จากประสบการณ์คุณแม่ที่ลูกป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง เนื่องจากเล่นโทรศัพท์มือถือใกล้ลูก ประกอบกับการกระทบกระแทกบริเวณศีรษะ
ทำให้ลูกน้อยเกิดความเสี่ยง และเป็นโรคเนื้องอกในสมอง เรื่องใกล้ตัวคุณพ่อคุณแม่ที่ชอบใช้โทรศัพท์มือถือใกล้ลูกน้อย ที่นี่ดอทคอมจึงขอนำบทความจากคุณแม่ท่านนี้มาแชร์ต่อ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายระมัดระวังการใช้โทรศัพท์มือถือใกล้ลูกน้อย
เรื่องเล่าจากคุณแม่
อาการลูกน้อย
ระยะแรก: อาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ 4 -5 ครั้งต่อวัน เดินได้ เล่นได้ตามปกติ กระหม่อมเริ่มนูนแต่ไม่มาก
ระยะที่ 2: อาเจียน 6 - 10 ครั้งต่อวัน กินน้อยลง ยืนขาสั่น นั่งไม่มั่นคง
ระยะที่ 3: อาเจียนหนักนับครั้งไม่ถ้วน แม้ไม่ได้กินอะไรเลย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง กระหม่อมบวมผิดสังเกต
คุณแม่พาหนูน้อยส่งโรงพยาบาล คุณหมอส่งเข้า X-Ray พบว่ามีก้อนเนื้องอกอยู่ใกล้จุดสำคัญคือแกนสมอง มีความเสี่ยงในการผ่าตัด แต่เลี่ยง
ไม่ได้
สาเหตุสำคัญ
1.ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนบ่อยๆ ทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นเนื้องอก เลือดคลั่งในสมอง เป็นต้น
2.ชอบเล่นโทรศัพท์ใกล้ลูก ชาร์ตแบตแล้ววางไว้บนหัวนอน คลื่นสัญญาณมีผลต่อสมองลูกน้อยได้
ข้อควรระวังที่คุณแม่แนะนำ
1.ช่วงที่ลูกหัดนั่ง หัดยืน หัดเดิน ควรดูแลอย่างใกล้ชิด คอยระวังไม่ให้เขากระทบกระแทกกับของแข็ง
2.การใช้โทรศัพท์ ควรใช้ให้ห่างจากลูก ประมาณ 2 -3 เมตร ไม่นำไปวางไว้ใกล้หัวเตียง
เรื่องจริงจากผู้เชี่ยวชาญ
องค์การอนามัยโลกได้เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพมือถือทำให้เกิดความเสี่ยง
ในการเกิดโรคเนื้องอกในสมอง และเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง โดยสมองของเด็กมีโอกาสได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า และไข
กระดูกของเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 10 เท่า ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำอีกว่าถ้าไม่ใช้โทรศัพท์มือถือแล้ว ควรวางไว้ให้ห่างจากบริเวณ
ศีรษะ ไม่ควรวางไว้บริเวณหัวเตียง เพื่อลดความเสี่ยงในการรับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น