คนที่เรียนรู้เร็วยอมรับว่าเขาไม่ได้รู้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้ เป็นคนเปิดใจเสมอ และเต็มใจที่จะตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการหรือสิ่งที่อยากรู้เพิ่มขึ้น ขณะที่บางคนไม่กล้าหรือลังเลที่จะแสดงความไม่รู้ของตัวเองออกมา
• ไม่กลัวที่จะบอกว่า "ไม่รู้"
คนที่เรียนรู้เร็วยอมรับว่าเขาไม่ได้รู้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้ เป็นคนเปิดใจเสมอ และเต็มใจที่จะตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการหรือสิ่งที่อยากรู้เพิ่มขึ้น ขณะที่บางคนไม่กล้าหรือลังเลที่จะแสดงความไม่รู้ของตัวเองออกมา
• ใช้ "Pareto principle"
กฎของพาเรโตก็คือ 80:20
ทำผลลัพธ์ได้ 80% จากการลงมือทำเพียง 20% คนที่เรียนรู้เร็วใช้วิธีนี้เป็นพื้นฐานหลักในการทำงาน เพื่อ focus สิ่งที่ทำโดยเฉพาะงานที่ท้าทาย ที่สำคัญคือคนเหล่านี้ไม่ทำทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่จะเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นลำดับแรก
• สามารถ "เห็นเป็นภาพ"
เมื่อต้องจัดการกับปัญหา คนที่เรียนรู้เร็วจะมองเห็นวิธีการในหลายมิติ และเลือกวิธีการที่ดีที่สุดจาก sense ทั้งหมดที่มี และใช้พลังใจเนี่ยแหละในการหากลยุทธ์ที่จะทำและเรียนรู้จากการกระทำนั้นๆ
• ทำทุกอย่างให้ "ง่าย"
เป็นที่รู้กันว่าปัญหาที่ยาก...ต้องไม่แก้ปัญหาด้วยวิธีการที่ยากกว่าเดิม Thomas Edison, Henry Ford and หรือแม้แต่ Steve Jobs ก็พูดเสมอว่าเรื่องที่ท้าทายทั้งหลายต้องจัดการด้วยวิธีการง่ายๆ
• "ลงมือทำ"
หลังจากพูดจบแล้ว คนที่เรียนรู้เร็วก็ "ลงมือทำ" ในวันเดียวกัน เฉกเช่นการเรียนภาษา หากออกจากห้องเรียนแล้ว ไม่มีทางที่เราจะใช้ภาษาใหม่ได้เลยถ้าเราไม่พูด ไม่ว่าจะพูดผิดหรือถูกก็ตาม
• "ช่างเลือก"
เราไม่มีทางจัดการกับปัญหาโดยปราศจาก "วิธีการ" หรือ "กลยุทธ์" ในการแก้ปัญหาได้ สิ่งสำคัญก็คือใช้เวลาในการ "เลือก" วิธีการที่คุ้มค่ากับผลลัพธ์มากที่สุด
• ใช้ "Parkinson's Law"
Tim Ferris ผู้เขียน The 4-Hour Work Week ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่เราจะได้รับจาก Parkinson's Law และ Pareto's principle เพื่อบรรลุเป้าหมายและทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว
o Pareto's principle: ทำให้เราใช้เวลาของเราให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
o Parkinson's Law: หมายถึงการจำกัดเวลาในการเรียนรู้ของตนเอง...ซึ่งนั่นจะทำให้เราเลือกสิ่งที่สนใจมากที่สุด
เพราะการเรียนรู้เร็ว หมายถึงการจัดสรรเวลาที่เพียงพอในการเลือกเฉพาะสิ่งที่สำคัญที่สุดในหัวข้อนั้นๆ และทำให้เราไม่เสียเวลาไปกับส่วนที่ไม่สำคัญ
• รู้ว่าตอนไหน...ควรหยุด!
ถ้าบางอย่างไปไม่ได้เป็นไปตามแผนต้องรู้จักถอย...คนเรียนรู้เร็วพร้อมที่จะหยุดและไม่เดินหน้าต่อ เพราะเข้าใจกฎการลดลงของผลประโยชน์ส่วนเพิ่ม (law of diminishing returns) หมายถึงทำเพิ่มขึ้นแต่ได้ output ลดลง และจะ focus เฉพาะผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นๆ
• รู้ว่าควร "เตรียมพร้อม" สำหรับอนาคตอย่างไร?
อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อสำหรับคนเรียนรู้เร็วไปแล้วก็ได้...เพราะเขาสามารถที่จะประยุกต์สถานการณ์ต่างๆ กับแนวโน้มในอนาคตได้ โดยสามารถที่จะรู้ได้ว่าจะใช้เรื่องไหน จัดการกับอะไรในอนาคต
• เข้าใจดีว่า "หลายคำถาม...ไม่มีคำตอบ"
บางครั้งเราอาจตั้งคำถามหรือหัวข้อที่ผิด แต่ที่น่าสนใจคือเราต้องรู้ว่าถ้าเรื่องที่เราพูดคุยมันซับซ้อน ไม่ง่าย หรือกระทบใครหลายคน ก็ต้องเข้าใจว่าอาจไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนั้น
• อธิบายให้ "เด็กเข้าใจ"
หลังจากสืบเสาะค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งด้วยตัวเองแล้ว ต้องสามารถที่จะสื่อสารความคิดและความรู้ในเรื่องนั้นๆ ออกมาอย่างเข้าใจง่ายกระทั่งเด็กก็รู้เรื่อง
• คิดบวก
คนเรียนรู้เร็วไม่แสดงทัศนคติเชิงลบออกมาอย่างแน่นอน เพราะเขารู้ว่าอะไรสำคัญกับเขาบ้าง การมองโลกในแง่บวกจะทำให้สามารถรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันและความท้าทายต่างๆ ได้อย่างดี
• รู้จักฟังความเห็นจาก "ผู้เชี่ยวชาญ"
เขารู้ดีว่ามีคนที่รู้ดีกว่าตัวเองในเรื่องต่างๆ เพราะไม่มีใครเรียนรู้มากมายกระทั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญครอบจักรวาลหรอก...จริงมั้ย?
ที่มา คุณเฟิร์น ศิรัถยา อิศรภักดี