รวมสุดยอดเทคนิค วิธีกำจัดคราบกาว ทำความสะอาดคราบกาว ให้หมดเกลี้ยง ภายใน1นาที!
กำจัดคราบกาวติดแน่นกวนใจ ด้วยวิธีกำจัดง่าย ๆ ไม่ต้องเปลืองแรง ด้วยวิธีกำจัดคราบกาวเด็ด ๆ ดังต่อไปนี้..
ปัญหาเล็ก ๆ แต่ชวนปวดหัวระดับโลก หนึ่งในนั้นคงไม่พ้นการกำจัดคราบกาวบนภาชนะ เพราะภาชนะสวย ๆ ที่เราอยากเก็บไว้ใช้ประโยชน์ต่อ กลับมีฉลากสติ๊กเกอร์เหนียวหนึบที่ทำอย่างไรก็เอาออกไม่เกลี้ยงสักที แต่บอกเลยว่าต่อไปนี้ไม่ต้องกังวลใจเพราะเรามีวิธีกำจัดคราบกาวถึง 12 วิธี จากwikiHow มาบอกกัน แถมยังเป็นวิธีที่ใช้ของหาง่ายที่มีอยู่ในบ้านแล้วอีกด้วย คราวนี้จะเจองานยากแค่ไหนก็รับมือได้ หนึบมากแค่ไหนก็หายเกลี้ยงชัวร์ ! พร้อมแล้วมาดูกันเลย
1. นิ้วมือหรือยางลบ
วิธีแรกเป็นวิธีแบบเบสิก ๆ ด้วยการใช้นิ้วหรือยางลบนี่แหละ โดยให้ลองเช็กฉลากหรือสติ๊กเกอร์ดูก่อนว่าเหนียวมากไหม หากดูแล้วพอได้ก็ให้ใช้นิ้วหรือยางลบถู ๆ คราบกาวจนจับตัวเป็นก้อนกลม จากนั้นกำจัดคราบไคลเหล่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
2. น้ำมันมะกอก
อันที่จริงจะใช้น้ำมันอะไรก็ได้ แต่น้ำมันมะกอกจะมีความข้นเหนียวกว่าน้ำมันทั่วไป จึงกำจัดคราบได้เร็วขึ้น โดยก่อนทำอย่าลืมทดสอบว่าทำให้ภาชนะเสียหายหรือไม่ก่อนด้วยนะจ๊ะ โดยวิธีการคือให้เทน้ำมันลงบนผ้าสะอาดแล้วแปะไว้บนสติ๊กเกอร์สักครู่ จากนั้นใช้นิ้วค่อย ๆ ถูจนคราบกาวออกหมด แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานเป็นการปิดท้าย
3. น้ำมันหอมระเหย
สูตรนี้ใช้ได้ดีกับภาชนะประเภทแก้ว กระเบื้อง เซรามิก โดยให้เลือกใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างยูคาลิปตัสหรือทีทรีออยล์ เพราะมีราคาถูกและปลอดภัยต่อการนำไปใช้งานต่อ โดยวิธีการคือให้หยดน้ำมันลงบนผ้าสะอาด แล้วถูไปมาบริเวณคราบกาว จากนั้นล้างออกด้วยน้ำยาล้างจานให้เกลี้ยง
4. น้ำยาทำความสะอาดที่ผสมกรดอ่อน ๆ
ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรที่ผสมกรดอ่อน ๆ (Acid) ยี่ห้อใดก็ได้ หรือหากไม่มีผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะใช้เป็นมะนาวหรือส้มก็ให้ผลดีเช่นเดียวกัน โดยให้ฉีดพ่นหรือทาน้ำยาดังกล่าวและทิ้งไว้ตามระยะเวลาคำแนะนำข้างขวด โดยอย่าลืมเช็กว่าเหมาะกับพื้นผิวประเภทไหนด้วย ภาชนะจะได้ไม่เสียหายนั่นเอง
5. แอลกอฮอล์
เลือกชนิดของแอลกอฮอล์ให้เหมาะสม เช่น ชนิดไอโซโพรพิลหรือชนิดใสธรรมดา โดยหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ที่มีผสมของน้ำตาล เพราะจะทำให้สติ๊กเกอร์ยิ่งติดแน่นขึ้นกว่าเดิม โดยวิธีการคือ เทแอลกอฮอล์ลงบนผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชูหนา ๆ แล้วพันรอบภาชนะทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นใช้นิ้วถูบนคราบกาวเพื่อกำจัดคราบให้หลุดออกไป
6. กระดาษกาว
