ตาแห้งเป็นโรคทางตาชนิดหนึ่ง ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการในภาษาละตินว่า Sicca Syndromeผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคตาได้ประเมินว่า ในปัจจุบันแพทย์จะสามารถพบผู้ป่วยโรคตาแห้งเป็นจำนวนมากถึง 1 ใน 5 ของผู้ป่วยโรคตาทั้งหมดที่มาพบแพทย์ นอกจากนี้ยังพบอีกว่า แนวโน้มของผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวกำลังจะเพิ่มสูงขึ้น
สาเหตุที่แท้จริงของ โรคตาแห้ง มีที่มาจากการทำงานที่บกพร่องของต่อมน้ำตา ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวการที่สำคัญคือ ภาวะหมดประจำเดือนที่เกิดขึ้นในผู้หญิงสูงวัย การรับประทานยาคุมกำเนิด มลพิษบางอย่างที่สร้างความระคายเคืองต่อดวงตา เช่น ฝุ่นละออง ควันไฟ หรือไอระเหยของสารเคมี เป็นต้น
ลักษณะอาการของ โรคตาแห้ง เริ่มต้นด้วยมีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ตาแห้ง แสบ เคือง โดยอาการดังกล่าวจะเป็นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เยื่อบุตาจะแดงและอักเสบ กระจกตาก็จะถูกครูดด้วยการเสียดสีเพราะขาดน้ำตาไปหล่อเลี้ยง ผู้ป่วยจะลืมตาด้วยความยากลำบาก
เมื่อรู้สาเหตุของอการตาแห้งแล้ว มาดูวิธีเลี่ยงอาการตาแห้ง ที่จะช่วยดวงตาคุณได้
1. สวมแว่นตากันแดดกรอบใหญ่และแนบใบหน้า เพราะทั้งลมและแสงแดดล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ตาแห้งมากขึ้น การสวมแว่นที่มีกรอบใหญ่และแนบใบหน้าจึงช่วยป้องกันแรงลมและแสงแดดได้ดีขึ้น
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศแห้ง ความชื้นต่ำเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตาแห้ง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องแอร์ถ้าทำได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องติดตั้งเครื่องทำความชื้นเพื่อเพิ่มความชื้นให้กับอากาศภายในห้อง
3. ใช้เวลาอยู่หน้าจอน้อยลง การใช้คอมพิวเตอร์ การอ่านหนังสือ หรือการใช้สายตาเพ่งมองในรูปแบบอี่นเป็นเวลานานๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ตาแห้งทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าลืมพักสายตาด้วยการหลับตาสัก 2-3 นาทีบ่อยๆ
4. อย่าให้ลมเป่าหน้า การอยู่หน้าพัดลม เครื่องปรับอากาศ เครื่องเป่าผม ล้วนแล้วแต่ทำให้ตาแห้งทั้งสิ้น
5. สำรวจยาที่ใช้ ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้คัดจมูก ฮอร์โมนทดแทนในสตรีวัยหมดประจำเดือน ยาบางอย่างที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูง และยารักษาโรคซึมเศร้า ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ตาแห้ง ดังนั้นหากคุณใช้ยาเหล่านี้อยู่และรู้สึกว่าตาแห้ง อาจจะต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
6. กรดไขมันโอเมก้า-3 การรับประทานกรดไขมันโอเมก้า-3 ไม่ว่าจะทางอาหารหรืออาหารเสริม สามารถช่วยป้องกันตาแห้งได้ โดยอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง ก็อย่างเช่น ปลาสวาย ปลาช่อน น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น
7. ใช้น้ำตาเทียมชนิดน้ำหรือชนิดขี้ผึ้ง โดยน้ำตาเทียมชนิดน้ำเหมาะที่ใช้ในเวลากลางวัน แต่ต้องหยอดบ่อยๆ ส่วนน้ำตาเทียมชนิดขี้ผึ้งจะช่วยหล่อลื่นและคงความชุ่มชื้นดวงตาได้นานกว่า แต่มีลักษณะเหนียว หลังจากป้ายแล้วจะทำให้ตามัวชั่วขณะ ดังนั้นจึงควรใช้ก่อนเข้านอนและใช้ในปริมาณที่น้อย
8. ไปพบแพทย์ เพราะมีโรคบางอย่างที่ทำให้ตาแห้ง อาทิ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคโจเก้น (Sjogren’s syndrome) ลูปัส คนที่เปลือกตามีปัญหา และเบาหวาน การรักษาโรคเหล่านี้จะช่วยให้อาการตาแห้งดีขึ้น
9. หยุดสูบบุหรี่ ควันบุหรี่ทำให้ตาแห้ง จึงควรหยุดสูบบุหรี่รวมถึงหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ของคนอื่นหากคุณตาแห้ง
ที่มา: www.aroka108.com