น่าทึ่ง! เห็ดหลินจือ กับฤทธิ์ต้านโรคร้าย
เห็ดหลินจือ (Lingzhi) เป็นยาจีนที่ใช้กันมานานกวา 2,000 ปี นับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้เป็นต้นมา เห็ดหลินจือเป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน และได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ “เสินหนงเปินเฉ่า” ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ที่สุดของจีนมีคนนับถือมากที่สุด ได้กล่าวไว้ว่า เห็ดหลินจือเป็น “เทพเจ้าแห่งชีวิต” (Spiritual essence) มีพลังมหัศจรรย์ บำรุงร่างกายใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุออกไปให้ยืนยาว ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และยังสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง ชาวจีนโบราณต่างยกย่องเห็ดหลินจืออย่างเหนือชั้น ว่าดีที่สุดในหมู่สมุนไพรจีน นอกจากจะมีสรรพคุณเหนือชั้นกว่าแล้วยังปลอดภัยไม่มีพิษใด ๆ ต่อร่างกาย
1. เสริมสร้างระบบภูมิกัน
ระบบภูมิคุ้มกันมีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย มีเม็ดเลือดขาวเป็นเซลล์ที่สำคัญทำหน้าที่ทำลาย เชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง ถ้าเกิดความผิดปกติต่อระบบภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวถูกกดการทำงานร่างกาย จะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย และการต่อต้านมะเร็งแย่ลง
นักวิจัยพบว่าสารออกฤทธิ์ที่สำคัญในเห็ดหลินจือประกอบด้วยสารในกลุ่มโพลีแซคาไรด์ (β-D-Glucans), ไทรเทอพีน (Triterpenes), โปรตีโอไกลแคน (GLIS) และโปรตีน (Ling Zhi-8) สามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆได้เช่น กระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาว ชนิดแมโครฟาจ (Macrophages) หลั่งTNFα ซึ่งเป็นสารต่อต้านเชื้อโรคและเซลล์มะเร็งได้มากขึ้น, ส่งเสริมการเจริญและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดเดนดริทิค (Dendriticcells),ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ การทำลายสิ่งแปลกปลอมโดยวิธีจับกิน (Phagocytosis) ของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด นิวโทรฟิว (Neutrophils) และกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวชนิดบีเซลล์ (B Cells) สร้างสารอิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulins) ซึ่งเป็นสารสำคัญ ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายให้มากขึ้น
ที่มา ดร.อ.ดร.นพ.กิติพงศ์ สุนทราภา หัวหน้าหน่วยเภสัชวิทยาภูมิคุ้มกัน ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
2. ออกฤทธิ์ต่อต้านเซลล์มะเร็ง
การต่อต้านเซลล์มะเร็งก็เป็นอีกหนึ่งสรรพคุณที่พบในเห็ดหลินจือ โดยผ่าน 2 กลไกคือ กระตุ้นการ ทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำลายเซลล์มะเร็ง ได้อีกหนึ่งกลไกลคือ สารออกฤทธิ์ในเห็ดหลินจือหลายชนิดสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ มะเร็งหลายประเภทในหลอดทดลองได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นเห็ดหลินจือจึงเป็นพืชสมุนไพรที่ถือว่า เป็นอีกความหวังทางการแพทย์ในการสกัดมาเป็นยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ภูมิคุ้มกัน และการรักษาโรคมะเร็งต่อไป
สำหรับการใช้เห็ดหลินจือกับผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทย เน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพเป็นหลัก เช่น การใช้เห็ดหลินจือต้มดื่มแทนน้ำ ประชาชนสามารถทำได้เอง โดยวิธีต้มง่ายๆ ใช้ดอกเห็ดหลินจือ ฝานบางๆประมาณ 2-3 ชิ้น ต้มในน้ำเดือดนาน 10-15 นาที ใช้ดื่มแทนน้ำได้ตลอดเวลา ให้มีรสขม บ้างเล็กน้อย สรรพคุณช่วยให้สดชื่น เสริมภูมิต้านทาน ไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด
3. ดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ในฐานะราชาแห่งสมุนไพร เห็ดหลินจือมีตัวยาและสารอาหารที่สำคัญ ที่จะเข้าไปกระตุ้นตับอ่อน โดยตรง ให้ถูกฟื้นฟู และสามารถกลับมาทำงานได้ดีดังเดิม เมื่อตับอ่อนแข็งแรง และถูกกระตุ้นให้ ผลิตสารอินซูลีน เพื่อใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของร่างกาย ได้อย่างเหมาะสม และมี ประสิทธิภาพ จึงทำให้อาการของโรคเบาหวานค่อยๆทุเลาเบาลง และหายได้ในที่สุด และก็จะไม่มี โอกาสกลับมาเป็นอีก เมื่อเราได้รับยาสมุนไพรเห็ดหลินจืออยู่เป็นประจำ
จากการศึกษานักวิทยาศาตร์พบว่าเห็ดหลินจือ สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้จริง โดยมีสาร ออกฤทธิ์สำคัญคือสาร Ganoderans A,B และ C ซึ่งเป็นสารกลุ่ม Polysaccharide
4. ต้านโรคไต
ข้อมูลจากหนังสือ "หลิงจือกับข้าพเจ้า" โดย นพ.บรรเจิด ตันติวิท ระบุว่าเห็ดหลินจือจะช่วยละลาย ใยแผลเป็นให้อ่อนตัว ไม่ให้ไปรัดเส้นเลือดที่เลี้ยงไต เพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงไตได้ จึงทำให้ไต ทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้เห็ดหลินจือยังมีสารนิวคลีโอไทด์ มีคุณสมบัติละลายลิ่มเลือด ไม่ให้ ลิ่มเลือดเกาะตัวง่ายจนทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ที่สำคัญ คือเห็ดหลินจือเป็นแอนติออกซิแดนต์ สามารถขจัดอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และมีประสิทธิภาพ
5. ห่างไกลโรคหัวใจ
ในเห็ดหลินจือมีสารที่ช่วยลดการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด กำจัดโลหะหนักในหลอดเลือด ช่วยป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัวเป็นลิ่มภายในหลอดเลือด ทำให้การไหลของกระแสเลือดภายใน ร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหัวใจดีขึ้น โดยนสารสำคัญที่ช่วยลดความดันโลหิต และลดไขมันใน เลือดคือ กรด Ganodericที่มีอยู่ในเห็ดหลินจือทำหน้าที่ยับยั้งการรวมตัวของเกร็ดเลือด นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าเห็ดหลินจือมีสาร Alcaloide ซึ่งสารชนิดนี้จะทำหน้าที่ลดแรงเสียดทานในผนังของ เส้นเลือดของหัวใจ ขณะที่สาร Nucleoside มีคุณสมบัติละลายล่ิมเลือดที่อุดตัน ไม่ให้ลิ่มเลือด เกาะตัวกันง่ายจนเกินไป
ที่มา: www.1577shop.com