สมองถือเป็นอวัยวะชีวภาพที่บอบบางกับกระแสไฟมาก สมองทำการส่งข้อมูลในระดับเซลล์เป็นสารสื่อประสาทที่เรียกว่า Neurotransmitter....
เตือน! อย่านอนกับเครื่องใช้ไฟฟ้า แค่กับโทรศัพท์เครื่องเล็กๆ สมองก็รวนแล้ว
สมองถือเป็นอวัยวะชีวภาพที่บอบบางกับกระแสไฟมาก สมองทำการส่งข้อมูลในระดับเซลล์เป็นสารสื่อประสาทที่เรียกว่า Neurotransmitter
•ภายในสมองของคนเรามีประจุไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนการทำงานของเซลล์ต่างๆ
•หากคนเรากักเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ได้เหมือนปลาไหลไฟฟ้า สมองเราก็จะมีกระแสไฟฟ้าถึง 12 วัตต์เลยทีเดียว แต่ในความเป็นจริงมนุษย์ไม่สามารถทำได้
ในปัจจุบัน ถึงแม้ว่ายังไม่มีงานวิจัยระยะยาว (Longitudinal Studies) ที่ติดตามผลเกิน 10 ปี ในกลุ่มคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือที่ทำให้เกิดมะเร็งสมองได้จริงหรือไม่
• เนื่องมาจากเรื่องราวยังใหม่เกินไป แต่มีงานวิจัยเรื่อยๆ เกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและความร้อน ที่ออกมาจากการใช้มือถือในระยะประชิดตัว
• หากใครสนใจอยากติดตามข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถลองหาอ่านในเว็บที่น่าเชื่อถือได้ อาทิเช่น https://www.cancer.gov.ซึ่งเป็นของ National Cancer Institute ณNational Institutes of Health ซึ่งเว็บไซต์จะทำการคอยอัพเดตเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับมะเร็งประเภทต่างๆ
• โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานวิจัยที่น่าสนใจ
ถึงแม้ว่ายังไม่มีงานวิจัยที่แน่ชัดที่บ่งบอกว่า การใช้โทรศัพท์มือถือจะก่อให้เกิดมะเร็งในสมองได้ แต่นักวิจัยเองก็ยังเตือนว่า
• การใช้โทรศัพท์มือถือ มีความเสี่ยง
• โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ถ้าหากเป็นได้ขอให้เลี่ยงการที่เด็กเล็ก ในวัยที่สมองกำลังฟอร์มตัวและพัฒนาในระบบประสาทส่วนกลาง มิให้เล่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของพ่อแม่
• อีกทั้งควรงดของเล่นประเภทแทบเลต ซึ่งอาจจะทำอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและความร้อนที่เกิดขึ้นจากอุปกรณ์จะทำลายเนื้อเยื่ออ่อนๆ ของเด็กในระยะประชิดได
• กระทั่งในวัยผู้ใหญ่
นักวิจัยก็ยังคงเตือนไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือพร่ำเพรื่อ โดยเน้นว่า หากอยู่ในบ้านหรือในออฟฟิศ ขอให้ใช้โทรศัพท์บ้านเท่านั้น
• หากต้องการโทรมือถือ ก็ต้องใช้หูฟังที่แยกออกมา
•อย่าเอาโทรศัพท์ไปแปะไว้ที่ข้างแก้มเพราะเนื้อเยื่อตรงนั้นอ่อนๆ โดนความร้อนและคลื่นบ่อยๆอาจไม่ปลอดภัย
• ในห้องนอน ไม่ควรมีการชาร์จโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากเกรงว่าสัญญานที่ออกมาในขณะที่หลับจะทำร้ายสมอง
• แม้ว่าคุณจะปิดเครื่องแล้ว แต่ใครจะรู้ว่า สัญญาณคลื่นแม่เหล็กที่เล็ดลอดออกมาจะส่งผลเสียกับสมองแค่ไหน
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ได้มีงานวิจัยออกมาแล้วว่า เด็กที่มีโทรทัศน์ในห้องนอนเมื่อนำมาชั่งน้ำหนักตัวเทียบกับกลุ่มเด็กที่ไม่มีโทรทัศน์ในห้องนอนพบว่า
• เด็กที่มีโทรทัศน์จะมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยสูงกว่าประมาณหนึ่งปอนด์
• นักวิจัยคาดว่าอาจเป็นไปได้ว่า เกิดจากเด็กดูโฆษณาขนมอาหารมากกว่า หรือเป็นได้ว่าคลื่นกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรทัศน์จะไปรบกวนการหลับและการหลั่งฮอร์โมน การซ่อมแซมร่างกายของเด็ก
• ในงานวิจัยถึงแม้เด็กจะไม่เปิดโทรทัศน์ดูเลย แต่ผลที่ได้ก็ไม่ต่างกัน
จากหนังสือ “รู้ก่อนป่วย ด้วยแพทย์แผนจีน” ของคุณหมอไพรได้กล่าวว่า “มีคนไข้คนหนึ่งที่ปวดหัวมาหาคุณหมอ จึงได้ฝังเข็มและให้ยาจีนรับประทาน โดยรักษาแล้วก็หาย แต่แล้วก็กลับมาเป็นอีกอย่างน่าประหลาดใจ อาการกลับมาเรื่อยๆ โดยไม่มีเหตุผล แต่ในที่สุดวันหนึ่งคนในครอบครัวสังเกตว่า ที่หัวนอนของคนไข้มีการติดเครื่องกรองน้ำแบบเสียบไฟฟ้าอยู่นอกห้อง แต่ติดกับตรงหัวเตียงคนไข้พอดี อีกทั้งแพทย์แผนญี่ปุ่นก็มีความเชื่อว่า กระแสไฟฟ้าเหล่านี้จะไปรวนกระแสไฟฟ้าในร่างกาย ทำให้ปวดเมื่อยเนื้อตัว ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ ปวดไหล่ ฯลฯ ที่หาสาเหตุไม่พบ จนทำให้หมอวินิจฉัยและรักษาผิดทางมานักต่อนัก ในที่สุดคนไข้ตัดสินใจหันหัวเท้าสลับกัน คือ ยังนอนบนเตียงเดิมอยู่ แต่หันปลายเท้าไปทางเครื่องกรองน้ำ ผลที่ได้คือ อาการปวดหัวค่อยๆ หายไปจนหายสนิทในที่สุด”
หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ก็ได้ทราบถึงบทความดีดีกับเตือนภัย อย่านอนกับเครื่องใช้ไฟฟ้า แค่กับโทรศัพท์เครื่องเล็กๆ สมองก็รวนแล้วกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ขอให้คุณลองตรวจดูในห้องนอนของคุณว่ามีโทรทัศน์หรือไม่ คุณชาร์จแบตมือถือไว้หัวนอนหรือไม่ คุณมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรที่อยู่ใกล้ๆ หัวขณะหลับบ้างไหม ถ้าหากมีละก็รีบย้ายออกไปทันที เพราะสมองของเรามีค่าสูงมาก อย่าเอาไปเสี่ยงด้วยการวางสมองไว้ใกล้ๆ แหล่งกำเนิดไฟฟ้าทั้งคืนอีกเลย
ThaiJobsGov.com