เรื่องที่สงสัยมานาน! เลือดล้างหน้าเด็กแตกต่างจากรอบเดือนอย่างไร


9,271 ผู้ชม

เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนระยะบลา สโตซีส  (blastocyst  ) เข้ากับเยื่อบุมดลูกทำให้มีเลือดออก ในระยะเวลาเริ่มประมาณวันที่ 5-6 หลังจากที่ไข่ถูกผสมแล้วที่ปีกมดลูก แล้วเดินทางมาใช้เวลาฝังตัวจนติดสมบูรณ์รวมระยะเวลา 7 วัน


เรื่องที่สงสัยมานาน! เลือดล้างหน้าเด็กแตกต่างจากรอบเดือนอย่างไร 

เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนระยะบลา สโตซีส  (blastocyst  ) เข้ากับเยื่อบุมดลูกทำให้มีเลือดออก ในระยะเวลาเริ่มประมาณวันที่ 5-6 หลังจากที่ไข่ถูกผสมแล้วที่ปีกมดลูก แล้วเดินทางมาใช้เวลาฝังตัวจนติดสมบูรณ์รวมระยะเวลา 7 วัน

ลักษณะของ เลือดล้างหน้าเด็ก

เลือดล้างหน้าเด็กนี้ส่วนใหญ่จะมีน้อย แค่เป็นรอยเปื้อนที่กางเกงใน ทางการแพทย์ใช้คำว่า brief and scanty คือมานิดเดียว เดี๋ยวเดียว เมื่อเลือดนี้ออกมามักไม่ค่อยรู้ตัว ไม่ค่อยมีอาการอื่นร่วมด้วย เมื่อมีมักไม่ปวดท้อง มาแล้วก็จะหายไปเลย อย่างไรก็ตาม บางคนอาจมีเลือดมากกว่านั้น แต่เลือดที่มาจะมีปริมาณน้อยกว่าที่เคยมา และจำนวนวันก็แค่วันสองวัน ไม่นานเท่ารอบเดือนที่เคยมา
เลือดล้างหน้าเด็กจะออกก่อนหรือใกล้เคียงกับที่ประจำเดือนรอบถัดไปควรจะมา

หากยังไม่แน่ใจ หรือยังเกิดความสงสัยเรื่องเลือดล้างหน้าเด็ก ควรตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์
เลือดล้างหน้าเด็กนั้นคนตั้งครรภ์บางคนเท่านั้นที่มี คนส่วนใหญ่จะไม่มี กล่าวคือพอตั้งครรภ์ รอบเดือนก็จะหลบหน้าไปเลย ไม่อาลัยอาวรณ์แบบนี้

โดยทั่วไปเลือดล้างหน้าเด็กจะมาแค่ที่ว่าข้างต้น แต่มีบางกรณีที่มีเลือดมากกว่าที่ว่า ก็อาจเป็นเลือดออกผิดปกติที่เกิดจากการตั้งครรภ์ก็ได้ กรณีเช่นนี้แนะนำให้ตรวจปัสสาวะดูค่ะ คุณสามารถเก็บปัสสาวะที่ตื่นนอนตอนเช้าเพราะเป็นช่วงเวลาที่มีฮอร์โมน เบต้า-HCG ค่อนข้างสูงค่ะ

ผู้หญิงหลายคนอาจพบว่ามีเลือดออกเล็กน้อยในบางช่วงของรอบเดือน อาจเป็นช่วงมีหลังจากมีประจำเดือนไปแล้ว หรือ ช่วงกลางรอบหรือวันสองวันก่อนประจำเดือนจะมา ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องปกติ และ บางครั้งอาจจะเป็นการบ่งถึงอาการผิดปกติมาก หรือน้อยก็ได้  ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับคำว่า Spotting กันก่อน Spotting คือ การมีเลือดออกเพียงเล็กน้อยจากช่องคลอด โดยทั่วไปแล้วจะไม่ไหลจนเปื้อนกางเกงใน แต่อาจพบได้ถ้าเช็ดด้วยกระดาษชำระหลังเข้าห้องน้ำ เลือดอาจมีลักษณะเป็นมูกสีชมพูจาง น้ำตาล หรือสีแดงสด Spotting อาจเกิดเพียงตครั้งเดียว หรืออาจกินเวลาหลายชั่วโมง หรือบางทีหลายวัน Spotting ไม่ใช่การกำหนดวันที่ประจำเดือนมาวันแรก เราจะต้องนับจากวันที่ประจำเดือนไหลจริงๆ(เลือดแดง)

Spotting แบบ ปกติ

แบบปกตินี้อาจเกิดหลังจากประจำเดือนวันสุดท้าย จะเกิด 1 ? 2 วันหลังจากประจำเดือนมามาก 3 ? 5 วันแล้ว Spotting ที่เกิดในช่วงกลางรอบเดือน หรือเกิดในวันที่ 10 ? 14 ก่อนรอบถัดไปก็ปกติเช่นกัน เลือดจางๆแบบนี้อาจจะบ่งถึงการตกไข่ ถ้าพบเลือดลักษณะนี้ระหว่างช่วงตกไข่ในพิจารณาว่าเป็นลางดี?. เชื่อกันว่าเลือดที่เกิดในช่วงกลางของรอบเดือนมี 2 สาเหตุ
1. เกิดจากเมื่อไข่ทะลุผ่านถุงไข่ออกมาทำให้เกิดการฉีกขาด และไหลผ่านออกมาด้านนอก
2. หรือ ระหว่างช่วงตกไข่ ระดับเอสโตรเจนจะเพิ่มสูงขึ้น และอาจจะไปกระตุ้นมดลูกทำให้เลือดออกได้
Spotting ที่เกิดขึ้น 1 สัปดาห์ถึง 1 วันก่อนกำหนดประจำเดือนจะมา อาจจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก หรือ เลือดที่เกิดจากตัวอ่อนฝังตัว หรืออาจจะเกิดจากเมื่อมีการฝังตัว ระดับเอสโตรเจนจะเพิ่มขึ้นและโปรเจสเตอโรนลดลง ขอให้จำไว้ว่าถ้าเลือดยังไหลต่อกันหลายวันจะไม่ใช่เลือดล้างหน้าเด็ก(ไว้วัน หลังจะแปล แบบไม่ปกตินะ) ขอบคุณข้อมูลจากผู้หญิงแต่ละคนก็มีประสบการณ์การท้องที่แตกต่างกัน อาการของการตั้งครรภ์มีหลากหลายทั้งความรุนแรงและระยะเวลา ในผู้หญิงบางคนอาจจะไม่เคยมีอาการเลยก็เป็นไปได้อย่างไรก็ตามหลังจากการฝัง ตัวไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ระดับฮอโมนส์บางตัวจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก อาการของการตั้งครรภ์ปกติแล้วจะไม่แสดงไปจนกว่าจะมีอายุครรภ์ 1 ? 2 สัปดาหฺ์หลังจากประจำเดือนขาด และการเคลื่อนไหวของตัวอ่อนจะเริ่มขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ 16 หลังจากปฏิสนธิ
ที่มา : mamaexpert.com

อัพเดทล่าสุด