"ฝึกลูกพูด 2 ภาษา..ดีจริงหรือ"
���� เอาใจคุณพ่อคุณแม่ผู้ใส่ใจเรื่องภาษาที่ 2 ของลูกสักหน่อย เพราะเติบใหญ่วัยซนครั้งนี้จะว่ากันด้วยเรื่องการสอนลูกพูด 2 ภาษาค่ะ
��ถ้าคุณสนใจสอนลูกพูด 2 ภาษา โดยเฉพาะลูกครึ่ง ก็ตอนนี้เด็กลูกครึ่งบ้านเราเยอะมาก และพ่อแม่ก็มักกังวลเนื่องจากพ่อพูดภาษาหนึ่ง แม่พูดภาษาหนึ่ง ลูกกลับพูดเป็นคำที่ไม่มีความหมาย เปล่งเสียงพูดแปลก ๆ เมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน เลยกังวลว่าการพูด 2 ภาษาจะเป็นตัวการทำให้ลูกพูดช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกันหรือเปล่า
������������เรื่องนี้ได้ไปขอคำปรึกษาจากคุณหมอปราณี สิตะโปสะ กุมารแพทย์ สถาบันส่งเสริมสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ซึ่งคุณหมอก็มีคำตอบให้ดังนี้ค่ะ
สอน 2 ภาษาได้แต่แรกเกิด
������������เด็กที่มีพ่อหรือแม่เป็นคนต่างชาติ สามารถสอนลูกพูดได้ทั้งสองภาษาตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ คือพูดกับลูกตั้งแต่ตอนที่เขายังพูดไม่ได้นี่ล่ะ พ่อพูดภาษาหนึ่ง แม่พูดภาษาหนึ่ง ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเด็กจะสามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ตั้งแต่เกิด โดยไม่จำเป็นต้องเริ่มที่ภาษาใดภาษาหนึ่งเป็นหลัก พูดไปได้เลยควบคู่กันทั้งสองภาษา เพราะสำหรับเด็กการเข้าใจ การได้ฟังภาษาต่าง ๆ จะค่อย ๆ เกิดขึ้นภายในขวบปีแรก
������������แต่...ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนนะคะที่เราจะสามารถพูดหรือสอน 2 ภาษาได้ เพราะเด็กบางคนอาจจะมีแนวโน้มของการพูดช้า หรือมีปัญหาเรื่องการได้ยิน การรับฟัง การออกเสียง ซึ่งถ้าเด็กมีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะสอนภาษาใดภาษาหนึ่งเป็นหลักไปก่อน เพื่อป้องกันการเกิดความสับสน และไม่ทำให้ลูกพูดช้าลงไปกว่าที่เป็นอยู่
������������ส่วนเด็กที่ไม่มีปัญหาอะไรสามารถเริ่มได้ทันทีค่ะ
สอน 2 ภาษาดีอย่างไร
������������ตอนนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาษาที่สองนอกจากภาษาไทยจำเป็นมากสำหรับโลกปัจจุบัน การเริ่มสอนภาษาที่ 2 ควรเริ่มก่อนเด็กอายุ 7 ปีค่ะ หรือว่าภายในช่วงปฐมวัย เพราะช่วงนี้เด็กจะสนใจเรื่องภาษา ยิ่งช่วงเด็กยังเล็กจะสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปได้ดี จะสามารถใช้ภาษาได้อย่างแตกฉาน ทั้งนี้ขึ้นกับความพร้อมของเด็ก และต้องมีความสม่ำเสมอในการเรียนรู้ด้วย
������������อย่างเด็กบางคนที่ที่บ้านพูดภาษาไทยแต่อยากให้ลูกพูดภาษาอังกฤษได้ ก็ควรให้ลูกเริ่มเรียนก่อน 7 ขวบ และเมื่อลูกเรียนแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องให้ลูกได้หัดใช้ด้วย โดยการพูดภาษาอังกฤษกับลูก ไม่เช่นนั้นการเรียนที่ไม่ได้ทบทวนของลูกจะเสียเปล่าค่ะ
ลูกมีแนวโน้มพูดช้าหรือเปล่า?
