กระเทียมสามารถลดความดันโลหิตสูงและลดคอเลสเตอรอลป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและอาการหัวใจวาย นอกจากนี้ก็สามารถยับยั้งผลกระทบของหลอดเลือดได้
นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย หลังกินกระเทียมและน้ำผึ้งในขณะท้องว่าง เป็นเวลา 7 วัน
กระเทียม เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับอาหารทั่วโลก มันช่วยให้รสชาติของอาหารดีขึ้น และยังมีประสิทธิภาพมากสามารถรักษาโรคได้มากมาย กระเทียมสดเป็นยาที่สามารถรักษาโรคได้อย่างน่ามหัศจรรย์
หากคุณกำลังทุกข์ทรมานจากปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น ไข้ละอองฟาง (Hay fever) โรคทางเดินอาหาร ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ แมลงสัตว์กัดต่อย และการติดเชื้อรา กระเทียมสามารถช่วยคุณได้
กระเทียมสามารถช่วยให้คุณจัดการกับอาการโรคข้อเข่าเสื่อม โรคเบาหวาน และต่อมลูกหมากโต
กระเทียมสามารถทำให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้นและเสริมสร้างสมรรถภาพของร่างกายและขจัดสารพิษออกจากร่างกายของคุณ เมื่อนำหอมหัวใหญ่และขิงมารวมกัน มันสามารถช่วยคุณล้างสารพิษจากเคมีบำบัด
วิธีการใช้กระเทียม?
วิธีที่ดีที่สุดคือการบริโภคกระเทียมแบบสดๆ เพราะมันมีสารอัลลิซิน (allicin) และฤทธิ์ของมันจะกระจายลดลงเมื่อโดยความร้อน เพราะฉนั้นควรหั่นและบดกระเทียมทิ้งไว้สัก 15 นาทีก่อนบริโภค เมื่อคุณบดกระเทียมมันจะเกิดการกระตุ้นปฏิกิริยาต่อสารอัลลิซิน ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารชนิดนี้มากขึ้น ควรรับประทานกระเทียมในขณะท้องว่าง เพราะถ้าท้องเราแน่นไปด้วยอาหาร มันจะยากต่อการดูดซับสารอาหารทั้งหมดกระเทียมสดและน้ำผึ้ง
หั่นกระเทียม 2-3 กลีบเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ถ้าคุณกินส่วนผสมทั้งสองชนิดนี้ทุกวันคุณจะมีสุขภาพดีและมีพลังงานมากขึ้น
กระเทียมเป็นยารักษาไข้หวัดใหญ่
ถ้าผิวคุณไวต่อสิ่งกระตุ้นให้สวมถุงมือและห้ามขยี้ตา เมื่อคุณทำยาบำรุงนี้ เพราะน้ำมันธรรมชาตินี้สามารถทำให้ผิวของคุณแสบร้อนได้
ส่วนผสมที่ต้องมี
หั่นหอมหัวใหญ่เป็นชิ้นๆครึ่งหัว
หั่นกระเทียมเป็นชิ้นบางๆประมาณ 5 กลีบ
หั่นพริกแดงเป็นชิ้นๆ 2 เม็ด
ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาวคั้น 1 ลูก
น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์
วิธีทำ
นำหอมหัวใหญ่ที่สับแล้วใส่ในเหยือกขนาด 350 มล. จากนั้นให้ใส่กระเทียมสับตามด้วยพริกแดงและเมล็ดของพริกทั้งหมดและขิงสับ เทน้ำมะนาวลงไปในเหยือก สุดท้ายให้เติมน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ลงไปปิดฝาปล่อยทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์หรือในห้องครัว
ตอนนี้คุณสามารถใช้ยาสำหรับบำรุงร่างกายแก้อาการเจ็บคอ ไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ได้แล้ว
ข้อมูลจาก www.rak-sukapap.com