หลังจากที่ราคาน้ำมันลงมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงเดือนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันก็เริ่มดีดตัวขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว คนไหนที่ยังติดนิสัยการขับรถแบบเดิมๆ เร่งเครื่องบรึ้นๆ
10 วิธีขับรถแบบไม่ซดน้ำมัน วิ่งเท่ากันแต่ประหยัดน้ำมันมากกว่า
หลังจากที่ราคาน้ำมันลงมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงเดือนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันก็เริ่มดีดตัวขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว คนไหนที่ยังติดนิสัยการขับรถแบบเดิมๆ เร่งเครื่องบรึ้นๆ เหยียบเบรคสลับกับคันเร่งบ่อยๆ อาจจะทำให้รถยนต์สิ้นเปลืองน้ำมันเกินไปได้ หากต้องการประหยัดเงินส่วนนี้ วันนี้มาเรียนรู้วิธีการขับรถแบบประหยัดน้ำมันกันดีกว่า แม้จะถึงที่หมายช้ากว่าสักนิด แต่ประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์ได้มากกว่าอย่างแน่นอน พร้อมแล้วลุยเลย
10 วิธีการขับรถแบบประหยัด วิ่งเท่ากันแต่ประหยัดน้ำมันมากกว่า
1. หากใช้รถเป็นครั้งแรกของวัน ควรอุ่นเครื่องอย่างน้อย 1-2 นาที เพื่อให้เครื่องยนต์พร้อมทำงาน
2. ค่อยๆ ออกตัวไม่ควรออกรถเร็วเกินไป เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า
3. การใช้ความเร็วสม่ำเสมอในการขับขี่ เพราะการขับรถที่มีความเร็ว 80-90 กม./ชม. ไม่ควรเบรกกะทันหันหากควรชะลอความเร็วรถแน่เนิ่นๆ เพราะจะทำให้ประหยัดน้ำมันได้
4. มีการวางแผนการใช้รถในแต่ละวัน หากในครอบครัวมีจุดหมายไปทางเดียวกันควรไปพร้อมๆ กันเพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน
5. การใช้เครื่องปรับอากาศควรเปิดในระดับที่จำเป็นจำเป็น เพราะการใช้เครื่องปรับอากาศจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นและจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น
6. กรณีต้องไปจอดรถรอนานๆ 5-10 นาทีควรดับเครื่องยนต์เพื่อประหยัดน้ำมัน
7. ไม่ควรบรรทุกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป เกินพิกัดที่รถยนต์จะรับน้ำหนักไหว เพราะจะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอและสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น
8. ควรตรวจเช็คลมยางให้มีความเหมาะสมตามคู่มือและตามกำหนดมาตรฐานไม่ควรอ่อนหรือแข็ง
9. หมั่นตรวจเช็คไส้กรอง เพราะเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์เพราะหากชำรุดหรือเกิดอุดตันจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น
10. เมื่อถึงกำหนดตรวจเช็คสภาพรถ ควรเข้าศูนย์หรืออู่ เพื่อตรวจเช็คเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่างๆ ไส้กรอง น้ำมันหล่อลื่น สลับยาง เป็นต้น เพื่อให้พร้อมกับสภาพการใช้งานอยู่เสมอ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับรถของคุณอยู่เสมอ และเป็นวิธีประหยัดน้ำมันได้แบบสุดๆ นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ได้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าคุณไม่รีบจนเกินไป ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าประหยัดน้ำมันกว่ากันเห็นๆ
ที่มา: https://chaoprayanews.com