เตือนภัย!! ใครใช้ Internet Mobile Banking มาดูวิธีตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอม-SMS หลอกกัน..
เตือนภัย!! ใครใช้ Internet Mobile Banking มาดูวิธีตรวจสอบสลิปโอนเงินปลอม-SMS หลอกกัน..
จากกรณีที่ผู้ขายสินค้าออนไลน์ ถูกลูกค้าสั่งซื้อสินค้าและทำทีว่าโอนเงินมาให้ โดยการทำสลิปการโอนเงินปลอม เพื่อตบตาเจ้าของร้าน แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าไม่มีเงินโอนเข้า
นายอาจ วิเชียรเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารยุทธศาสตร์องค์กร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สลิปการโอนเงินปลอม มีใช้มานานตั้งแต่มีตู้เอทีเอ็ม แต่ระยะหลังมานี้มีการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์ทางโทรศัพท์มือถือเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้าเป็นของธนาคารกสิกรไทยจะเรียกว่า โมบายแบงค์กิ้ง ของเคโมบายแบงค์กิ้งพลัส จึงมีการปลอมสลิปการโอนเงินโดยการแก้ไขตัดแต่งรูปภาพ ซึ่งได้รับแจ้งจากผู้ใช้บริการอยู่เป็นระยะ ทางธนาคารกสิกรไทยจึงได้เข้าไปอธิบายในอินเตอร์เน็ต ถึงวิธีการตรวจสอบว่าสลิปการโอนเงินปลอมนั้นเป็นอย่างไรและควรตรวจสอบอย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
โดยหลักๆ ในการตรวจสอบจะต้องตรวจสอบรายการของธนาคารนั้นๆ เช่น ถ้าใช้เคโมบายแบงค์กิ้ง สามารถตรวจสอบรายการย้อนหลังในบัญชีของทางธนาคารในช่วงเวลาที่มีการโอนเงินเข้ามา จากบัญชีไหน และช่องทางไหน ส่วนอีกวิธีสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของทางธนาคาร โดยเข้าไปที่การตรวจสอบเอกสาร ซึ่งจะให้ลูกค้ากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของผู้โอนเข้าบัญชีว่าเลขที่รายการอะไร จำนวนเงินเท่าไหร่ พอคลิกเข้าไปก็จะแสดงรายละเอียดผู้ใช้บริการสามารถเปรียบเทียบกับสลิปที่ได้มาว่าตรงกันหรือไม่
ส่วนวิธีสุดท้ายคือการแจ้งเตือนข้อความ SMS จากทางธนาคาร แต่จุดนี้ก็ต้องระวังเหมือนกัน เพราะการแจ้งเตือน SMS เคยมีกรณีที่คนร้ายปลอมในช่องทางนี้เหมือนกัน คือสมมุติผู้ซื้อจะโอนให้ผู้ขาย นอกจากส่งสลิปปลอมแล้วยังส่ง SMS ปลอมไปให้ด้วย ซึ่งถ้าดูดีๆ จะเป็นข้อความ SMS ธรรมดา แต่เขียนให้เหมือนของธนาคาร ถ้าผู้รับไม่ทันมองดีๆว่ามาจากโทรศัพท์มือถือก็จะไม่รู้ว่าเบอร์ที่ส่งมาไม่ได้มาจากทางธนาคาร
“คนนิยมใช้เคโมบายแบงค์กิ้งพลัส 2-3ล้านคน มีการใช้สลิปเยอะ ก็เป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้กระทำผิด ผู้ขายสินค้าต้องระวังส่วนรูปแบบการปลอมสมัยก่อนมีการตัดแปะจากในกระดาษ โดยการเปลี่ยนแปลงชื่อบัญชี และตัวเลขที่ต้องการโอน ซึ่งแนบเนียนมากแยกแยะได้ยาก ส่วนปัจจุบันจะเป็นรูปภาพการโอนเงินในมือถือ ก็จะตัดต่อในโปรแกรมโฟโตช้อปในคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนแปลงตัวเลข บัญชี จำนวนเงิน ซึ่งต้องยอมรับถ้าทำเนียนๆจะดูยากมาก แนะนำให้ตรวจสอบกับระบบธนาคาร ซึ่งผู้ที่ถูกหลอกส่วนใหญ่จะเป็นผู้ขายที่ถูกผู้ซื้อหลอกลวง ”นายอาจ เปิดเผย
