สุดยอด สมุนไพรรักษา“อีสุกอีใส” ให้หายได้ใน 3วัน
ทุกคนมีโอกาสป่วยเป็นอีสุกอีใส เมื่อติดเชื้อไวรัสอีสุกอีใสจะทำให้เกิดตุ่มใสๆ ขึ้นมาตามตัวและในปาก ซึ่งต่อมาตุ่มนี้จะเริ่มมีลักษณะข้นขึ้นทำให้ดูเหมือน “สุก” จึงเรียกกันว่า อีสุกอีใส หากเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ก็สามารถรักษาให้หายได้โดยไม่ต้องเป็นกังวลอะไร ต่างจากเด็กที่ภูมิคุ้มกันยังทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนผู้ใหญ่ทั่วไป นอกจากจะต้องรับมือกับอาการไข้ ปวดหัว เจ็บเนื้อเจ็บตัวแล้ว ตุ่มน้ำใสๆ ที่ขึ้นมานั้นยังฝากรอยแผลเป็นไว้อีกด้วย ถ้าหากว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ดูแลอย่างถูกวิธี ในสมัยก่อนผู้คนนิยมใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษาอย่างได้ผลดี นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวนะ
โรคอีสุกอีใสเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Varicella zoster (VZV) เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายโดยการสูดหายใจเอาละอองฝอยของสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ เช่น เวลาไอหรือจามเข้าไป หรือสัมผัสกับตุ่มน้ำบนผิวหนังโดยตรงโรคอีสุกอีใสมักพบบ่อยในเด็ก และมีอาการไม่รุนแรงสามารถหายได้เอง หลังจากที่ติดเชื้อจะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต
อาการของโรคอีสุกอีใส
เมื่อร่างกายได้รับเชื้อไวรัสอีสุกอีใสแล้วจะมีระยะฟักตัว 10-20 วัน และจะแสดงอาการดังต่อไปนี้
– มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด ครั่นเนื้อครั่นตัว 2-4 วัน
– เริ่มมีผื่นแดงเกิดขึ้น และผื่นอีสุกอีใสจะทำให้คันมาก ผื่นจะเกิดขึ้นที่บริเวณใบหน้าและลำตัวก่อนแล้วค่อยๆ ลามไปยังแขนขา และอาจขึ้นในเยื่อบุช่องปาก และกับผิวหนังของอวัยวะเพศภายนอก ผื่นจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะต่างๆ อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง
– หลังจากผื่นขึ้นแล้วประมาณ 1-2 วัน ผื่นแดงกลายเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำและตกสะเก็ด ตุ่มน้ำจะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำอยู่บนผิวหนังที่แดง เมื่อตุ่มน้ำโตเต็มที่จะกลายเป็นตุ่มหนอง ช่วงเป็นตุ่มน้ำนี้อาจจะใช้เวลาในการทยอยขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์
– หลังจากตุ่มน้ำใสขึ้นทั้งตัวแล้ว จะค่อยๆ ยุบและแห้งลง และกลายเป็นสะเก็ดที่รอหลุด ระยะที่ตุ่มน้ำแห้งจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน และหลังจากนั้นจะเป็นเวลาที่สะเก็ดแผลจะค่อยๆ แห้งขึ้นเรื่อยๆ จนสะเก็ดหลุดออกเองและทำให้ผิวเป็นปกติ ซึ่งรวมระยะเวลาในการเป็นโรคอีสุกอีใสประมาณ 2 สัปดาห์
สมุนไพรพื้นบ้านรักษาอีสุกอีใส
เสลดพังพอนตัวเมีย
