ปัญหาเท้าเหม็น เท้าเหม็นทําอย่างไร วิธีการแก้ปัญหาเท้าเหม็น
ปัญหาเท้าเหม็น
เท้าเหม็น แก้ปัญหาเท้าเหม็น เท้าเหม็นทำไงดี
นอกจากกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์จะเป็นที่น่ารังเกียจของคนรอบข้างแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้คุณกลายเป็นคนไร้เพื่อน หรือไม่ก็อาจจะโดนล้อเลียนไปตลอดชีวิตก็คือ "กลิ่นเท้า" โดยบางคนเป็นหนักถึงขั้นที่ว่าถอดรองเท้าไม่ได้ ถ้าถอดเมื่อไหร่ได้มีคนสลบเหมือดไปเลยก็มี!!
ถ้าคุณไม่อยากจะเป็นที่จดจำในด้านแย่ ๆ ของคนรอบข้างเพราะกลิ่นเท้าที่ไม่พึงประสงค์เลยแม้แต่น้อย เรื่องของการดูแลความสะอาดเท้าของตัวคุณเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามหลีกเลี่ยงเป็นอันขาด ฉะนั้น เรามาดูกันหน่อยดีกว่าว่า จะทำความสะอาดเท้าให้ถูกหลักทั้งที ต้องทำอะไร ยังไงกันบ้าง
พารองเท้าไปอาบแดด
รองเท้า คู่ไหนที่คุณใส่ประจำ ๆ ทุกวัน ๆ จะต้องดูแลเป็นพิเศษ กล่าวคือในช่วงวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์หรือมีเวลาว่าง ๆ ใช้ความร้อนจากแสงแดดให้เป็นประโยชน์ด้วยการเอารองเท้าคู่นั้นไปตากแดดซะ จะได้เป็นการฆ่าเชื้อโรคที่แอบซ่อนอยู่ในรองเท้า รวมถึงเป็นการระบายกลิ่นอับ ๆ ให้หายไปด้วย หรือทางที่ดี ก็ซักรองเท้าไปซะเลย จะได้เป็นการขจัดคราบสกปรกไปด้วยในครั้งเดียว
แป้งฝุ่นนี่ล่ะ ผู้ช่วยชั้นดี
ดูในส่วนของรองเท้าไปแล้ว มาดูที่เท้าทั้ง 2 ข้างของคุณเองบ้าง หากคุณคิดว่าแค่การล้างน้ำสะอาดหรือการขัดถูด้วยสบู่ทุก ๆ ครั้งที่อาบน้ำก็น่าจะเพียงพอ ก็อย่าเพิ่งประมาทไป เพราะยังไงซะ เมื่อเท้าเกิดความอับชื้นขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ เจ้ากลิ่นเหม็น ๆ ก็จะมากวนใจคุณอีกแน่นอน ทางที่ดีเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วให้เช็ดเท้าให้สะอาดเอี่ยม อย่าให้เหลือร่องรอยของความอับชื้นแม้แต่น้อย จากนั้นใช้แป้งฝุ่นโรยลงบนเท้าแล้วทาให้ทั่ว ทั้งบริเวณฝ่าเท้าและตามง่ามเท้า ก็เข้าท่าเช่นกัน
ถุงเท้าใช้แล้วก็ซักบ้าง
อีกหนึ่งตัวการสำคัญที่คอยปล่อยกลิ่นเหม็นอย่างไม่ลดละ ก็คือถุงเท้าที่คุณ ๆ ใส่กันอยู่นั่นล่ะ อย่าไปเสียดายหรือคิดไปเองว่ามันยังไม่เปื้อน สามารถใส่ซ้ำอีกได้ เพราะคิดแบบนั้น เท่ากับเป็นการเปิดประตูเชื้อเชิญความเหม็นให้มาสิงสถิตอยู่ที่เท้า ของคุณอย่างเป็นทางการ ฉะนั้น เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ก็นำไปซักทำความสะอาดซะ อย่าขี้เหนียวผงซักฟอกเกินเหตุ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะครับ!
