0-10000000 ตัวเลขมหัศจรรย์ของสมอง


1,436 ผู้ชม


"0-10000000 ตัวเลขมหัศจรรย์ของสมอง"

����สมองน้อยๆ ของลูกมีเรื่องน่ารู้มากมายค่ะ Blink Brain ฉบับนี้จะมาพานับตัวเลขเกี่ยวกับสมองตั้งแต่ 0-10,000,000 จะมีอะไรบ้างต้องติดตามค่ะ

0 ปี

สมองของลูกน้อยเริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆ ตั้งแต่แรกคลอด ถ้าเด็กไม่มีโอกาสเรียนรู้ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ มองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รับรส และสัมผัส จะทำให้พัฒนาการทางระบบประสาทบกพร่องได้ โอกาสที่ดีที่สุดในการพัฒนาสมองของลูกน้อยก็คือวัยเด็กนั่นเอง

2 สัปดาห์

สมองทารกเริ่มก่อตัวตั้งแต่ 2 สัปดาห์ภายในครรภ์ ขณะตั้งครรภ์ปัจจัยต่างๆ มีผลต่อการเจริญเติบโตของสมองลูก คุณแม่ควรจะได้รับสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายในขณะตั้งครรภ์เผื่อลูกน้อยด้วย โดยเฉพาะธาตุเหล็ก ไอโอดีน โปรตีน โฟลิก วิตามิน ฯลฯ ซึ่งเป็นสารที่สำคัญต่อสมองมาก ขาดไม่ได้ทีเดียวละ

3 เปอร์เซ็นต์

สมองมีน้ำหนักไม่ถึง 3% ของน้ำหนักตัว แต่เซลล์สมองมีมากกว่าแสนล้านล้านเซลล์ สมองทำงานอยู่ตลอดเวลาแม้ในยามหลับแล้วยังต้องการพลังงานมากเสียด้วยสิ

4 ปี

4 ขวบแรก เป็นช่วงสำคัญสุดของการพัฒนาการสมองของลูก เป็นเวลาที่ลูกจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เช่น การเดิน การพูด ความจำ การแก้ปัญหา การฝึกความคิดสร้างสรรค์ การปรับตัวเข้ากับสังคม ฯลฯ ซึ่งด็กจะเลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดทุกอย่าง ลูกปูย่อมเดินตามแม่ปูน่ะ

6 เดือนแรก

นมแม่ในระยะ 6 เดือนแรกจะมีปริมาณไขมันสูงสุดประมาณ 50-55% มีสารอาหารสำคัญต่างๆ อย่างเช่น DHA AA Taurine Nucleotides และไขมัน Phospholipid ซึ่งมีความสำคัญในการช่วยส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเส้นใยสมองของลูกให้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่...นมแม่ดีที่สุดในโลก

20 เปอร์เซ็นต์

ถ้าหากขาดการกระตุ้นทางสิ่งแวดล้อม สมองของลูกน้อยจะพัฒนาได้ไม่ดีนัก เด็กที่มีโอกาสเล่นน้อย ไม่ค่อยได้รับการสัมผัสหรือโอบกอด สมองจะเล็กกว่าเด็กปกติในวัยเดียวกันถึง 20-30% เพราะฉะนั้น การให้ลูกได้เรียนรู้โลกรอบตัว การเล่น และการสัมผัสโอบกอดด้วยความรักจึงสำคัญต่อการพัฒนาสมองของเขามาก

25 เปอร์เซ็นต์

การเจริญเติบโตของสมองเด็กเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง เซลล์สมองของเด็กวัย 0-3 ขวบจะมีการแบ่งตัวรวดเร็วกว่าในวัยอื่นๆ เบบี๋แรกเกิดจะมีน้ำหนักสมองประมาณ 25% ของน้ำหนักสมองผู้ใหญ่ พออายุ 6 เดือน น้ำหนักสมองของเด็กจะเพิ่มเป็น 50% อายุ 1 ปี น้ำหนักสมองจะเพิ่มเป็น 70% และเมื่ออายุราวๆ 2-3 ปี น้ำหนักสมองก็มีปริมาณ 80% เรียกว่าเกือบจะเท่าของผู้ใหญ่แล้ว

40 เปอร์เซ็นต์

เวลาสูดหายใจเข้าไปทุกหนึ่งเฮือก สมองของเราขอแบ่งออกซิเจนไปใช้ถึง 40-50% ทีเดียว ถ้าสมองได้รับออกซิเจนเพียงพอก็จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การหลั่งสารสื่อประสาทเป็นไปด้วยดี ช่วยให้การเรียนรู้และความจำดี ชะลอการเสื่อมของเซลล์สมองให้ช้าลง แล้วยังช่วยให้เด็กตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ ได้รวดเร็ว การออกกำลังกายจึงจำเป็นต่อสมองมาก เมื่อออกกำลังกายการไหลเวียนของเลือดจะดีขึ้น ช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น และจะช่วยให้สมองอดทนต่อความเครียดได้ดีขึ้นอีกด้วย

