แชร์เตือนภัยคุณแม่! อันตรายจากลูกกัดเปลือกเงาะ


3,782 ผู้ชม

ถึงผลไม้จะดีต่อสุขภาพ แต่ก็อาจเป็นภัยร้ายใกล้ตัวลูกน้อยได้ ต้องระวังกันไว้ให้ดีเชียวค่ะ มิเช่นนั้นอาจเป็นเหมือนหนูน้อยคนนี้...


แชร์เตือนภัยคุณแม่! อันตรายจากลูกกัดเปลือกเงาะ

ถึงผลไม้จะดีต่อสุขภาพ แต่ก็อาจเป็นภัยร้ายใกล้ตัวลูกน้อยได้ ต้องระวังกันไว้ให้ดีเชียวค่ะ มิเช่นนั้นอาจเป็นเหมือนหนูน้อยคนนี้

เมื่อมีคุณแม่ท่านหนึ่งได้ซื้อเงาะมาจากตลาดในกรุงเทพฯ ยังไม่ได้ล้างทำความสะอาด แต่ลูกวัย 1 ขวบ 11เดือนเห็นเข้า ก็หมั่นเขี้ยวอยากทานขึ้นมา เลยคว้าเข้าปากกัดเข้าไปทั้งเปลือก ยังไม่ได้กัดโดนแม้แต่เนื้อเงาะ หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงก็อาเจียนออกมาติดต่อกันเกิน 10 ครั้ง ลูกไม่ยอมดื่มน้ำเกลือแร่ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด คุณแม่จึงตัดสินใจส่งลูกไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เมื่อไปถึงคุณหมอบอกว่า น้องขาดน้ำ ตัวซีด ชีพจรเต้นเร็ว เสี่ยงจะช็อค ต้องแอดมิทด่วน หลังจากตรวจอาการแล้ว คุณหมอบอกว่าน่าจะเจอพวกสารเคมีที่มากับผลไม้ เพราะน้องไม่ได้ทานอย่างอื่นเข้าไปเลยนอกจากข้าวไข่ตุ๋นที่แม่ทำเอง

จากเงาะที่ซื้อมากิโลกรัมละ 50 บาท กลายเป็นว่าต้องเสียเงินค่าแอดมิทที่โรงพยาบาลสูงถึง 7000 บาทต่อคืน คุณหมอได้ทำการรักษาและให้ยาแก้อาเจียน และยาฆ่าเชื้อ อาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว กลับมาร่าเริงได้เหมือนเดิม แต่ก็เกือบแย่ตอนที่อาเจียนออกมาจนตัวซีด ชีพจรเต้นเร็ว นอกจากนี้คุณแม่ยังเผลอเอาปากกัดเงาะ มีอาการปากชา เช่นกัน

คุณแม่เจตได้แชร์เรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์กับคุณแม่ท่านอื่นๆ ใน Facebook เพื่อเป็นบทเรียน เลยไม่อยากให้ลูกๆ บ้านอื่นและคนอื่นๆ เจอแบบนี้โดยเธอยังบอกว่า ขอบคุณทุกกำลังใจและเธอผิดเองที่ไม่ทันระวัง ต่อไปคงต้องเลือกซื้อผลไม้ให้ดี และผลไม้ที่ปลอดภัยที่สุดก็คงต้องปลูกเอง

ข้อความที่คุณแม่เจต @Jeda Bell โพสต์ลงเครือข่าย Facebook
ใครว่าทุเรียนก้านยาวแพง เจอเงาะโล 7,000 อัพ หนาวเลยค่ะ
#‎เพิ่งซื้อเงาะมาวางไว้ยังไม่ทันได้แช่น้ำล้างทำความสะอาด ลูกอายุ 1.11 ขวบ เอาไปกัดทั้งเปลือก เพราะอยากทาน ไม่เกินชั่วโมง อาการออกเลยค่ะ อ้วกจนน้ำเหลืองๆออกแล้วค่ะ หาบส่งรพ.อย่างเร็ว (ที่ทราบว่าเป็นเงาะ เพราะลูกยังไม่ได้ทานอะไรไปนอกจากข้าวไข่ตุ๋นที่เราทำเองกับมือ) อันตรายมากๆค่ะ เดี๋ยวนี้น่ากลัว ทุกอย่างผ่านสารเคมีทั้งนั้นเพราะความเห็นแก่ได้และเห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงผู้บริโภคอย่างเรา #‎ระวังกันหน่อยนะคะ โพสต์นี้ถ้าไม่เหมาะสมแจ้งให้ลบได้นะค่ะ อยากมาเตือนเพื่อนๆในกลุ่ม