������������การจะรู้ว่า ลูกพูดช้าหรือมีแนวโน้มจะพูดช้าหรือไม่นั้น อาจไม่สามารถสังเกตได้ ทันทีแต่แรกเกิด แต่จะสามารถสังเกตเห็นได้ในเดือนถัด ๆ มา ซึ่งก็มีเกณฑ์ในการพิจารณามาฝากค่ะ ว่าถ้าลูกเข้าข่ายตามนี้ให้สงสัยว่ามีแนวโน้มจะพูดช้า ควรพาไปพบแพทย์ และไม่ควรหัดลูกพูด 2 ภาษา
������������ในเด็กทุกช่วงอายุ ถ้าเด็กไม่หันฟังตามเสียง ไม่สนใจเสียงอะไรทั้งสิ้น ควรพาไปตรวจดูทันทีค่ะ
���������6-9 เดือน�ถ้าลูกยังไม่ส่งเสียงอะไรเลยสักนิด ไม่ว่าจะเสียงอือ อา หรือเสียงจากริมฝีปาก หรือเวลามีเสียงอะไรดังขึ้นแล้วไม่หันไปตามเสียง แบบนี้ถือว่าผิดปกติ ต้องรีบไปตรวจเลยค่ะ
���������12 เดือน�ถ้ายังไม่ส่งเสียงเรียกพ่อ แม่ เช่น มา มา ดาดา หรืออะไรที่คล้ายๆจะเรียกพ่อแม่ ถ้าไม่มีคำพูดอะไรออกมาเลย ถือว่าผิดปกติค่ะ
���������15 - 18 เดือน�จะต้องมีคำที่มีความหมายอย่างน้อยหนึ่งคำ ที่เราฟังรู้เรื่อง หรืออาจจะมีคำที่เราฟังไม่รู้เรื่องบ้าง แต่อย่างน้อยเด็กประมาณขวบหนึ่ง เขาจะต้องฟังพ่อแม่รู้เรื่องบ้าง เช่น เราจะสามรถสั่งให้เขาหยิบของบางอย่างให้เราได้ แต่ถ้าเราพูดไปเขาไม่ทำตามเลย เราต้องสงสัยแล้วว่าจะผิดปกติค่ะ
���������2 ขวบ�ถ้าไม่มีคำที่มีความหมายเลย ถือว่ามีพัฒนาการทางภาษาล่าช้า หรือว่าพูดได้เป็นประโยคหรือวลีสั้น ๆ แต่ว่าคนแปลกหน้า สามารถฟังได้เข้าใจน้อยกว่าครึ่งหนึ่งถือว่าผิดปกติ
���������3 ขวบ�จะเริ่มพูดได้เป็นประโยค แต่ถ้าคนแปลกหน้าฟังแล้วเข้าใจน้อยว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ามีความล่าช้าด้านภาษา
���������4 ขวบ�ควรพูดเป็นประโยคได้แล้ว ถ้าพูดไม่ได้เลยต้องไปปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีปัญหาด้านพัฒนาการทางภาษา
������������นี่เป็นหลักเกณฑ์คร่าว ๆ ค่ะ ที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่พิจารณาว่าควรจะสอนลูกแบบสองภาษาดีหรือเปล่า ถ้าลูกไม่มีปัญหาด้านพัฒนาการทางภาษาก็สามารถเริ่มสอนได้ทันที แต่ถ้ามีปัญหาเล็กน้อยไปจนถึงปัญหาใหญ่ ควรฝึกลูกทีละภาษาจะดีที่สุดค่ะ เพราะเด็กจะได้ไม่สับสน และอย่างน้อยเด็กก็จะสามารถเข้าใจภาษาใดภาษาหนึ่งได้ดี ดีกว่าไม่แตกฉานเลยทั้ง 2 ภาษานะคะ
ที่มา ��https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=505