เชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์เรา สามารถมีอุจจาระตกค้างในลำไส้ได้มากถึงประมาณ 10กิโลกรัม ซึ่งอุจจาระที่ตกค้างในร่างกายนี้มาจากอาหารที่เราทานเข้าไป, การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดเพียงพอ, การทานอาหารที่มีกากใยน้อย...
เชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์เรา สามารถมีอุจจาระตกค้างในลำไส้ได้มากถึงประมาณ 10กิโลกรัม ซึ่งอุจจาระที่ตกค้างในร่างกายนี้มาจากอาหารที่เราทานเข้าไป, การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดเพียงพอ, การทานอาหารที่มีกากใยน้อย, การทานอาหารที่มีพยาธิหรือเชื้อราที่ทำให้ระบบย่อยอาหารมีความผิดปกติ, การทำงานของระบบดูดซึมเสียเพราะน้ำมันพืชเคลือบทำให้น้ำที่เราดื่มเข้าไปไม่มีการหมุนเวียน, การไม่ถ่ายอุจจาระในช่วงเวลาตี5 ถึง 7โมงเช้า เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุทำให้อุจจาระตกค้างในลำไส้ทั้งสิ้น
การขับถ่ายอุจจาระหลังเวลา 7โมงเช้า ส่งผลให้ลำไส้ทำงานไม่เป็นปกติ จะมีการบีบให้อุจจาระขึ้นไปส่วนบนทำให้อุจจาระขาดช่วง เวลาถ่ายจึงถ่ายออกไม่หมดโดยที่เราไม่รู้ตัว อุจจาระที่คั่งค้างเหล่านี้จะไปเกาะที่ผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่าก็จะแซงหน้าออกไปก่อน แต่อุจจาระที่ค้างแข็งก็จะยังคงเกาะติดแน่นอยู่ในผนังลำไส้ พอนานๆเข้าก็จะไปกดทับเส้นเลือดต่างๆในกระเพาะและกดทับกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยตามมาได้ เช่น ปวดหลัง ท้องอืด ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่สะบักและไหล่ อ่อนเพลีย เวียนหัว นอนไม่ค่อยหลับ เป็นไมเกรน ฝ้า และอื่นๆ
![]()
วิธีดีท็อกล้างพิษ ล้างทำความสะอาดลำไส้ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงนำเม็ดแมงลัก (ชื่อภาษอังกฤษ คือ Hoary basil ต่อมาเปลี่ยนเรียกเป็น Lemon basil) ประมาณ 2ช้อนชา ผสมน้ำร้อน 1แก้ว ตั้งทิ้งไว้ 30นาที แล้วดื่มก่อนนอน และเพื่อให้การทานง่ายขึ้นเราอาจจะปรุงรสชาติด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำสมุนไพรต่างๆก็ได้ เม็ดแมงลักมีใยอาหารสูงและมีสรรพคุณเป็นยาระบายที่ดี จึงช่วยในการลากอุจจาระที่ตกค้างออกมาได้ เราสามารถทานเม็ดแมงลักเป็นปกติได้ทุกวัน หรือ 3-4วันต่อสัปดาห์ นอกจากนี้
เม็ดแมงลักยังเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ําหนักอีกด้วย เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดพลังงาน และยังช่วยในการลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย
ข้อควรระวังในการทานเม็ดแมงลัก คือ ต้องรอให้เม็ดแมงลักพองตัวเต็มที่เสียก่อน มิฉะนั้นแทนที่จะช่วยระบายก็จะกลายเป็นทำให้ท้องผูกแทนได้
ขอบคุณที่มา ประโยคบอกเล่า