นอกจากนี้ การเลือกคุณภาพของถุงเท้า ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าการดูแลเรื่อง ความสะอาดเลย ถุงเท้าที่หนา ๆ ใส่แล้วอึดอัดก็อย่าไปทนใส่ครับ ให้เลือกเนื้อผ้าที่โปร่งสบาย ๆ ใส่แล้วรู้สึกสบายเท้า ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยให้กลิ่นเท้าเกิดได้น้อยครั้งเช่นกัน
ให้เท้าได้พักซะบ้าง
จะว่าไป คนเราก็ใช้งานเท้าในแต่ละวันค่อยข้างจะเยอะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แน่นอนล่ะว่า เท้าก็ต้องมีตึงมีเมื่อยบ้างเป็นของธรรมดา ทางที่ดีเมื่อถึงเวลาพักผ่อน คุณควรจะให้เท้าที่ทำงานมาตลอดทั้งวัน ได้พักผ่อนเหมือนส่วนอื่น ๆ ของร่างกายบ้าง เริ่มจากนั่งแช่เท้าลงน้ำอุ่น ๆ สักประมาณ 15 - 20 นาที และเมื่อคุณนั่งดูทีวีหรือเตรียมตัวเข้านอน ก็ให้หาหมอนที่ไม่สูงมากนัก มารองบริเวณส้นเท้าไว้ด้วย ก็จะช่วยให้เท้าของคุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ทีเดียวเชียวล่ะ
อาหารการกินสำคัญไม่แพ้กัน
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบเหลือเกินกับอาหารที่ย่อยยาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกฟาสต์ฟู้ดทั้งหลาย หรือเป็นเนื้อย่างจานใหญ่ ๆ เราขอให้ระวังไว้ เพราะอาหารเหล่านั้นจะเป็นบ่อเกิดทำให้คุณมีกลิ่นตัวรวมไปถึงกลิ่นเท้าที่ ไม่พึงประสงค์ได้ นอกจากนั้นแล้ว ยังไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของคุณเองด้วย ยังไงซะก็ลองทานอาหารเหล่านั้นให้น้อยลง แล้วเลือกทานผักและผลไม้ทดแทนเยอะ ๆ จะดีกว่าอย่างมากเลยทีเดียว
ใครที่มีปัญหาเรื่องของกลิ่นเท้ารบกวน หรือเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองมีกลิ่นเท้าหรือไม่ ก็ลองนำวิธีต่าง ๆ ตามได้กล่าวไว้ ไปลองใช้กับตัวคุณเองดูนะครับ รับรองว่าเรื่องของกลิ่นเหม็น ๆ จากเท้าของคุณนั้น จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองได้เลย!!
เท้าเหม็นทําอย่างไร
เท้าเหม็นแก้ได้ง่ายนิดเดียว

เท้าเหม็นแก้ได้ง่ายนิดเดียว (Health Plus)
หลาย คนอาจเคยมีปัญหาเท้าเหม็น แต่ถ้าเท้าของคุณเป็นต้นเหตุของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ทุกวันติดต่อกัน ไม่ต้องตกใจ เรามีสารพัดวิธีที่จะช่วยดับกลิ่นเท้าของคุณ

เท้ามีต่อมเหงื่ออยู่มากกว่า 250,000 ต่อม หรือเท่ากับ 3,000 ต่อมต่อตารางนิ้ว ซึ่งเมื่อเทียบต่อพื้นที่ผิวหนังหนึ่งนิ้วพบว่า มีต่อมเหงื่ออยู่มากกว่าต่อมอื่น ๆ เหงื่อที่ถูกผลิตออกมามากมายทำให้ผิวที่เท้าอ่อนนุ่ม ถ้าไม่มีเหงื่อ ผิวก็จะแห้งแตก ทำให้เจ็บเวลาเดิน
ต่อม เหงื่อที่เท้าต่างจากต่อมเหงื่อบริเวณอื่นของร่างกาย ต่อมเหงื่อที่เท้าผลิตเหงื่อตลอดเวลา ไม่ว่าจะในช่วงอากาศร้อน หรือระหว่างออกกำลังกาย และเมื่อเท้าสามารถผลิตเหงื่ออกมาได้ถึงสัปดาห์ละ 4.5 ลิตร ทำให้เกิดความขึ้นมากมายกระจายไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่อยู่ในจุดซ่อนเร้น และนี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหา
เหงื่อไม่ได้มีกลิ่นเหม็น แต่แบคทีเรียที่อยู่บนผิวต่างหากที่เป็นต้นตอของกลิ่นอับชื้น เท้าซุกซ่อนอยู่ในรองเท้าตลอดวัน นั่นอาจทำให้อุณหภูมิที่เท้าพุ่งสูงขึ้น ซึ่งเหมาะกับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย โดยกินของเสียที่อยู่ในเหงื่อและอินทรีย์วัตถุอื่น ๆ ที่อยู่ในถุงเท้าและรองเท้า ยิ่งแบคทีเรียขยายพันธ์มากเท่าไร กลิ่นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น