เมื่อคุณแม่เจตแชร์เรื่องนี้ลงในโลกโซเชียลมีเดียทำให้มีผู้แสดงความเห็นต่างๆ มากมาย บางความเห็นก็น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ เช่น

ชาวสวนคงไม่ได้ทำหรอกค่ะ เพราะถ้าขายไม่ได้ อีกหน่อยเค้าก็ขาดรายได้ระยะยาว
ปกติ เงาะขนจะไม่ร่วง แต่จะเหี่ยวแห้ง ชาวสวนจะแค่รดน้ำเพื่อให้ดูสด แต่พ่อค้าคนกลางอาจจะนำไปแช่น้ำยา เพื่อให้เงาะไม่เน่าจะได้ขายได้ราคาจนกว่าจะขายหมด

ที่บ้านมีสวนผลไม้ คนรับเหมาสวนทำแบบนี้จริงๆ เห็นกับตา ตัดลงมาจุ่มในถังแล้วเอาขึ้นรถ กลิ่นแรงมาก ทำให้เงาะ ทุเรียน กรอบ สุก สีสด จนไม่กล้าซื้อกิน ยายเว้นไว้ให้ตลอด น่ากลัวมากๆเลย น้ำยาเทใต้โคนต้นยังตายเลย

เงาะทุกวันนี้มียาชนิดหนึ่งฉีดคือยากันหลุดร่วงหรือยาขั้วเหนียวค่ะ เพราะเมื่อเงาะสุกมันจะร่วงชาวสวนเขาเลยฉีดยาไว้ อันนี้ที่ทราบเพราะญาติที่บ้านเล่าให้ฟังค่ะ เพราะมีคนรู้จักทำสวนเงาะ ขอให้น้องหายไวๆนะคะ

เห็นด้วยค่ะเคยซื้อตามตลาดแถวบ้านมากินมาถึงยังไม่ล้างลองกัดลูกนึงเข้าไปเห็นผลเลยค่ะปากบวมและคันมากค่ะมองดูก้อไม่มีมดนะค่ะ….คงเป็นเพราะสารเคมีที่เค้าฉีดอะค่ะ

น้ำยาล้างจาน…เป็นส่วนหนึ่งของกรรมวิธีทำให้เงาะสดใช้รดลงบนเงาะเพื่อให้เงาะสดอยู่ได้หลายวัน…

บ้านนี้ผลไม้ทุกชนิดต้องล้างก่อนค่ะ ไม่เว้นแม้แต่มะนาว/พริกที่ใช้ทำกับข้าว บ้านสามีไม่เคยล้างเงาะ เจ้าตัวทำจนเคย เราบอกไม่ได้!! แล้วเรียกเค้ามาดูน้ำที่ล้าง ทั้งสกปรกทั้งดำ ไหนจะสารเคมีที่มองไม่เห็น ผลไม้ชนิดเดียวที่เราไม่ล้างคือกล้วย แต่บางทีเห็นฝุ่นเกาะแบบสกปรกมากๆ ก็ล้างน้ำค่ะ เพราะลูกชายชอบกิน กลัวจับที่เปลือกแล้วเอามือเข้าปาก

วันหลังให้ดื่มนมทันทีแล้วส่งแพทย์นะครับ นมจะช่วยเจือจางสารเคมีได้ครับ

ผลไม้ทุกอย่างห้ามใช้ปากแกะเปลือกจ้ะ สอนลูกหลานไว้ ยา สารเคมีทั้งนั้น พ่อค้า แม่ค้าคนไหนบอกไม่ใช้อย่าไปหลงเชื่อเชียว

เพิ่มเติม: เงาะ ภาษาอังกฤษ Rambutan มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nephelium lappaceum Linn. เป็นผลไม้เมืองร้อน มีถิ่นกำเนิดในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย และแพร่ขยายมาปลูกมาในบ้านเราในภายหลัง ซึ่งนิยมปลูกในภาคใต้และภาคตะวันออก ซึ่งสายพันธุ์ที่นิยมเพาะปลูกมากที่สุดก็ได้แก่ พันธุ์โรงเรียน (เงาะโรงเรียน) พันธุ์สีทอง พันธุ์สีชมพู เป็นต้น ส่วนสายพันธุ์อื่นๆก็มีปลูกกันบ้างประปราย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก  คุณแม่เจต @Jeda Bell

ที่มา: th.theasianparent.com

อัพเดทล่าสุด