ช่วงนี้ฤดูฝน ภัยอีกอย่างหนึ่งที่มักจะมาพร้อมกับฝนคือ อันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ ตะขาบ แมงป่อง หรือแม้แต่แมงมุม...
สุดยอด! นานาสมุนไพรต้านพิษสัตว์ร้าย
ช่วงนี้ฤดูฝน ภัยอีกอย่างหนึ่งที่มักจะมาพร้อมกับฝนคือ อันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ ตะขาบ แมงป่อง หรือแม้แต่แมงมุม ก็เป็นที่ฮือฮาว่าพบสายพันธุ์ที่มีพิษแรงขึ้นเรื่อยๆ สมุนไพรที่พอจะช่วยรับมือกับสัตว์มีพิษต่างๆนี้จึงมีความสำคัญในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนถึงมือแพทย์ มารู้จักสมุนไพรที่เป็นภูมิปัญญาของคนไทยที่ใช้แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยกันเถอะ
กระดูกไก่ดำ
นำรากและใบนำมาตำผสมกัน ใช้เป็นยาพอกถอนพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น พิษงู ผึ้ง ต่อ แตนต่อย เป็นต้น
ตะขาบบิน
ใช้ถอนพิษแมงป่องและตะขาบกัดต่อยแก้ฟกช้ำบวม ได้อย่างดี การนำใช้ประโยชน์ของชาวบ้านจะใช้ต้นและใบสด ตำผสมเหล้า หรือกับน้ำซาวข้าว คั้นเอาน้ำใช้ทา ส่วนกากใช้พอก
เสลดพังพอน
ราชาแห่งสมุนไพรรักษาผิวหนัง และมีข้อมูลงานวิจัยว่าช่วยต้านพิษจากสัตว์ได้มากที่สุดถึง ๘ ชนิด คือ ผึ้ง ต่อ แตน ตะขาบ แมงป่อง มด ยุง งู การนำมาใช้จะใช้เป็นเสลดพังพอนตัวผู้หรือตัวเมียก็ได้ ใช้ใบที่ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป ประมาณ ๒๕-๓๐ ใบ นำมาล้างน้ำให้สะอาด ให้คนที่ถูกงูหรือสัตว์มีพิษกัดเคี้ยว กลืนแต่น้ำ กากคายออกมาพอกแผล ใบเสลดพังพอนจะช่วยดูดพิษ และทำให้อาการปวดทุเลาลงภายในเวลา ๓๐-๔๕ นาที หรือจะใช้ส่วนราก ซึ่งมีรสจืดเย็น ฝนกับสุราดื่ม ทาแก้พิษงู แมลงสัตว์กัดต่อย ถอนพิษตะขาบ แมลงป่อง
หอมแดง
หาง่ายที่สุดเพราะมีทุกครัวเรือน ใช้แก้พิษแมงมุม อันนี้เป็นประสบการณ์บอกเล่าของผู้ป่วยที่ไปหาหมอแผนโบราณ หมอให้เอาหัวหอมแดงทุบให้บุบ ผสมกับยาหม่องใช้ทาบริเวณที่โดนกัดและให้กิน ด้วย ทำทุก ๆ ๕-๑๐ นาที สัก ๓-๔ ครั้งอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาด ที่ต้องแก้ด้วยหอมแดง เพราะพิษแมงมุมเป็นพิษเย็นจึงต้องใช้ของร้อนอย่างหอมแดง และเร่งสรรพคุณด้วยยาหม่องช่วยขับพิษออกไปได้
โลดทะนงแดง
