สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ นอกจากจะมีขนาดท้องที่โตขึ้นทุกวันแล้ว ยังมีพฤติกรรมที่แปลกออกไปอีกอย่างคือ...
กลั้นปัสสาวะ ขณะตั้งครรภ์ เสี่ยงแท้ง!
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ นอกจากจะมีขนาดท้องที่โตขึ้นทุกวันแล้ว ยังมีพฤติกรรมที่แปลกออกไปอีกอย่างคือ จะรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยมาก ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยมากเมื่อเทียบกับตอนก่อนตั้งครรภ์ แต่เพราะว่าต้องเข้าห้องน้ำบ่อยมากขึ้น ทำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หลายคนเลือกที่จะอั้นปัสสาวะ ซึ่งผลร้ายของการอั้นปัสสาวะอาจจะทำให้แท้งหรือคลอดก่อนกำหนดได้เลยทีเดียว
Q : ดิฉันตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนกว่า มีอาการปวดขาด้วย ทำให้เวลาปวดปัสสาวะไม่อยากลุกเดินไปไหน เพราะเดินไม่ไหว ต้องกลั้นเอาไว้รอให้ปวดมากจริงๆแล้วค่อยเดินไปเข้าห้องน้ำ อย่างนี้จะมีผลอย่างไรบ้างคะ
สิรินรัตน์ / กรุงเทพฯ
A : การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในกลุ่มสตรีตั้งครรภ์จะทำให้เกิดผลเสียอย่างแน่นอน เพราะน้ำปัสสาวะที่คั่งค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ก็คือของเสียที่ร่างกายพยายามขับออก จะประกอบไปด้วยตะกอนของเสียต่างๆ ถ้ามีการคั่งค้างของน้ำปัสสาวะมากเกินไป จนกระเพาะปัสสาวะไม่สามารถขยายตัวรองรับไว้ได้ ก็จะไหลย้อนกลับขึ้นไปที่ท่อไต และกรวยไตทั้ง 2 ข้าง โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ มดลูกที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้นจะไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ความสามารถในการกักเก็บปัสสาวะลดน้อยลงไปอีก คุณสิรินรัตน์จึงมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น ยิ่งครรภ์แก่ขึ้น ก็จะปวดบ่อยมากกว่าปกติด้วย
ในกรณีที่คุณสิรินรัตน์ชอบกลั้นปัสสาวะ จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะได้ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งคุณสิรินรัตน์จะมีอาการปัสสาวะแสบขัด กะปริดกะปรอย มีอาการเหมือนปัสสาวะไม่สุด แต่ถ้าอาการมากขึ้นอาจจะทำให้กรวยไตอักเสบ ซึ่งจะมีอาการปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะแสบขัด ปวดหลัง มีไข้สูง หนาวสั่น และอาจมีการติดเชื้อในกระแสเลือดได้
นอกจากนี้ อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ทางอ้อม เช่น การแท้งบุตร หรือการคลอดก่อนกำหนดเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น
ดังนั้น เมื่อคุณสิรินรัตน์มีอาการปวดปัสสาวะ ควรรีบลุกไปปัสสาวะทันที อย่ากลั้นหรือรอจนปวดมากๆ แล้วค่อยไปปัสสาวะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันที่ทำงาน หรือช่วงกลางคืนที่นอนหลับไปแล้ว เพราะจะทำให้เกิดผลเสียดังที่กล่าวไปแล้ว และควรดื่มน้ำให้มาก อย่ากังวลเรื่องการเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง จนไปจำกัดการดื่มน้ำค่ะ เพราะอาจจะเกิดผลเสียต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายได้ถ้าร่างกายขาดน้ำ
นอกจากนี้ เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น มดลูกก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น มดลูกที่โตอาจจะทำให้คุณสิรินรัตน์มีอาการไม่สบายตัวมากขึ้น เพราะกล้ามเนื้อหลัง หน้าท้อง และต้นขาต้องรับน้ำหนักมดลูก และน้ำตัวตัวที่เพิ่มมากขึ้น จนอาจมีอาการปวดหลัง ปวดขา มีการเคลื่อนไหวตัวที่ช้าลง ทำให้บางครั้งไม่อยากลุกหรือขยับตัวไปไหน โดยเฉพาะถ้าคุณสิรินรัตน์มีน้ำหนักตัวมาก การเคลื่อนไหวร่างกายอาจจะทำได้ยากและช้ามากขึ้น
ควรบรรเทาอาการดังกล่าว โดยการนั่งทำงานอย่างถูกวิธี ใช้หมอนอิงหนุนหลัง ยืดขาตรง มีการขยับร่างกายเป็นระยะ ปรับเปลี่ยนอิริยาบถให้บ่อยขึ้น การลุกเดินบ่อยขึ้น จะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น อาการปวดหลังและขาจะลดลง เพราะกล้ามเนื้อมีการคลายตัว ไม่เกร็งอยู่ท่าเดิมนานเกินไป อาจจะใช้ยานวดเฉพาะที่บรรเทาอาการได้ เพราะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทารก ถ้าอาการปวดขาไม่ดีขึ้น ก็ควรรีบมาปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกต้องต่อไปนะคะ
ที่มา: www.momypedia.com
เนื้อหาเกี่ยวกับ กลั้นปัสสาวะ ที่เกี่ยวข้อง:
- กลั้นปัสสาวะอาจถึงแท้งได้!
- อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ มีลักษณะและวิธีการไขได้อย่างไร?
- เพราะเหตุใดจึงไม่ให้กลั้นปัสสาวะไว้นานๆ