8 อาหารที่มะเร็งกลัว ยิ่งกินมะเร็งยิ่งกลัว มีอะไรบ้าง? ต้องอ่าน!


90,666 ผู้ชม

โดยวิธีที่เราจะนำเสนอวันนี้ เป็นการทำด้วยการรับประทานอาหารที่ดี เพียงแค่คุณรับประทานอาหารต่อไปนี้ รับรองว่ามะเร็งก็เข้าหาคุณได้ยากมากขึ้นแล้วละ ศัตรูของมะเร็ง มีอะไรบ้าง...


 8 อาหารที่มะเร็งกลัว ยิ่งกินมะเร็งยิ่งกลัว มีอะไรบ้าง? ต้องอ่าน!

อาหารที่มะเร็งกลัว เมื่อพูดถึง “มะเร็ง” คงไม่มีใครอยากเป็นหรือพบเจอกับโรคร้ายๆที่ว่านี้ เพราะมันเป็นโรคที่เป็นแล้วหายยาก เป็นแล้วทรมาน และมันสามารถพรากชีวิตมนุษย์ได้สูงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ดังนั้น แค่ได้ยินชื่อโรค หลายๆคนก็ถึงกับเบือนหน้าหนีมันไปเสียแล้ว

อย่าเพิ่งปฏิเสธโรคนี้เลย  เพราะเราเองยังจำเป็นต้องรู้จักมันเพื่อไล่ตามมันให้ทัน ทราบถึงสาเหตุของการเกิดมะเร็ง และเรียนรู้วิธีการป้องกันที่ถูกต้อง เราจะได้ปลอดภัยจากมันมากขึ้นอย่างไรละ

สิ่งที่ต้องรู้ก็คือ “ศัตรูของมะเร็ง” รู้ว่ามะเร็งเกลียดอะไร รู้ว่ามะเร็งไม่ชอบอะไร แล้วพยายามนำสิ่งนั้นเข้าใกล้ตัวเรา ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการป้องกันการเกิดมะเร็งที่คุณเองสามารถทำได้

อาหารที่มะเร็งกลัว โดยวิธีที่เราจะนำเสนอวันนี้ เป็นการทำด้วยการรับประทานอาหารที่ดี เพียงแค่คุณรับประทานอาหารต่อไปนี้ รับรองว่ามะเร็งก็เข้าหาคุณได้ยากมากขึ้นแล้วละ ศัตรูของมะเร็ง มีอะไรบ้าง

1. ศัตรูของมะเร็งกระเพาะอาหารคือกระเทียม

2. ศัตรูของมะเร็งตับคือ เห็ด

3. ศัตรูของมะเร็งตับอ่อนคือ บร็อคโคลี่

4. ศัตรูของมะเร็งปอดคือ ผักโขม

5. ศัตรูของมะเร็งลำไส้คือ หน่อไม้น้ำ

6. ศัตรูของมะเร็งเต้านมคือ สาหร่ายทะเล

7. ศัตรูของมะเร็งผิวหนังคือ หน่อไม้ฝรั่ง

8. ศัตรูของมะเร็งปากมดลูกคือ ถั่วเหลือง

ดังนั้น อาหารที่มะเร็งกลัว เราจึงควรหันมาบริโภคศัตรูของมะเร็ง นับแต่วันนี้เป็นต้นไป

11 วิธีง่ายๆ ห่างไกลโรคมะเร็ง

1.ดื่มน้ำที่สะอาด การลดสารที่ก่อตัวทำให้เกิดโรคมะเร็งวิธีหนึ่ง คือการดื่มน้ำที่สะอาด จากการศึกษาที่เพิ่มค้นพบใหม่จากสถิติของสถาบันมะเร็งพบว่าการดื่มน้ำสะอาดจากเครื่องกรองจะดีกว่าการดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่มีคุณภาพน้ำต่ำกว่ามาตรฐาน และจากการศึกษาของสมาคมสิ่งแวดล้อมพบว่าการเก็บรักษาน้ำในเหยือกแก้ว หรือภาชนะสเตนเลส จะดีกว่าการเก็บรักษาในภาชนะพลาสติก     

2.พยายามหลีกเลี่ยงการสูดดมหรือสัมผัสก๊าซขณะเติมน้ำมันรถ เพราะสารพิษที่อยู่ในอากาศสามารถเข้าสู่ปอดและหากกระเด็นสู่ผิวหนังจะทำให้เกิดมะเร็งได้     

