การมีบาดแผลบนใบหน้าเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับผู้หญิงทุกคน ไม่ใช่เพราะผิวมีแผลเท่านั้น หลังจากรักษาบาดแผลหายแล้วก็ยังเสี่ยงที่จะเกิดรอยแผลเป็นอีกด้วย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การมีบาดแผลบนใบหน้าเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับผู้หญิงทุกคน ไม่ใช่เพราะผิวมีแผลเท่านั้น หลังจากรักษาบาดแผลหายแล้วก็ยังเสี่ยงที่จะเกิดรอยแผลเป็นอีกด้วย หากเกิดรอยแดงรอยดำขึ้นมาเมื่อไหร่ มองทีไรก็ช้ำใจและยิ่งเสียดายผิวสวย ๆ ก่อนหน้านี้จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูวิธีดูแลผิวที่เป็นแผลเพื่อลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็นกันดีกว่าค่ะ
1. เคร่งครัดกับการดูแลผิวประจำวัน
การดูแลผิวที่กำลังมีบาดแผลไม่ให้มีสภาพแย่ลงไปกว่าเดิมเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณจะต้องดูแลผิวในแต่ละวันอย่างเคร่งครัด ห้ามขาดการทาครีมกันแดดก่อนจะออกไปข้างนอกเด็ดขาด นอกจากนี้ ก่อนนอนก็ต้องทาครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นการรักษาสภาพผิวให้อยู่ในภาวะสมดุลที่สุด
2. แผลจางลงด้วยอโลเวร่าเจล และทีทรีออยล์
ผิวที่ชุ่มชื้นดีจะทำให้รอยแผลดูจางลงได้ด้วย หลังจากล้างหน้าสะอาดดีแล้วให้ทาผิวด้วยอโลเวราเจล หรือ ทีทรีออยล์ ทิ้งเอาไว้ 15 นาที แล้วจึงล้างออกอีกครั้งด้วยน้ำเปล่า ทำเช่นนี้บ่อย ๆ รอยแผลก็จะดูจางลง
3. แผลหายไวไม่ทิ้งแผลเป็นด้วยแตงกวา
น้ำที่คั้นจากแตงกวาช่วยให้บาดแผลของคุณหายได้ไวขึ้น โดนใช้น้ำแตงกวาคั้นทาทิ้งไว้ทั่วทั้งใบหน้า ทิ้งเอาไว้จนแห้งไปกับผิว จากนั้นจึงล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด จะช่วให้แผลสมานตัวได้ดี นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้หอมหัวใหญ่ผสมกับมะเขือเทศบดละเอียด ก็จะให้ผลที่ดีกับผิวหน้าได้เช่นกัน
4. สารพัดออยล์ธรรมชาติช่วยแผลหายได้ไว
น้ำมันสกัดจากธรรมชาติหลาย ๆ ชนิด มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิวที่บอบบาง และผิวที่มีบาดแผล เช่น น้ำมันจากต้นกระทิง (Calophyllum inophyllum oil) โรสฮิปออยล์ น้ำมันสกัดจากนกอีมู เป็นต้น
5. แผลหายไวไม่ระคายเคืองด้วยน้ำเย็น
ลดอาการแสบและระคายเคืองผิวและบาดแผลได้ด้วยการใช้น้ำแข็งประคบ หรือล้างหน้าด้วยน้ำเย็น นอกจากจะปลอบประโลมผิวแล้วยังทำให้ผิวสดชื่นอีกด้วย
6. โกโก้บัตเตอร์
การทาโกโก้บัตเตอร์นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยให้รอยด่างดำเล็ก ๆ จางลงได้ด้วย
ที่มา: women.kapook.com