ขี้ไคล คือ หนังกำพร้าส่วนบนของผิวหนัง ซึ่งลอกออกตามปกติทุกวันเมื่อหมดอายุขัย ทั้งนี้การหลุดมาเป็นขี้ไคลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเป็นต้นว่า สภาพแวดล้อม แสงแดด และสารเคมีที่ได้รับ ซึ่งในแต่ละเชื้อชาติอาจจะมีลักษณะขี้ไคลต่างกันไปโดยทั่วไปขี้ไคลจะมีลักษณะเป็นคราบดำ ๆ หลุดออกมาเวลาถูทำความสะอาด
อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฎว่าขี้ไคลมีประโยชน์หรือโทษแก่ร่างกาย แต่หากปล่อยไว้ให้เกิดการหมักหมมเป็นเวลานาน โดยไม่สนใจทำความสะอาดจะทำให้มีกลิ่นตัวมากขึ้นแม้จะเรื่องขี้ๆ แต่สิ่งใกล้ตัวเหล่านี้ก็สามารถบอกความเป็นไปของสุขภาพของเราได้มากมายหลายอย่างเหมือนกัน อย่าลืมใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ด้วย
ใครกำลังกังวลกับคราบขี้ไคลตามบริเวณต่างๆในร่างกายที่เกาะแน่นเหลือเกิน ที่ทั้งขัดทั้งถูยังไงก็เอาไม่ออกสักที วันนี้มีเทคนิคดีๆ ในการกำจัดขี้ไคลฝังลึกมาฝาก
หมั่นสครับผิวทุกอาทิตย์ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ด้วยเกลือขัดผิว ฯลฯ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป
• ขัดผิวด้วยใยบวม หินขัดตัว ในขณะที่อาบน้ำผิวเปียกๆ ขี้ไคลหลุดออกอย่างง่ายดาย แต่ต้องระวังกันหน่อยนะคะ อย่าหนักมือ ขัดตัวแรงเกินไป เพราะจะทำให้ผิวเกิดแผล หรือเกิดการระคายเคืองได้
• ขัดผิวด้วยน้ำมันมะกอก โดยใช้น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ หรือถ้าไม่มีสามารถใช้เบบี้ออยล์แทนได้ ผสมกับเกลือป่น 2 ช้อนชา แล้วนำไปขัดผิวเบาๆ เสร็จแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
• น้ำมะขามเปียกมาขัดผิว โดยนำมะขามเปียกผสมน้ำอุ่นเล็กน้อย แล้วคั่นเอาแต่น้ำ มาขัดๆถูๆเป็นวงกลมให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยล้างออก หรืออาจใช่ครีมมะขามแบบสำเร็จรูป ที่มาขายทั่วไปแทนก็ได้ค่ะ ได้ผลดีเหมือนกัน แถมการใช้มะขามขัดผิว นอกจากจะผลัดเซลล์ผิว ขจัดขี้ไคลได้ดีแล้ว ยังทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย
เมื่อปฏิบัติการขจัดขี้ไคลเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมทาโลชั่น เพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง แค่นี้ ขี้ไคลก็ไม่มารบกวนแล้ว สามารถโชว์ผิวขาวๆ สวยๆ ได้อย่างมั่นใจซะที
ข้อมูลจาก deedaily