มีอีกชื่อหนึ่งคือ พญายอ โดยเด็ดใบเสลดพังพอนตัวเมียมาล้างให้สะอาด แล้วนำมาโขลกหรือปั่นให้ละเอียดผสมกับน้ำดินสอพอง ทาที่ตุ่มสุกใสบ่อยๆ จะช่วยบรรเทาอาการคัน และทำให้ตุ่มแผลแห้งเร็ว ลดอาการบวมแดงของตุ่มได้ดี ช่วยไม่ให้เด็กมาแกะเกาตุ่มจนกลายเป็นแผลเป็นได้ ในปัจจุบันพบว่ามีผู้ทำเป็นยาคาลาไมล์เสลดพังพอน มีประโยชน์ใช้ทาอีสุกอีใสได้ผลดีมาก พอตุ่มใสขึ้นก็แต้มยาลงไป ตุ่มจะฝ่อ ไม่แตกอักเสบจนเป็นหนอง ทาแล้วจะรู้สึกเย็นสบายหายคัน ช่วยให้เด็กหลับได้ดีอีกด้วย
ใบมะยม
สมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่ขอแนะนำคือ ใบมะยมกลางอ่อนกลางแก่ 2-3 กำมือ ใส่น้ำ 2-3 ลิตร ต้มให้เดือดนาน 20 นาที แล้วยกลงผสมน้ำเย็นให้อุ่นพออาบได้ อาบวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น หลังอาบน้ำอาการจะค่อยๆ ทุเลาและหายเป็นปกติใน 3 วัน
สะเดา
ใบอ่อนของสะเดาตามตำราแพทย์ชาวจีน นำมาต้มกินบ่อยๆ มีการศึกษาพบว่าสารเกดูนิน (Gedunin) และ นิมโบลิดี (Nimbolide) ในใบและเมล็ดสะเดามีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อรา แบคทีเรียและเชื้อไวรัสสูง ดังนั้น จึงสามารถบรรเทาอาการของโรคที่เกิดจากเชื้อรา ไวรัส และแบคทีเรีย อย่างอีสุกอีใสได้ผลชะงัดนัก
ย่านาง
สรรพคุณทั้งต้นปรุงเป็นยาแก้ไข้กลับ ใบเป็นยาถอนพิษ รากเป็นยากระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้ แก้เมาสุรา ถอนพิษสำแดง ควบคุมระบบขับถ่ายให้สู่ปกติ ตำรายาไทย รากต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้ไข้ทุกชนิด วิธีรักษาอีสุกอีใสทำได้ด้วยการเอาราก “ย่านาง” แบบสดจำนวนขยุ้มมือต้มกับน้ำท่วมยาจนเดือด ดื่มขณะอุ่นวันละครั้ง ครั้งละ 3 ส่วน 4 แก้ว ต้มดื่มเรื่อยๆ ติดต่อกัน 3-5 วัน อาการที่เป็นจะหายได้
ผักชี
การอาบน้ำต้มผักชีจะช่วยให้อีสุกอีใสหายไวขึ้น แม้ว่าความเชื่อนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์และเผยแผ่ตามหลักวิชาการ แต่สรรพคุณของผักชีคือเป็นพืชธาตุเย็นที่ช่วยลดอาการผื่นแดง แต่สำหรับการใช้รักษาโรคอีสุกอีใสยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าได้ผลจริง
การป้องกันโรคอีสุกอีใส
การป้องกันโรคอีสุกอีใสเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อไวรัสอีสุกอีใสให้ผู้อื่นได้ตั้งแต่ช่วงออกอาการไข้ไปจนถึงช่วงแผลแห้งตกสะเก็ด ดังนั้นทางป้องกันที่ดีที่สุดคือ การรักษาความสะอาดของร่างกายและของใช้ ในปัจจุบันมี วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนอีสุกอีใส
แม้ว่าในปัจจุบันอีสุกอีใสจะไม่ค่อยระบาดเหมือนกับสมัยโบราณ เนื่องจากการแพทย์สมัยใหม่มีการวัคซีนฉีดป้องกันได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกันที่จะเกิดโรคนี้ได้ และหากว่าคุณหรือคนใกล้ตัวป่วยเป็นอีสุกอีใส ก็ควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี รักษาความสะอาดและป้องกันการติดต่อไปสู่ผู้อื่น และการดูแลรักษาด้วยสมุนไพรต่างๆ เหล่านี้ก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีนะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com