สุดยอด! วิธีแก้ข้อศอกดำ-หัวเข่าด้าน จากวัตถุดิบที่หาได้จากในครัว


3,476 ผู้ชม


สุดยอด! วิธีแก้ข้อศอกดำ-หัวเข่าด้าน จากวัตถุดิบที่หาได้จากในครัว

เบื่อไหม? กับปัญหาข้อศอกดำ หัวเข่าด้านสากมือ อุปสรรคความสวยที่สาวหลายๆคนอยากกำจัดออกไปพ้นจากร่างกาย ขอแนะนำเคล็ดลับแก้ข้อศอกดำคล้ำ-หัวเข่าดำด้าน รวมไปถึงตาตุ่มที่ชอบดำคล้ำไม่แพ้กัน กับสูตรรักษาแบบธรรมชาติที่สามารถทำได้ง่ายๆและไม่ต้องใช้เวลานาน

สำหรับสูตรแก้ข้อศอกดำ-หัวเข่าด้านนั้น ขอบอกเลยว่าต้นทุนความสวยในครั้งนี้น้อยมากๆ เพราะวัตถุดิบที่เราจะแนะนำบางอย่างนั้นสามารถหาได้จากตู้เย็นของคุณนั่นเอง

สูตรที่ 1 น้ำมะนาว วัตถุดิบหาง่าย เพราะหลายคนอาจมีติดตู้เย็นอยู่แล้ว เนื่องจากในน้ำมะนาวนั้นมีกรดซิตริกอยู่ในตัว และกรดซิตริกเองก็มีสรรพคุณเป็นสารฟอกขาวตามธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อทาน้ำมะนาวที่ศอกจะช่วยให้ผิวที่ศอกดูขาวขึ้น

สำหรับวิธีทำก็ง่ายๆ เพียงแค่นำมะนาวลูกใหญ่มาผ่าครึ่งเป็น 2 ซีก จากนั้นนำมาขัดบริเวณข้อศอก หัวเข่า หรือบริเวณที่หยาบกร้านเบาๆ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นทาครีมบำรุงปิดท้ายค่ะ สูตรนี้ควรทำสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง เพียงเท่านี้หัวเข่าและข้อศอกของคุณจะค่อยๆกลับมาขาวและเนียนนุ่มมากขึ้น

สูตรที่ 2 น้ำมะขามเปียก นี่ก็วัตถุดิบในครัวที่ต้องมีกันแทบทุกบ้านเช่นกันค่ะ เพียงแค่นำเอามะขามเปียกมาขยำกับน้ำนิดหน่อย จากนั้นก็นำมาขัดเบาๆตามช้อศอก หัวเข่า และส่วนที่แห้งกร้านอื่นๆ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นทาครีมบำรุงปิดท้าย

สูตรที่ 3 น้ำตาลทราย + เบบี้ออยล์ สูตรนี้ทำได้ไม่ยากเช่นเดียวกันค่ะ เพียงแค่นำเอาน้ำตาลทรายไปผสมกับเบบี้ออยล์ เมื่อเข้ากันดีแล้วก็นำมาขัดเบาๆบริเวณหัวเข่าและข้อศอกแล้วทิ้งไว้สัก 15 นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วตามด้วยการทาครีมบำรุงผิว

สูตรที่ 4 น้ำมะนาว + โยเกิร์ต  เพียงแค่นำเอาน้ำมะนาวประมาณ 1 ลูก ไปผสมกับโยเกิร์ต 1 ถ้วย เมื่อผสมเข้ากันดีแล้ว ก็นำมาขัดหรือนวดเบาๆบริเวณผิวที่ดำคล้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้งแล้วทาครีมบำรุงผิวตาม

สูตรที่ 5 น้ำส้มสายชู + โยเกิร์ต  เพียงแค่นำเอาน้ำส้มสายชูจำนวน 1 ช้อนชา ไปผสมกับโยเกิร์ต 1 ถ้วย คนส่วนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปทาที่ศอก หัวเข่า ขัดวนเป็นวงกลม แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นทาครีมบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น

ที่มา: https://bedtaledidea.blogspot.com/2015/05/blog-post_69.html

อัพเดทล่าสุด