สาเหตุของฟันเหลือง
โดยปกติแล้วสีฟันของคนเราจะเป็นสีขาวมันวาว แต่บางคนจะมีฟันเหลือง คล้ำ หรือดำ ดูไม่สวยงาม ซึ่งอาจจะเป็นฟันเพียงบางซี่หรือเป็นทุก ๆ ซี่ก็ได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟันไม่ขาวก็มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน คือ
1. การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ เบียร์ ไวน์แดง โซดา น้ำผลไม้ ลูกอม ฯลฯ ร่วมกับการที่เราแปลงฟันไม่สะอาดพอ จึงทำให้มีคราบอาหาร คราบแบคทีเรีย และหินปูน มาเกาะติดสะสมทีละน้อยจนเห็นเป็นสีเหลือง เหลืองเข้ม สีน้ำตาล หรือสีดำติดตามซอกฟัน โปรดจำไว้ว่า “น้ำอะไรก็ตามที่ทำให้พรมของคุณเปื้อนเป็นคราบได้ มันก็สามารถทำให้ฟันของคุณเป็นคราบได้เช่นกัน”
2. สีสันของอาหาร เป็นที่ทราบดีว่าเชอร์รี่เพียง 1 กำมือ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันกลับทำลายสุขภาพฟันของคุณได้ เพราะสีย้อมจำนวนมากที่ผสมในผลไม้อย่างเช่น เชอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ รวมไปถึงซอสถั่วเหลือง จะทิ้งคราบหลงเหลือไว้ที่ฟันได้
3. การสูบบุหรี่เป็นประจำก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟันไม่ขาวได้เช่นกัน
4. เกิดจากฟันผุ ซึ่งมักจะทำให้ฟันมีสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำตาล โดยเฉพาะฟันด้านหน้าที่เรามองเห็นได้ชัดเจน
5. เกิดจากฟันตาย ซึ่งหมายถึง อาการของฟันผุที่ผุมาก ๆ และทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน จนทำให้ฟันที่ผุนั้นลุกลามถึงโพรงประสาท (อาจเกิดขึ้นกับฟันที่ได้รับอุบัติเหตุหรือถูกกระแทกอย่างแรงจนเกิดการฉีดขาดของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงฟันก็ได้) ส่งผลทำให้ไม่มีเลือดและประสาทฟันมาหล่อเลี้ยง ทำให้ฟันมีสีทึบไม่โปร่งเหมือนฟันปกติ
6. กรรมพันธุ์และวัยของคุณ เนื้อฟันตามธรรมชาติของคุณจะขาวหรือเหลืองน้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ด้วย เช่น คนผิวดำฟันจะขาว คนมีสีฟันที่ผิดปกติมาแต่กำเนิด รวมไปถึงคนที่มีอายุมากขึ้น โอกาสที่ฟันจะยังคงความขาวก็ยิ่งมีน้อยลง เนื่องจากเคลือบฟันบางลง ทำให้สีเหลืองของชั้นเนื้อฟันที่อยู่ข้างในปรากฏออกมาให้เห็นชัดมากขึ้น เป็นต้น
7. โรคบางชนิดก็สามารถทำให้สีของฟันเปลี่ยนไปได้ รวมไปถึงการตั้งครรภ์ของคุณแม่ก็เป็นสาเหตุทำให้ฟันเหลืองได้เช่นกัน
8. การได้รับยารักษาโรคหรือยาปฏิชีวนะบางชนิดนี้มากเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุทำให้สีฟันเปลี่ยนได้ เช่น การรับประทานยาเตตราซัยคริน โดยการรับประทานยาชนิดนี้จะส่งผลต่อสีของฟัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการก่อตัวหรือสร้างฟัน (ช่วงฟันน้ำนมของเด็กอายุ 3-9 เดือน และช่วงฟันแท้ของเด็กอายุ 3-12 ปี) ทำให้ฟันมีสีค่อนข้างเหลืองหรือเป็นสีเทาดำแทบทุกซี่ หรืออาจเกิดจากยาแก้แพ้บางชนิดที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสี เกิดจากการได้รับสารฟลูออไรด์มากจนเกินไป ซึ่งจะทำให้มีจุดสีน้ำตาลบนฟันที่เรียกว่า “ฟันตกกระ” เป็นต้น ดังนั้นเวลาคุณไปพบทันตแพทย์ คุณควรนำใบสั่งยาหรือยาที่คุณรับประทานอยู่ไปพบแพทย์เพื่อสอบถามด้วยว่า ยาชนิดนี้มีผลต่อสีฟันของคุณหรือไม่
9. แปรงสีฟันที่ไม่มีคุณภาพ จะทำให้ประสิทธิภาพในการขจัดคราบสกปรกมีน้อยลง ส่งผลให้เกิดคราบตกค้างที่ผิวฟันและนำไปสู่การเกิดฟันเหลือง
10. การจัดฟันอีกหนึ่งสาเหตุที่คาดไม่ถึง เนื่องจากจะมีอุปกรณ์ที่ยึดติดฟัน เช่น แร่เงิน มัลกัม ฯลฯ ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะทำให้สีของฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้
สูตรเด็ด! วิธีกำจัดคราบฟันเหลือง โดยไม่ต้องไปหาหมอให้ยุ่งยาก ได้ง่ายๆ ด้วยของใกล้ตัว
วิธีกำจัดคราบฟันเหลือง