วิธีนี้ใช้ได้ผลดีกับสติ๊กเกอร์หรือป้ายราคาที่ยังเอาออกไม่หมด โดยให้พันเทปกาวไว้รอบนิ้วชี้และนิ้วกลาง แบบหันกาวด้านเหนียวออก จากนั้นกดกระดาษกาวย้ำ ๆ ลงบนคราบสติ๊กเกอร์จนเห็นคราบกาวติดขึ้นมา และหากกระดาษกาวหมดความเหนียวแล้ว ให้เปลี่ยนแผ่นใหม่ และทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะกำจัดเศษสติ๊กเกอร์หมด
7. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูผู้ช่วยอเนกประสงค์ของคุณแม่บ้านก็กำจัดคราบกาวได้กับเขาด้วยนะ โดยแบ่งออกเป็น 2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1 : ทาน้ำส้มสายชูให้ทั่วบริเวณที่ต้องการจะกำจัดสติ๊กเกอร์ ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นใช้นิ้วถูคราบกาว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
วิธีที่ 2 : แช่ภาชนะประเภทแก้วหรือเซรามิกที่มีคราบสติ๊กเกอร์ลงในชามที่ใส่น้ำส้มสายชู จากนั้นขัดออกด้วยมีดพลาสติกหรือไม้บรรทัดเหล็กจนกว่าคราบจะหลุดออกหมด
8. น้ำมันพาราฟิน
เทน้ำมันพาราฟินลงบนผ้าสะอาด แล้วถูลงบนคราบจนกว่าฉลากสติ๊กเกอร์จะหลุดออก จากนั้นล้างออกให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง
9. น้ำมันไฟแช็ก
สูตรนี้ใช้ได้ดีกับแก้วหรือโลหะ และอาจไม่เหมาะกับพลาสติก โดยวิธีการคือ ให้สวมถุงมือและวางภาชนะที่จะลอกสติ๊กเกอร์ลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ จากนั้นเทน้ำมันไฟแช็กลงบนผ้าสะอาด แล้วเช็ดไปรอบ ๆ ภาชนะ ก่อนล้างและผึ่งให้แห้ง
10. ไอน้ำ
วิธีนี้ได้ผลดีกับพลาสติกแข็ง โลหะ และกระจก โดยให้ต้มน้ำในหม้อหรือกระติกน้ำร้อนจนกระทั่งน้ำเดือดเป็นไอ จากนั้นนำภาชนะที่ต้องการกำจัดสติ๊กเกอร์ไปอังไว้กับไอน้ำไว้นาน 1 นาที แล้วจึงใช้มีดค่อย ๆ ขูดสติ๊กเกอร์ที่อ่อนตัวแล้วออก พอภาชนะเย็นก็ค่อยใช้นิ้วถูเศษที่หลืออีกที โดยหากภาชนะเป็นแบบทนความร้อนได้ไม่แตกร้าว ก็ให้นำภาชนะนั้นลงต้มในน้ำร้อนเลยจะช่วยประหยัดเวลามากขึ้น
11. ผ้าเย็น
ผ้าเย็นที่มักได้รับแจกมาบ่อย ๆ ก็สามารถใช้กำจัดคราบสติ๊กเกอร์ได้เช่นกัน โดยให้นำผ้าเย็นมาหุ้มไว้รอบ ๆ ภาชนะแล้วทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นค่อย ๆ ถูผ้าเย็นเพื่อกำจัดคราบกาวออกจากภาชนะจนหมด ทำความสะอาดแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
12. บัตรพลาสติกแบบแข็ง
บัตรพลาสติกแบบแข็งที่หมดอายุแล้วก็นำมากำจัดคราบกาวได้ ด้วยการนำบัตรพลาสติกมาขูดที่คราบสติ๊กเกอร์จนหลุดออกหมดไป โดยอาจวางไว้ประจำในครัวสัก 1-2 ใบ รับรองได้ใช้ประโยชน์ตลอดแน่ ๆ
เลือกวิธีตามที่ถนัดไปลองใช้กันดู โดยขอบอกนิดนึงว่าห้ามใช้เล็บขูดเชียวนะจ๊ะ เพราะเล็บสวย ๆ อาจฉีกขาดได้ แต่ให้ใช้เป็นไม้บรรทัดเหล็กหรือมีดจะดีกว่า ทีนี้ปัญหาเรื่องคราบกาวสติ๊กเกอร์กวนใจก็กลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วแล้ว
ที่มา: home.kapook.com
https://healthfood.muslimthaipost.com/