ด้าน พ.ต.อ.สมพร แดงดี รอง ผบก.ปอท. ระบุว่า การซื้อขายสินค้าออนไลน์ในอดีตจะเป็นผู้ซื้อที่ถูกหลอก แต่อยู่มาผู้ซื้อกลายเป็นคนหลอกลวงเจ้าของร้านแทน ซึ่งล่าสุดพบมีการทำสลิปการโอนเงินปลอมขึ้นมาอีก แสดงให้เห็นว่าการซื้อขายของออนไลน์เริ่มมีสัญญาณที่ไม่ดีเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าการหลอกลวงโดยการทำสลิปปลอมขึ้นมาจะยังมีไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับการที่มีผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความกับตำรวจปอท. เพียง 1 ราย เมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่ตำรวจก็ได้เข้มงวดตรวจสอบการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอ เพราะการหลอกลวงในลักษณะนี้แกะรอยคนร้ายไม่ยาก เพราะมีหลักฐานการส่งของไปยังที่อยู่อาศัยของคนร้าย ตำรวจก็สามารถตามไปจับกุมได้ เป็นเรื่องไม่ยากที่จะดำเนินคดี
รอง ผบก.ปอท. ยังบอกถึงวิธีการของกลุ่มมิจฉาชีพที่ทำการปลอมสลิปโอนเงิน โดยใช้รูปแบบจริงของสลิปโอนเงิน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินทางออนไลน์หรือโอนทางตู้เอทีเอ็ม คนร้ายจะใช้วิธีการตัดแปะตัวเลขตกแต่ง ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการแต่งภาพโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมโฟโต้ช้อป เป็นเรื่องที่หลอกลวงโดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จ แต่ใช้รูปแบบที่ธนาคารออกสลิปหลักฐานการโอนเงินให้มาเป็นตัวอย่างให้ตัดแปะตัวเลขของตัวเงินหรือเลขบัญชี ให้ตรงกับข้อมูลที่จะหลอกผู้ขาย ซึ่งขณะนี้ถ้าดูตามเว็บไซต์หรือออนไลน์ก็มีการแชร์เตือนภัยกันเป็นจำนวนมาก
“วิธีการปลอมใบสลิปการโอนเงิน เพียงแค่เปลี่ยนยอดเงินโอน เวลาการโอน เลขบัญชีธนาคาร และส่งให้กับผู้ค้า พร้อมส่งข้อความ SMS การโอนเงินปลอมที่ไม่ได้ส่งมาจากธนาคารโดยตรง แต่เป็นเบอร์ของมิจฉาชีพ แต่ใช้วิธีการพิมพ์ข้อความลอกเลียน SMS ของธนาคารแล้วส่งมายังผู้ค้า จึงอยากเตือนให้ผู้ค้าควรตรวจสอบการโอนเงินของลูกค้าก่อนที่จะส่งของไปให้ ว่าเงินได้เข้ามาในระบบแล้วหรือไม่” รองผบก.ปอท. กล่าว
ส่วนมาตรการๆแก้ปัญหานี้มีอยู่ 2 ส่วน คือตำรวจต้องประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของร้านตรวจสอบสลิปการโอนเงิน ก่อนตัดสินใจการซื้อขายสินค้าและส่งของไปให้ ว่าเงินเข้ามาแล้วหรือไม่ ยิ่งปัจจุบันผู้ค้ามีระบบออนไลน์ในการตรวจสอบยอดเงิน และสามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากบัญชีของบุคคลใด ส่วนผู้ซื้อก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่อยากถูกหลอกก็ควรตรวจสอบสินค้าให้ดี โดยการตรวจสอบทั้งตัวสินค้า ทั้งผู้ขาย และจุดนัดรับสินค้า
ขอบคุณภาพ-beartai.com ขอบคุณที่มา : bangkokbiznews.com