รู้กันหรือไม่ 5 สาเหตุหลัก เปิดแอร์นอนหลับ อาจถึงตายได้


61,385 ผู้ชม

รู้กันหรือไม่ 5 สาเหตุหลัก เปิดแอร์นอนหลับ อาจถึงตายได้ ใครมีพฤติกรรมแบบนี้เลี่ยงด่วน!!


เมื่อไม่นานมานี้ที่ China มีหลายกรณีปรากฏให้เห็นอาทิเช่น กลับถึงบ้านเหงื่อไหลทั้งตัวแต่กลับพุ่งเข้าไปเปิดแอร์ทันที ส่งผลทำให้อุณหภูมิเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนร่างกายปรับตัวไม่ทัน เส้นประสาทบนใบหน้าก็เกิดการเกร็งหดตัว วิงเวียนศีรษะ มีน้ำลายไหลออกมาจากปาก ตากลอกไปมาผิดปกติ และอาการน่ากลัวอื่นๆ ตามมา และที่รุนแรงกว่านั้นก็คือ หากการติดตั้งท่อแอร์มีปัญหา น้ำยาแอร์ที่เป็นสารทำความเย็นเกิดการซึมรั่วไหลและระเหยเข้ามาในห้อง ก็จะทำให้เกิดก๊าซพิษที่เมื่อสูดดมเข้าไปนานๆ ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ดูแล้วช่างน่ากลัวจริงใช่มั้ย? ความจริงเพียงเราใส่ใจรายละเอียดตามด้านล่างซักนิด ฤดูร้อนแบบนี้ก็จะสามารถใช้แอร์ได้อย่างปลอดภัยแล้วล่ะ


1.หลังเหงื่อออกมาใหม่ๆ ไม่ควรรีบเปิดแอร์ทันที

ถ้าสภาวะร่างกายมีอุณหภูมิสูงอาทิเช่น เหงื่อออกมากๆ ดื่มสุรา หรือกำลังสระผมเสร็จหมาดๆ ในช่วงนี้รูขุมขนตามร่างกายกำลังเปิด ยังอาจจะยังไม่ทันได้ปิดสนิทดี ดังนั้นถ้ารีบเปิดแอร์ก็จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายเกิดการปรับตัวอย่างรวดเร็ว หากมีความต่างของอุณหภูมิมากเกินไปก็จะก่อให้เกิดอาการรุนแรงอย่างความผิดปกติของระบบประสาทที่เลี้ยงใบหน้า (Facial paralysis), ไข้หวัด ฯลฯ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ที่มีร่างกายอ่อนแอ ควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

2.อุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศไม่ควรต่ำเกินไป

แนะนำว่าการกำหนดอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศควรอยู่ที่ประมาณ 25-26 องศา หากร่างกายค่อนข้างอ่อนแอควรปรับให้อยู่ที่ประมาณ 27-28 องศา เพื่อไม่ให้อุณหภูมิภายในห้องกับภายนอกแตกต่างกันมากเกิน 8 องศา เพราะถ้าเกินจากนี้จะทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ปากแห้งคอแห้ง ไอจาม และมีน้ำมูกไหล เป็นต้น บางครั้งอาจส่งผลให้เกิดภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือหลอดเลือดแตก (Stroke) ได้!

แล้วเด็กทารกล่ะเหมาะสมที่จะนอนในห้องแอร์หรือไม่? ตามความเป็นจริงเด็กทารกจะมีระบบการเผาผลาญ (Metabolism) ที่ดีกว่าผู้ใหญ่ จึงทำให้ไม่ชอบอากาศร้อน ดังนั้นเมื่อเด็กอยู่ใน้บ้านจึงจำเป็นต้องปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม โดยควรจะอยู่ที่ 26 องศาเพื่อหลีกเลี่ยงอาการผดผื่นคันจากความร้อน (Prickly heat) และยังช่วยให้เด็กมีคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้นอีกด้วย

3. ช่องลมของเครื่องปรับอากาศควรหันขึ้นด้านบน

เพื่อให้ได้รับความเย็นจากแอร์คนส่วนใหญ่มักจะปรับช่องลมหันลงด้านล่าง ซึ่งจริงๆ แล้วการหันช่องลมของแอร์ขึ้นด้านบนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ลมเย็นจัดจากแอร์พัดโดนสู่ร่างกายโดยตรง ตัวอย่างเช่น ถ้าตำแหน่งที่คุณนั่งหรือนอนอยู่ตรงพอดีกับช่องลมของเครื่องปรับอากาศ ลมที่พัดออกมาก็ส่งผลร้ายต่อร่ายกายบริเวณช่วงเอวและหลัง ดังนั้นหากไม่สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ ควรต้องเตรียมผ้าพันคอหรือเสื้อกันหนาวแบบบางมาไว้สวมใส่ด้วย เพื่อจะได้ช่วยปกป้องเส้นประสาทบริเวณต้นคอ ข้อเข่า รวมไปถึงอวัยวะส่วนต่างๆ และควรหาเวลาลุกเดินไปมาให้ร่างกายได้ขยับเขยื่อนด้วย

4. ทุกๆ 1 ชั่วโมงควรเปิดหน้าต่างให้มีลมถ่ายเท เพื่อดูแลระบบทางเดินหายใจ

เนื่องจากเมื่อเปิดแอร์แล้วอากาศภายในห้องจะแห้ง ทำให้ง่ายต่ออาการคัดจมูก จาม และอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ดังนั้นควรทำให้ลมถ่ายเทสะดวกอยู่เสมอๆ ด้วยการเปิดหน้าต่างครั้งละ 15 นาทีในทุกๆ 1 ชั่วโมง และถ้าหากคุณต้องอาศัยอยู่ในห้องแอร์บ่อยๆ ก็ควรป้องกันไม่ให้ผิวหนังแห้ง หรือเกิดอาการคอแห้ง ไอ และคันคอ ด้วยการดื่มน่ำเยอะ ดื่มชาเก๊กฮวย และรับประทานผลไม้สดที่มีวิตามินซีสูง

5. การไม่เปิดแอร์ตลอดทั้งคืนจะดีต่อร่างกายที่สุด

ช่วงกลางคืนในฤดูร้อนอากาศมักจะร้อนอบอ้าว คนส่วนใหญ่จึงชอบการเปิดแอร์นอนหลับตลอดทั้งคืน ซึ่งจริงๆ แล้ววิธีการแบบนี้ไม่ดีต่อร่างกาย โดยที่ถูกต้องควรเปิดแอร์หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก่อนจะนอนจึงค่อยปิดแอร์ หรือตั้งโหมดนอนหลับแล้วใช้พัดลมเข้ามาช่วย หรือตั้งโหมดกำหนดเวลาปิดแอร์อัตโนมัติ

ที่แท้การใช้แอร์ก็จำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ด้วย ทราบกันแล้วก็ต้องจำไว้ให้ดีๆ และอย่าลืมว่าเปิดแอร์ไปพร้อมกับการดูแลสุขภาพ เป็นสิ่งที่พวกเราต้องปฏิบัติน้า

ที่มา : liekr

อัพเดทล่าสุด