3.การหมักเนื้อสัตว์ก่อนการปรุงอาหาร การทำอาหารประเภทปิ้งย่างนั้นหากไหม้หรือมีเศษสีดำของการเผาของถ่านติดอยู่จะทำให้เกิดมะเร็งได้ ดังนั้นหากจะทำการปิ้งย่างอาหาร งานวิจัยของมหาวิทยาลัย Kansas พบว่าการหมักเนื้อสัตว์เหล่านั้นก่อนการปิ้งย่างอย่างน้อยประมาณ 1 ชั่วโมงสามารถลดสารก่อมะเร็งจากการปิ้งย่างเผาได้ถึง 87%

4.ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างพอเพียงสามารถลดความเข้มข้นของการขับถ่ายปัสสาวะได้และลดมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นกับกระเพาะปัสสาวะได้ด้วย ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันหรือให้ปริมาณปัสสาวะมีสีเจือจางเมื่อขับถ่ายทุกครั้ง     

5.รับประทานผักผลไม้สีเขียว เพราะสารแมกนีเซียมจากพืช ผักสีเขียวช่วยลดมะเร็งลำไส้ได้โดยเฉพาะสุภาพสตรี อีกทั้งการได้รับสารแมกนีเซียมที่เพียงพอ จะช่วยให้เซลล์ในร่างกายทำงานอย่างปกติ การรับประทานผักขมครึ่งถ้วยต่อวันให้ปริมาณแมกนิเซียม 75 มิลลิกรัม ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย     

6.ออกกำลังกายลดการเกิดมะเร็งเต้านม การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเผาผลาญไขมัน ดังนั้นการออกกำลังกายโดยการเดินเร็วอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ช่วยลดการเกิดมะเร็งเต้านมได้ถึง 18%     

7.ลดการส่งเสื้อผ้าไปซักแห้ง จากการวิจัยของ National Academies of Science เมื่อต้นปี 2010 ระบุว่าการซักแห้งหรือซักน้ำมันโดยสาร perc (perchloroethylene) จะมีผลให้เกิดการก่อสารมะเร็งต่อปอด ไตและตับได้เมื่อสูดดมเป็นเวลานาน ดังนั้นการใช้สารซักแห้ง ซักน้ำมันที่ทำให้ผ้าเรียบอาจไม่ปลอดภัยอีกแล้ว  

8.ลดการใช้ปริมาณสารเคมีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสารฟอกขาว สารเคมีในการขัดห้องน้ำ สารขจัดคราบสกปรกต่างๆ เพราะหากใช้สารเหล่านั้นเป็นเวลานาน การสูดดมหรือสัมผัสจะก่อให้เกิดมะเร็งได้ การทำความสะอาดห้องน้ำโดยใช้น้ำส้มสายชูก็เป็นทางเลือกใหม่ที่ดีไม่น้อย 

9.หลีกเลี่ยงการผ่านสารรังสี ไม่ว่าจะเป็นการฉายแสงตรวจดูมะเร็งเต้านมประจำปี การทำแมมโมแกรม เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดมะเร็งถึง 4-5 เท่าเลยทีเดียว การตรวจมะเร็งโดยใช้วิธีคลำหา และไม่ผ่านรังสีอาจช่วยลดความเสี่ยงภาวะการเกิดมะเร็งได้ดีกว่า      

10.ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือโดยการแนบหูเป็นเวลานาน เนื่องจากสัญญาณโทรศัพท์มีคลื่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นการใช้โทรศัพท์โดยมีอุปกรณ์เสริมจะลดผลกระทบต่อระบบประสาทและสมองได้       

11.ทาโลชั่นกันแดด เนื่องจากแสงยูวี จากแสงอาทิตย์มีปริมาณมากในปัจจุบันทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังได้ ดังนั้นการทาโลชั่นกันแดดจะช่วยลดปริมาณแสงอาทิตย์ที่จะส่งผลต่อมะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะคนที่ศีรษะล้าน มีผมน้อยควรทาโลชั่นกันแดดเพื่อลดปริมาณสารยูวี

ข้อมูลจาก นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี

อัพเดทล่าสุด