ในยุคสมัยที่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียว หลายคนจึงไม่ค่อยสนใจกับเรื่องการนอนเท่าไหร่นัก ขอเพียงแค่ได้นอนหลับก็เพียงพอแล้ว บางครั้งทำงานกลับมาก็นอนทันทีจนไม่ได้ปิดไฟ ซึ่งการทำอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น...
ในยุคสมัยที่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียว หลายคนจึงไม่ค่อยสนใจกับเรื่องการนอนเท่าไหร่นัก ขอเพียงแค่ได้นอนหลับก็เพียงพอแล้ว บางครั้งทำงานกลับมาก็นอนทันทีจนไม่ได้ปิดไฟ ซึ่งการทำอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น...
1. ทำให้ความจำแย่ลง แสงไฟที่เปิดอยู่ในขณะที่เรานอนหลับนั้น จะไปยับยั้งการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ที่จะช่วยในเรื่องการนอนหลับสนิท ทำให้เราพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ เมื่อตื่นมาจะรู้สึกอ่อนเพลีย ทำให้เหนื่อยง่าย สมองเบลอ กระทบต่อประสิทธิภาพในการจดจำ
2. เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้าย ฮอร์โมนเมลาโทนิน นอกจากจะช่วยในเรื่องของการนอนหลับสนิทแล้ว ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ดังนั้นเราควรปิดไฟนอนเพราะฮอร์โมนเมลาโทนินจะเติบโตได้ดีในที่มืด
3. ผิวหมองคล้ำ การเปิดไฟนอนทำให้บางครั้งเราอาจตื่นขึ้นมากลางดึกได้ ซึ่งช่วงเวลา 22.00 - 02.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมน ออกมาซ่อมแซมผิวพรรณ ซึ่งถ้าเราไม่ผักผ่อนในช่วงเวลานั้นจะทำให้เกิดปัญหาผิวหนังตามมา
4. โรคซึมเศร้าถามหา เนื่องจากการเปิดไฟนอนทำให้ฮอร์โมนหลายตัวถูกรบกวน ทำให้ร่างกายของเรารู้สึกอ่อนพลีย เหนื่อยง่าย ทำให้เกิดเป็นความเครียดสะสม ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า
แสงไฟที่รบกวนเวลานอนนั้นไม่ใช่แค่ไฟหัวเตียง หรือ ไฟเพดาน แต่ไฟจากโทรศัพท์มือถือก็อันตรายไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะเป็นอันตรายต่อดวงตาแล้วยังรบกวนเวลานอนของเราอีกด้วย
บทความจาก: Maeban / Photo By colekcolek.com