85 เปอร์เซ็นต์

สมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบราวๆ 85% และจะขาดน้ำไม่ได้เลย แค่การเสียน้ำไป 1% เป็นเวลานาน สมองก็จะทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร การขาดน้ำสามารถทำลายหลอดเลือดในสมอง ทำให้ระบบประสาทผิดปกติ เช่น มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคพาร์กินสัน และโรคอัลไซเมอร์ การดื่มน้ำยังช่วยป้องกันอาการซึมเศร้า การนอนหลับผิดปกติ ขาดพลังงาน และป้องกันโรคสมาธิสั้น

500 กรัม

สมองของเบบี๋แรกเกิดที่คลอดครบกำหนดจะมีน้ำหนักประมาณ 500 กรัม มีเซลล์ประสาทอยู่ประมาณ 1 แสนล้านเซลล์ แล้วจะไม่มีการสร้างเพิ่มอีกหลังคลอด ถึงเซลล์ประสาทบางส่วนจะถูกทำลายจากสาเหตุต่างๆ เช่น การขาดเลือดมาเลี้ยง หรือกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ เซลล์ประสาทที่เหลืออยู่จะเป็นตัวทำหน้าที่คอยชดเชยให้ เพราะฉะนั้นต้องดูแลสมองให้อยู่ดีมีสุข เพราะฉะนั้นเวลาโมโหอย่าจับเบบี๋เขย่า คุณแม่เดินออกไปสงบอารมณ์แทนดีกว่า

1,400 กรัม

โดยเฉลี่ยแล้วน้ำหนักสมองของคนเราในวัยที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะหนักประมาณ 1,400 กรัมหรือ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น แต่มีเซลล์ประสาท 90% ของเซลล์ประสาททั้งหมดในร่างกาย ได้รับการปกป้องอยู่ในเกราะแข็งคือกะโหลกศีรษะแล้วยังปกป้องอีกชั้นด้วยน้ำหล่อเลี้ยงปริมาณราว 150 มิลลิลิตร ให้ลอยอยู่ภายในกะโหลกศีรษะโดยไม่เกิดการกระทบกระทั่งง่ายๆ

5,000 จุด

สมองเกิดการเรียนรู้จากข้อมูลที่เราได้รับทางตา หู จมูก ลิ้น และร่างกาย หรือสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งเป็นตัวส่งผ่านเข้าสู่สมอง จากเซลล์สมองตัวส่งผ่านทางเส้นใยประสาทส่งข้อมูลไปยังเส้นใยประสาทตัวรับข้อมูลโดยจะมีจุดเชื่อมระหว่างกัน ถ้ามีข้อมูลส่งผ่านบ่อยๆ จะทำให้จุดเชื่อมนี้แข็งแรง เซลล์สมองแต่ละเซลล์จะเชื่อมกัน 5,000-10,000 จุด และมีตัวเชื่อมประมาณล้านล้านล้านจุด(เขียนเป็นตัวเลขคงอ่านยากน่าดู) ที่น่าสนใจก็คือเด็กจะสร้างใยประสาทได้เร็วและง่ายกว่าผู้ใหญ่ และยิ่งใช้บ่อยๆใยประสาทก็จะแข็งแรงมากขึ้น ข้อมูลเดินทางเร็วขึ้น เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น

250,000 เซลล์

ความมหัศจรรย์ของสมองประการหนึ่งก็คือ ในขณะที่สมองของเด็กกำลังพัฒนาอยู่นั้นจะมีเซลล์ประสาทเพิ่มขึ้น 250,000 เซลล์ทุกๆ นาที

1,000,000 เส้นใย

ประสาทตามีเส้นใยประสาทถึง 1,000,000 เส้นใย เทียบกับประสาทหู ซึ่งมีเส้นใยประสาทเพียง 50,000 เส้นใยเท่านั้น หมายความว่าคนเรารับรู้ผ่านทางสายตามากกว่า การกระตุ้นการมองเห็นจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นที่คุณแม่ควรให้การใส่ใจ และต้องไม่ลืมส่งเสริมการพัฒนาประสาทสัมผัสด้านอื่นๆ ด้วย

10,000,000,000 เซลล์

สมองประกอบด้วยเซลล์ประมาณ 1 หมื่นล้านเซลล์ถึง 1 หมื่น 2 พันล้านเซลล์ แต่ละเซลล์มีเส้นใยที่ส่งผ่านกระแสไฟฟ้าเคมีถึงกัน การที่เราคิดหรือจดจำสิ่งต่างๆ เกิดจากการเชื่อมต่อของกระแสไฟฟ้าภายในสมองนี่เอง

สมองของคนเรานี่มหัศจรรย์สุดยอดจริงๆ ค่ะ
ที่มา ��https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=851

อัพเดทล่าสุด