ฟังชัดๆ ออกกำลังกายกลางอากาศร้อนจัด อันตรายกว่าที่คิด !


1,571 ผู้ชม

ออกกำลังกายหน้าร้อนทำได้ขนาดไหน มีอะไรที่ต้องระวังบ้าง เรื่องนี้คนชอบออกกำลังกายต้องรู้ให้ชัด...


 

ฟังชัดๆ  ออกกำลังกายกลางอากาศร้อนจัด อันตรายกว่าที่คิด !

ออกกำลังกายหน้าร้อนทำได้ขนาดไหน มีอะไรที่ต้องระวังบ้าง เรื่องนี้คนชอบออกกำลังกายต้องรู้ให้ชัด
อุณหภูมิที่ร้อนระอุในบ้านเรา ในบางพื้นที่สูงถึง 40 องศา ทำให้คนรักสุขภาพหลาย ๆ คนเป็นกังวลว่าการออกกำลังกายในช่วงอากาศร้อนจัด หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งนั้นสามารถทำได้หรือไม่ มีข้อดี ข้อเสีย หรือข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษไหม วันนี้แพทย์จากโรงพยาบาลปิยะเวทมีคำตอบค่ะ
นพ.วัชชิระ ตีระพิพัฒนกุล ผอ.ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า แม้ว่าช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแต่ก็พบว่าสภาพอากาศนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บางวันร้อนจัด บางวันมีพายุฝน ทำให้อากาศเย็นลง สลับกับอากาศร้อนจัด ส่งผลให้หลายคนป่วยได้ง่ายในช่วงเวลานี้
และสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่รักสุขภาพ การออกกำลังกายภายใต้อุณหภูมิที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน ๆ อาจจะทำให้ร่างกายต้องรับศึกหนัก เช่น ระบายความร้อนออกจากร่างกายไม่ทัน การเสียเหงื่อมากเกินไป หัวใจเต้นเร็วขึ้น เส้นเลือดขยายตัวเพื่อรับกับอากาศร้อนจัด ส่งผลต่อการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงระบบประสาทด้วย
โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะการออกกำลังกายที่หนักเกินไปและไม่ถูกวิธี จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ในช่วงอากาศแบบนี้

สำหรับโรคที่แนะนำว่าควรระวังในช่วงอากาศร้อนคือ
 1. โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke)
วิธีสังเกตอาการคือ หัวใจเต้นแรงและเร็ว อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศา กล้ามเนื้อเกร็ง รูม่านตาขยาย ความรู้สึกตัวลดลง ในบางราย ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นและอาจเสียชีวิตได้
 2. ภาวะขาดน้ำ/เพลียแดด
          ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้ที่ออกกำลังกายหนักมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน วิธีสังเกตอาการคือ รู้สึกปวดหรือวิงเวียนศีรษะ ความดันต่ำ ปากแห้ง และมีลักษณะคล้ายจะเป็นตะคริว
 3. โรคตะคริวแดด
มักพบในคนที่ออกกำลังกายกลางแจ้งหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานานเช่นกัน ผู้ป่วยจะมีอาการ ปวดเกร็งที่กล้ามเนื้อ ถ้ารู้สึกว่าตนเองมีอาการเหล่านี้ควรหยุดออกกำลังกายทันที และให้รีบเข้าร่มมาอยู่ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หากภายใน 1 ชั่วโมงอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการอย่างละเอียด

 4. โรคผิวไหม้แดด
          โดยผิวบริเวณที่เป็นจะมีรอยแดง ปวดแสบ ปวดร้อน โดยทั่วไปมักจะดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์หากไม่ออกไปโดนแดดซ้ำ และประคบด้วยความเย็น หมั่นทาโลชั่นให้ความชุ่มชื้นบริเวณที่เป็นรอยไหม้เป็นประจำ ถ้าทำเช่นนี้แล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนัง

สำหรับข้อแนะนำในผู้ที่ต้องการออกกำลังกายช่วงหน้าร้อนคือ
  •            อบอุ่นร่างกายก่อนการออกกำลังกาย
  •            เลือกช่วงเวลาในการออกกำลังกายโดยไม่ออกกำลังกายในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด
  •            เลือกสถานที่ออกกำลังกายที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
  •            แต่งกายให้เหมาะสมกับสภาพของอากาศและชนิดกีฬา โดยเลือกสวมเสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อและความร้อนได้ดี
  •            ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกกำลังกายหรือไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง
  •            ที่สำคัญที่สุดควรจิบน้ำบ่อยๆ ระหว่างการออกกำลัง เพื่อทดแทนการสูญเสียเหงื่อและป้องกันภาวะขาดน้ำ

 "การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่จะให้ประโยชน์หรือโทษนั้นก็อยู่กับสิ่งที่เลือกปฏิบัติ หากไม่ระมัดระวังก็อาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะฉะนั้นต้องหลีกเลี่ยงภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย เลือกประเภทและชนิดกีฬาที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่หักโหมหรือออกกำลังหนักจนเกินไป โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจจะปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการออกกำลังกายก่อนจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพียงเท่านี้การออกกำลังกายก็จะเป็นประโยชน์ แก่ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย" นพ.วัชชิระ ตีระพิพัฒนกุล กล่าวทิ้งท้าย


ที่มา: กระปุก

อัพเดทล่าสุด