ในแวดวงหมอพื้นบ้านที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาพิษงูหรือสัตว์มีพิษกัดต่อย ต้องรู้จักประโยชน์และการใช้ประโยชน์ของสมุนไพรโลดทะนงแดงเป็นอย่างดี เพราะสมุนไพรตัวนี้มีความโดดเด่นในการถอนพิษสัตว์ร้ายได้ดีมาก บางรายมีพิษตกค้างสะสมในร่างกายเป็นเวลานานหลายปี แต่พอได้รับการรักษาจากหมอพื้นบ้านผู้เชี่ยวชาญโดยการใช้โลดทะนงแดงถอนพา อาการที่เกิดจากพิษนั้นก็หายลุล่วงด้วยดี วิธีการใช้ในการรักษาพิษ หมอพื้นบ้านจะใช้ส่วนของรากโลดทะนงแดง ฝนกับน้ำมะนาว หรือผสมกับเมล็ดหมาก ดื่มและทาแผลแก้พิษงู ตะขาบ หรือแมงมุมพิษ
ปัจจุบันมีการใช้ตำรับยาโลดทะนงแดง ในผู้ป่วยที่โดนงูเห่ากัดที่โรงพยาบาลกาบเชิง โดยนำตำรับยาโลดทะนงแดงมารักษาผู้ป่วยถูกงูพิษกัดตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ ซึ่งดั้งเดิมเป็นสูตรหมอพื้นบ้าน ส่วนที่นำมาเป็นยาคือ ส่วนราก มีผลยับยั้งประสิทธิภาพการทำงานของพิษงูเห่า โดยนำรากมาฝนและใช้ร่วมกับผงบดของผลหมากสุกที่แห้งแล้ว แล้วนำมาผสมน้ำมะนาวและพอกที่แผลงูกัด และผสมน้ำดื่มเพื่อช่วยขับพิษด้วย ขณะนี้ รพ.ได้พัฒนาวิธีการใช้ในการรักษาให้สะดวก รวดเร็ว โดยบดรากโลดทะนงแดงเป็นผงแห้ง สามารถนำมาผสมกับผงหมากสุกแห้งและน้ำมะนาวใช้ได้ทันทีเมื่อมีผู้ป่วย
ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ศึกษาวิจัยใช้ตำรับยาโลดทะนงแดง รักษาตำรวจตะเวนชายแดน จ.สุรินทร์ ๓๖ นาย ที่ถูกงูเห่ากัด พบว่าได้ผลดี ไม่มีการเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว ไม่พบผลข้างเคียง ในการรักษาพิษงูเห่าดังกล่าวไม่ใช้เซรุ่มแก้พิษงูแต่อย่างใด จนถึงขณะนี้ รพ.ใช้ตำรับยาโลดทะนงแดงรักษาประชาชนที่ถูกงูเห่ากัดประมาณ ๘๐ ราย ทุกรายปลอดภัย ไม่มีเสียชีวิต ปัจจุบันตำรับยาโลดทะนงแดงของ รพ.กาบเชิง ได้นำไปใช้เป็นยาช่วยชีวิตขั้นต้นที่ห้องฉุกเฉิน ผู้ป่วยที่รักษาด้วยยาสมุนไพรจะนอน รพ.๑-๒ วัน และขณะนี้นำสมุนไพรโลดทะนงแดงไปใช้รักษาผู้ป่วยที่ถูกงูกัดในภาคใต้ คือ รพ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็น รพ.ต้นแบบการให้บริการแพทย์แผนไทยแบบครบวงจรของ สธ. ที่มีระบบการส่งเสริมการผลิตยาใน รพ. และการใช้ใน รพ. และในชุมชนด้วย
ตำลึง
นำใบหรือใช้ทั้งต้น มาตำหรือขยี้ หรือฝนกับเหล้าขาวแล้วนำมาพอก แก้พิษตะขาบ ผึ้ง มดแดง มดคันไฟ
อย่างไรก็ตามแนะนำว่าหากโดนงูกัด หรือโดนพิษของสัตว์อย่างรุนแรง เช่น ผึ้งจำนวนมากต่อย เบื้องต้นให้รีบไปโรงพยาบาลโดยด่วนเป็นอันดับแรกก่อน เพราะบางครั้งอาจมีความจำเป็นต้องให้ยาทางเส้นเลือดโดยเร็ว ก่อนจะเกิดอันตรายขึ้น หรือเราอาจไม่ทราบชนิดงู และการรักษาอาจมีความจำเป็นต้องใช้ซีรุ่มเพื่อช่วยชีวิตไว้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: สมุนไพรอภัยภูเบศร