เลือดเกิดความข้นหนืด ไหลเวียนได้ไม่ดี ส่งผลให้ผิวหนังมีสีคล้ำ 

5. อาการหลอดเลือดดำใต้โคนลิ้นขอด ใต้โคนลิ้นของคนเราจะมีหลอดเลือดดำ 2 เส้น ให้เราลองสังเกตตัวเองดู หากหลอดเลือดดำใต้โคนลิ้นของเรามีลักษณะสีคล้ำผิดปกติ โป่งพอง และคดงอผิดรูป นั่นอาจเป็นสัญญาณเกี่ยวกับสุขภาพของคุณว่า ระบบหมุนเวียนเลือดของเราอาจมีปัญหา และอาจมีต้นตอมากจากโรคตับ 

6. อาการเล็บเปราะหักง่าย หากคุณมีอาการเล็บเปราะหรือหักง่าย นั่นอาจมีสาเหตุมาจาก ร่างกายของคุณขาดธาตุเหล็ก อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโลหิตจาง หรืออาจเป็นสาเหตุจากตับมีสมรรถภาพในการทำงานลดลง ส่งผลให้สารอาหารในเลือดลดลงด้วย 

7. อาการเหงือกมีเลือดออก หากคุณพบว่าตนเองมีอาการเหงือกเลือดออก อาจเป็นสาเหตุหนึ่งจากโรคเหงือก แต่หากไปพบแพทย์แล้วไม่ได้เป็นเพราะโรคเหงือก อาจต้องระวัง เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าตับของคุณเกิดความผิดปกติจากภาวะตับอักเสบหรือตับแข็ง ทางที่ดีถ้าไม่ทราบสาเหตุควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดและวินิจฉัยจะดีกว่า 

8. อาการอ่อนเพลียเป็นประจำ อาการอ่อนเพลียอาจเกิดจากหลายสาเหตุ จากความเครียด การพักผ่อนไม่ได้เพียงพอ แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาการอ่อนเพลียอาจมีสาเหตุมาจากภาวะตับอักเสบ นอกจากนี้การอ่อนเพลียอย่างรุนแรงเป็นอาการของผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ดังนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด 

9. อาการปวดท้องโดยไม่ทราบสาเหตุ หากมีอาการปวดท้องบ่อยๆ แต่เมื่อไปพบแพทย์กลับไม่ทราบสาเหตุ ให้ตั้งข้อสงสัยว่า ตับของคุณอาจมีปัญหา หรืออาจเป็นอาการเตือนของโรคมะเร็งในท่อน้ำดีและมะเร็งตับ 

10. อาการปลายจมูกแดง แอลกอฮอลล์ถือเป็นสารพิษตัวฉกาจอีกอย่างหนึ่งที่คล่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปหลายราย การดื่มแอลกอฮอลล์ นั้นอาจส่งผลให้ร่างกายสะสมสารพิษ และลอยไปตามกระแสเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนไหลเวียนไม่สะดวก อวัยวะบางส่วนจึงได้รับออกซิเจนน้อยลง ดังนั้นหากดื่มเหล้าแล้วพบว่าปลายจมูกแดง ควรหยุดดื่มทันที เพราะนั่นเป็นสัญญาณที่ตับกำลังบอกคุณว่า ตับกำลังทำงานหนักมากเกินไปแล้ว 

11. อาการปัสสาวะเป็นสีคล้ำ อาการปัสสาวะสีคล้ำ มีผิวเหลือง เป็นภาวะของโรคดีซ่านซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคตับ โรคตับอักเสบ 

12. อาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อตับมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ก็ทำให้ตับไม่สามารถเผาผลาญสารอาหารได้ ทำให้อาหารที่เราทานไปไม่ย่อย จนทำให้เราเบื่ออาหาร คลื่นไส้ และอาการเบื่ออาหารอาจเป็นอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ 

13. อาการท้องโต เท้าบวม เมื่อสมรรถภาพของตับลดลง การดูดซึมของเหลวจึงทำได้ไม่ดี ส่งผลให้ของเหลวซึมเข้าสู่ช่องท้องและเท้า 

13 อาการข้างต้น อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย ทราบสาเหตุที่แท้จริงและรักษาอาการได้รวดเร็ว 

ที่มา:  www.siamca.com

อัพเดทล่าสุด