อาการตกขาว ก็สร้างความน่าสงสัยให้กับคุณผู้หญิงหลายๆ ท่าน และวันนี้เราก็นำอาการตกขาวที่มีทั้งอาการตกขาวปกติและอาการตกขาวผิดปกติ.. เรามาดูอาการตกขาวกันเลยค่ะ
อาการตกขาว ก็สร้างความน่าสงสัยให้กับคุณผู้หญิงหลายๆ ท่าน และวันนี้เราก็นำอาการตกขาวที่มีทั้งอาการตกขาวปกติและอาการตกขาวผิดปกติ.. เรามาดูอาการตกขาวกันเลยค่ะ
อาการตกขาวหลายครั้งอาจจะสร้างความกังวลใจให้กับคุณผู้หญิงหลายๆ ท่าน และ อาการตกขาว ก็สร้างความน่าสงสัยให้กับคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านอีกเช่นเดียวกัน อาการตกขาว แบ่งออกเป็นสองแบบคือ ตกขาวปกติ และ ตกขาวผิดปกติ ซึ่งการมี ตกขาวปกติ นั้นไม่น่ากังวลใจแต่อย่างใด แต่หากว่า ตกขาวผิดปกติ เป็นที่น่ากังวลใจอย่างยิ่ง และวันนี้เราก็นำอาการตกขาวที่มีทั้งอาการตกขาวปกติและอาการตกขาวผิวปกติซึ่งวันนี้เราจะหยิบยกอาการตกขาวผิดปกติที่มักเกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงมากที่สุดนั้นเรามาดูอาการตกขาวกันเลยค่ะ
อาการตกขาว ปกติ vs ผิดปกติ
1. ตกขาวปกติ
ในสภาวะปกติตกขาวจะมีลักษณะเป็นมูกใสหรือขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน และระคายเคือง ปริมาณตกขาวจะมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคนและจะเปลี่ยนแปลงไปตามรอบประจำเดือน โดยจะมีปริมาณมากขึ้นในช่วงที่ไข่ตกอยู่ระหว่างวันที่ 14 ของรอบเดือน หลังจากรอบเดือนผ่านไปตกขาวจะมีลักษณะใสๆ และมีปริมาณน้อยลง นอกจากนั้นขณะตั้งครรภ์ก็จะพบว่า ตกขาวมากจนบางครั้งอาจจะมีลักษณะเหนียวหนืด
2. ตกขาวผิดปกติ
ตกขาวยังเป็นสิ่งบอกถึงสุขภาพของจุดซ่อนเร้นได้เป็นอย่างดี หากตกขาวมีกลิ่นคาวหรือเหม็น สีเหลืองหรือสีเขียวรวมทั้งมีอาการคันและแสบร่วมด้วยแสดงว่า มีการติดเชื้อเกิดขึ้นในช่องคลอดซึ่งเป็นภาวะตกขาวที่ผิดปกติ การอักเสบจากการติดเชื้อของช่องคลอดและปากมดลูกพบได้บ่อยก็คือ การอักเสบติดเชื้อจากเชื้อรา เชื้อพยาธิ และเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด
- เชื้อราในช่องคลอด
การอักเสบของช่องคลอดจากเชื้อรานั้นพบได้บ่อยมาก ลักษณะของตกขาวนั้นจะมีปริมาณมากเป็นสีขาวหรือเป็นก้อนเล็กๆ สีขาวก็ได้ ที่สำคัญคือมักมีอาการคันบริเวณช่องคลอดหรือบริเวณจุดซ่อนเร้นร่วมด้วย
- พยาธิในช่องคลอด
การอักเสบติดเชื้อพยาธิในช่องคลอดนั้นเกิดจากเชื้อพยาธิตัวเล็กๆ ลักษณะของตกขาวนั้นมักเป็นสีเหลืองหรือเขียวหรืออาจมีลักษณะคล้ายฟองด้วย ส่วนอาการที่เกิดร่วมด้วยนั้นก็คล้ายกับการติดเชื้อราคือมักมีอาการคันอย่างมากบริเวณช่องคลอดและจุดซ่อนเร้น
- แบคทีเรียในช่องคลอด
การอักเสบติดเชื้อจากแบคทีเรียนั้นอาการมักไม่ชัดเจนเหมือนเชื้อราหรือเชื้อพยาธิ แต่มักมีตกขาวออกมามากอาจมีสีเหลืองหรือเทาข้นๆ อาจมีกลิ่นเหม็นผิดปกติร่วมด้วยก็ได้ อาการอื่นอย่างแสบร้อนหรือคันบริเวณช่องคลอดก็พบได้เช่นกัน
การรักษาโดยทั่วไปแพทย์มักจะให้ยาเหน็บช่องคลอดหรือยาไปรับประทานต่อเนื่องสักระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำอีกได้ จึงควรดูแลรักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่สามารถปกป้องและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยไม่มีผลต่อเชื้อ Lactobacillus ซึ่งเป็นเชื้อประจำถิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นและคืนความสมดุลให้กับบริเวณจุดซ่อนเร้น และระวังอย่าให้เกิดความอับชื้นโดยหากได้รับการดูแลที่ดีก็จะไม่เกิดปัญหาลุกลามตามมา
ที่มา https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=1308