1. เปลือกกล้วย
กล้วยที่มักจะทานแล้วโยนเปลือกทิ้งไปคราวหน้าไม่ทิ้งแล้วนะ ในเปลือกกล้วยมีสารที่ช่วยให้ฟันขาวหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม และแคลเซียม วิธีการตัดเปลือกกล้วยสุกออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำมาถูที่ฟันให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วบ้วนน้ำล้างออก ควรทำเป็นประจำก่อนการแปรงฟัน เช้า-เย็น ฟันที่เหลืองจะค่อยๆ ขาวขึ้นอย่างสังเกตได้
2. ขมิ้นชัน + มะนาว + เกลือ
วัตถุดิบจากก้นครัวที่มีกันอยู่ทุกบ้าน โดยผสมผงขมิ้นชัน เกลือป่น และน้ำมะนาวเข้าด้วยกันให้เป็นเนื้อครีมเหมือนกับยาสีฟัน แล้วใช้แปรงฟันจุ่มแปรงฟันให้ทั่วตามปกติ ทำสองสัปดาห์ต่อหนึ่งครั้ง ฟันก็จะกลับมาขาวตามธรรมชาติเหมือนเดิม
3. แครอท
ทานแครอทดิบเป็นประจำ มีส่วนช่วยขัดถูฟันในขณะที่ขบเคี้ยว และสามารถใช้ถูฟันด้วยแครอทดิบช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ค่ะ ด้วยแครอทอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคเหงือก เหงือกอักเสบ และฆ่าแบคทีเรียต้นเหตุของกลิ่นปาก ทั้งยังช่วยปรับสมดุลของกรด-ด่างภายในช่องปากอีกด้วย
4. สตรอว์เบอร์รี
ผลไม้ลูกเล็กๆ สีแดง รสเปรี้ยวหวานอย่างสตอรอว์เบอร์รี่ นอกจากจะช่วยบำรุงผิว มีสารอาหารดีๆ ต่อร่างกาย ยังช่วยให้ฟันขาวขึ้นเนื่องจากในสตรอว์เบอร์รีมีกรดมาลิคที่เป็นส่วนผสมสำคัญในยาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวขึ้น โดยการบดสตรอเบอรี่ 1-2 ลูก พอกให้ทั่วฟัน ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที จึงบ้วนน้ำออกและแปรงฟันตามปกติ
5. น้ำมันมะพร้าว
ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นบ้วนปาก อย่างที่เรียกกันว่า oil pulling กรดลอริคในน้ำมันมะพร้าวสามารถขจัดแบคทีเรีย คราบพลัค สาเหตุของฟันเหลืองได้ ทั้งยังช่วยส่งเสริมสุขภาพเหงือกและทำให้ลมหายใจสดชื่นขึ้นด้วย น้ำมันมะพร้าวแช่เย็นจนเป็นไข ตักขึ้นมา 1 ช้อนโต๊ะเข้าปาก แล้วค่อยๆ กลั้วให้ทั่วทั้งปาก กลับไปกลับมาจนทั่ว ประมาณ 10-15 นาทีแล้วบ้วนทิ้ง ต่อมากลั้วด้วยน้ำเปล่า แล้วจึงแปรงฟันตามปกติ
6. กานพลูป่น + น้ำตาลทราย
สูตรจากธรรมชาติที่ทำได้ทุกวัน ฟอกสีฟันให้ขาวฟันและเหงือกแข็งแรงขึ้นนำเอากานพลูป่นมาผสมน้ำตาลแล้วใช้ขัดฟันนานครั้งละประมาณ 5 นาที
7. ผงเปลือกส้ม
นำเอาเปลือกส้มมาอบหรือตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำไปป่นให้เป็นผงแล้วใช้ขัดฟันให้ขาวได้ ทำได้ทุกวัน เช้า-เย็น
8. กระดาษฟอยล์
กระดาษฟอยล์ที่มักนำมาใช้ห่ออาหารสามารถกำจัดคราบเหลืองบนผิวฟันได้ โดยนำกระดาษฟอยล์มาหุ้มฟันเอาไว้วันละชั่วโมงเป็นประจำทุกวัน ก่อนการแปรงฟันตามปกติ
9. งดเครื่องดื่มคาเฟอีน
หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่ส่วนผสมของคาเฟอีนเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ เนื่องจากสารคาเฟอีนทำให้เกิดคราบเหลืองติดแน่นบนผิวฟัน หากจำเป็นอาจใช้วิธีไม่ให้สัมผัสเนื้อผิวฟันโดยตรง โดยใช้หลอดดูด และแปรงฟันหลังการดื่ม
10. ไม่ดูดบุหรี่
บุหรี่เป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึ่งที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้สูบเองและบุคคลรอบข้าง ทั้งยังทำให้ฟันเหลือง เหงือกสุขภาพไม่ดี มีกลิ่นปาก และโรคในช่องปาก ทางเดินหายใจอีกมากมาย ทางที่ดีคือไม่ควรดูดบุหรี่เลย
ที่สำคัญอย่าลืมว่าการแปรงฟันอย่างถูกวิธีสำคัญที่สุดนะคะ แปรงให้ทั่วทุกซอกทุกมุม ใช้แปรงปัดขึ้นลงบนผิวฟันกับลิ้นจนครบทุกด้าน นานประมาณ 3-5 นาที อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นปากไปพร้อมๆ กัน ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากทุกครั้ง และอย่าลืมเทคนิควิธีการดีๆ ที่เรานำมาฝากกันนะ
ที่มา : ไข่เจียว.com