แพทย์จะจ่ายยาที่ทำให้เท้าแห้งหรือยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย การรักษาวิธีอื่น ๆ เช่น การทำไอออนโตโฟเรวิส โดยให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านน้ำขณะที่เท้าแช่น้ำ เพื่อลดเหงื่อที่ออกมากให้เป็นปกติ โบท็อกซ์ที่ใช้รักษาเหงื่อออกมากขึ้นรักแร้ ก็สามารถนำมาใช้รักษาโรคเท้าเหม็นได้ด้วย โดยการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่ฝ่าเท้าเพื่อลดเหงื่อที่ออกมาก ๆ ประมาณ 6-12 เดือนก็จะเห็นผล แต่พึงระวังฝ่าเท้า และผิวหนังที่เท้าเป็นจุดที่อ่อนไหว จึงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
เกร็ดความรู้
เหงื่อที่ออกถึงสัปดาห์ละมากกว่า 4 ลิตร ทำให้เท้าของคุณกลายเป็นสวรรค์ของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วิธีการแก้ปัญหาเท้าเหม็น
วิธีแก้เท้าเหม็น เท้าเหม็น วิธีรักษาเท้าเหม็น
วิธีแก้เท้าเหม็น เท้าเหม็น วิธีรักษาเท้าเหม็น

โรคเท้าเหม็น (Pitted Keratolysis) เป็นโรคที่พบมากในเขตร้อน พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้ชายและผู้หญิง แต่จะพบได้บ่อยในผู้ชาย เพราะจะมีเหงื่อออกที่ฝ่าเท้ามากกว่า และผู้ชายมักสวมถุงเท้าอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดการหมักหมมบริเวณเท้า คนเป็นโรคเท้าเหม็น หากสังเกตก็จะเห็นหลุมเล็กๆ ที่ฝ่าเท้า บางครั้งหลุมอาจรวมตัวกันเป็นแอ่งเว้าตื้นๆ มักพบตามฝ่าเท้าที่รับน้ำหนัก และที่ง่ามนิ้วเท้า อาการที่แสดงออกมาของโรคเท้าเหม็นคือ ร้อยละ 90 เท้ามีกลิ่นเหม็นมาก ร้อยละ 70 คือ เวลาถอดถุงเท้าจะรู้สึกว่าถุงเท้าติดกับฝ่าเท้า ส่วนอาการคันนั้นพบได้น้อยเพียง ร้อยละ 8 เท่านั้น
วิธีการ รักษาโรคเท้าเหม็น
- 1. พยายามทำให้เท้าแห้งอยู่เสมอ โดยอาจใช้แป้งฝุ่นฆ่าเชื้อโรยที่เท้า หรือยารักษาสิว (Benzoyl Peroxide) ก็นำมาใช้ได้เช่นกัน นอกจากนั้นก็อาจใช้ยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อราชนิดทาก็ได้
- 2. โบทอกซ์ที่ใช้แพร่หลายกันในเรื่องการลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ก็สามารถนำมาใช้รักษาโรคเท้าเหม็นได้ด้วย โดยการฉีดโบทอกซ์เข้าไปที่ฝ่าเท้าเพื่อลดเหงื่อที่ออกมากๆ ประมาณ 6-12 เดือน ก็จะเห็นผล (วิธีการนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก 10,000-20,000 ต่อครั้ง)
- 3. การใช้ไอออนโตเพื่อลดเหงื่อ ซึ่งเป็นวิธีการที่ปฏิบัติกันมากว่าเจ็ดสิบปีแล้ว โดยทำบริเวณที่มีเหงื่อให้เหงื่อออกมาครั้งละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จนเหงื่อที่ออกลดลงเป็นปกติ วิธีนี้ไม่เจ็บ ไม่แพง แต่ก็ไม่นิยมในบ้านเรา
- 4. แช่เท้าในน้ำล้างเท้าผสมสูตรระงับกลิ่นทุกวัน โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
Tag : วิธีแก้เท้าเหม็น : ตีนเหม็น : แก้เท้าเหม็น : วิธีรักษาเท้าเหม็น : รักษาเท้าเหม็น : เรียนถักนิตติ้ง : เท้าเหม็น : โรคเท้าเหม็น : เท้า : ยาแก้เท้าเหม็น : เท้าเหม็น วิธีรักษา : วิธีรักษาโรคเท้าเหม็น : รูปเท้าคน : วิธีแก้ตีนเหม็น : วิธีแก้โรคเท้าเหม็น : วิธีรักษาเท้าออกเหงื่อเหม็น : วิธีแก้ปัญหาเท้าเหม็น :
Link
https://www.zazana.com
https://health.kapook.com
https://www.eazydo.com