อาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนถือเป็นเรื่องปกติ แต่สาวน้อยทั้งหลายอาจปวดมากถึงมากที่สุดบางคนอาจจะปวดจนเป็นลมเลยก็มี และสาเหตุของอาการปวดท้องก็มาจากหลายสาเหตุ
อาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนถือเป็นเรื่องปกติ แต่สาวน้อยทั้งหลายอาจปวดมากถึงมากที่สุดบางคนอาจจะปวดจนเป็นลมเลยก็มี และสาเหตุของอาการปวดท้องก็มาจากหลายสาเหตุ เช่น ความไม่สมดุลของฮอร์โมน ตำแหน่งของมดลูกที่อยู่ต่ำกว่าปกติ ความเครียดจากากรงาน หรือแม้กระทั่งความอ้วนก็เป็นสาเหตุของอาการปวดท้องได้เช่นกันนะ
ดังนั้น เราจะต้องเตรียมพร้อมบริหารร่างกายกันตั้งแต่เนิ่นๆ ในช่วงที่ประจำเดือนเพิ่งหมดไป ทำต่อเนื่องสักสามสัปดาห์ แค่นี้อาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือนก็จะเบาบางลงไปได้
1. ท่าธนู |
1. ท่าธนู
ให้สาวๆ นอนคว่ำราบไปกับพื้น จากนั้นให้งอเข่าขึ้นชี้ฟ้า แล้วเอามือรวบข้อเท้าไว้ เกร็งหน้าท้องพร้อมหายใจเข้า ขณะที่ยกขาและทรวงอกขึ้นค้างไว้สักครู่ พร้อมเหยียดแขนไปนสุด ตามองตรงไปข้างหน้าพร้อมปล่อยจิตให้ว่าง ท่านี้ช่วยฝึกให้หน้าท้องแข็งแรง และมดลูกเกร็งแข็งแรงขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ให้สาวๆ ค้างท่านี้ไว้พร้อมกับนับ 1-15 ก็พอ
2. ท่าสามเหลี่ยม |
2. ท่าสามเหลี่ยม
เป็นอีกท่าหนึ่งที่แนะนำ เพราะช่วยลดอาการเครียด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น อีกทั้งช่วยลดอาการปวดประจำเดือน กระตุ้นการทำงานของอวัยวะในช่องท้อง และช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังและไหล่อีกทั้งช่วยบริหารขาให้แข็งแรงด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นท่าที่ได้ประโยชน์มากมายยิ่งนัก เหมาะกับสาวๆ ที่มีเวลาจำกัดเป็นอย่างยิ่ง
ยืนแยกขาทั้งสองข้างให้พอกับระดับไหล่ ค่อยๆ ก้มตัวลงไปช้าๆ แล้วเอามือแตะที่พื้น หรือเสื่อโยคะ พยายามควบคุมขาและแขนให้ตึงพร้อมกับเกร็งท้องไว้ กำหนดลมหายใจเข้าออกพร้อมกับค้างท่านี้ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ โดยให้ตาให้มองไปที่หัวแม่โป้งเท้า หรือมองลอดใต้ขาไปไกล ๆ
3. ท่าหน้าวัว |
3. ท่าหน้าวัว
เป็นท่าที่ทำง่าย ๆ สำหรับมือใหม่หัดโยคะที่ช่วยให้กล้ามเนื้อช่วงบนอันได้แก่ แขน ไหล่ หลังและหน้าท้อง คลายตัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดต้นคอ ปวดหลัง ปวดประจำเดือนได้อีกด้วยนะ
เริ่มต้นด้วยการนั่งในท่าคลาน ให้ฝ่ามือหัวเข้าและหลังเท้าติดพื้นไว้ด้วยค่ะ จากนั้นให้ยกขาซ้ายสอดเข่าซ้ายไปด้านหลังเข่าขวา แยกเท้าทั้งสองให้กว้าง แล้วหย่อนก้นนั่งระหว่างเท้าทั้งสองข้าง ตามมาด้วยการนั่งในท่าเท้าไขว้ แล้วให้เท้าขวาทับบนเท้าซ้ายโดยให้ส้นเท้าขวาใกล้สะโพกซ้ายมากที่สุดและส้นเท้าวางบนพื้น ส่วนเท้าซ้ายก็ให้วางใกล้สะโพกมากที่สุดเช่นกัน และปิดท้ายด้วยให้เข่าซ้ายวางบนพื้น ขณะหายใจเข้าให้ยกมือขวาเอื้อมไปจับกับมือซ้าย ค้างท่านี้ให้นานเท่าที่ลมหายใจเข้า เมื่อเริ่มหายใจออกก็เปลี่ยนท่าสลับข้าง
หากยังไม่เชี่ยวพอและไม่สามารถเอามือทั้งสองข้างมาประสานกันได้ แนะนำให้เอาผ้าขนหนูมาช่วยพยุงแขนทั้งสองข้างแทนการเอาแขนมาติดกันนะคะ และทำหลายๆ ทีเข้า จะพบว่ามันสามารถทำได้อย่างง่ายดาย
ที่มา...www.chicministry.com