เพลงไข้เลือดออก


3,957 ผู้ชม


เพลงไข้เลือดออก อาการไข้เลือดออกเบื้องต้น อาการไข้เลือดออก เด็ก

เพลงไข้เลือดออก

เพลงไข้เลือดออก

 ปัจจุบันโรคไข้เลือดออกระบาดมากขึ้นในทุกพื้นที่  เด็กเล็กๆมีความเสี่ยงมาก  โรงเรียนจึงมีบทบาทสำคัญในการรณรงค์เพื่อกำจัดยุงลาย  และการจัดกิจกรรม สนุกๆก็ช่วยจูงใจในการเรียนรู้ของเด็กได้มาก  ดังนั้นจึงได้แต่งเพลงสนุกๆที่ให้ความรู้เรื่องยุงลายให้เด็กๆได้ร้องเล่น กัน  โดยให้คิดท่าทางประกอบเพลงกันเอง สนุกค่ะ ปรากฏว่าทั้งเด็กอนุบาลจนถึงระดับมัธยมร้องได้ และมีความรู้เรื่องยุงลายกับไข้เลือดออกได้ในระดับหนึ่ง  ลองดูนะคะ  

                         เพลงยุงลาย  (ทำนองเพลงแซบๆๆ ) 

           ตาย ตาย ตาย ต๊าย ตาย         ยุงลายมันร้ายเหลือใจ

แหล่งน้ำอย่าให้วางไข่ (ซ้ำ)              โอ่ง อ่าง ปี๊บ ไห... ปิดให้ดีดี 

จำไว้หากมีน้ำขัง                               ต้องระวังมันมาวางไข่ 

ทรายอะเบทรีบใส่ลงไป (ซ้ำ)             หรือเลี้ยงปลาไว้ ... ให้กินลูกน้ำ

ยุงลายกัดตอนกลางวัน                      อย่ามัวนั่งฝันฉันนั้นขอบอก 

ยุงลายนำไข้เลือดออก (ซ้ำ)               รุนแรงไม่หยอก...      ตายได้อีหลี 

Download เพลงไข้เลือดออก


มีเพื่อนๆ หลายท่านที่สอบถามเกี่ยวกับเพลงไข้เลือดออกกันเข้ามา ว่าผมเป็นเจ้้าของเพลงนี้หรือเปล่า จึงขอนำเรียนทุกท่านว่า ผมไม่ได้มีส่วนในการร่วมสร้างผลงานแห่งความสร้างสรรนี้ หากแต่เป็นเพียงผู้ประชาสัมพันธ์สิ่งที่ทรงคุณค่า ไว้บอกเล่า ให้ประชาชนได้ใส่ใจเรื่องสุขภาพของตนเองก็เท่านั้น
เพลงที่ Upload ใน youtube.com ถือว่าได้รับความสนใจไม่น้อย…
จึงทำให้มีหลายๆ ท่านอยากนำเพลงในไปใช้งาน ….สามารถ Download ได้ตามลิงค์นี้ (เป็นไฟล์ .wav) ส่วนไฟล์ .wmv ก็ตามลิงค์นี้

อาการไข้เลือดออกเบื้องต้น

สัญญาณเตือนภัยไข้เลือดออก

๑. เหตุเกิดที่กรุงเทพฯ

๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๐ น้องเอ สาวน้อยน่ารัก นักศึกษาวัย ๑๘ ปี เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก ๒ สัปดาห์ต่อมา คุณน้อยหญิงสาวอายุ ๓๕ ปี กำลังสำคัญของครอบครัวและหน่วยงาน เสียชีวิตด้วย ไข้เลือดออก อาการคล้ายกับน้องเอ บ้านน้องเอ อยู่บางแค กรุงเทพฯ บ้านคุณน้อย อยู่บางบ่อ สมุทรปราการ พี่สาวน้องเอเป็นไข้เลือดออกต้องไปอยู่โรงพยาบาลเพิ่งทุเลา เด็กข้างบ้านคุณน้อยก็เป็นไข้เลือดออก น้องเอและคุณน้อย มีระยะเวลาตั้งแต่เริ่มอาการป่วยจนถึงแก่กรรมราว ๑๐ วัน ก่อนหน้านั้นแข็งแรงดี อาการเริ่มด้วยไข้สูงมาก กินยาพาราเซตามอล ไข้ลดลงเป็นระยะ เป็นไข้อยู่ ๓ วัน ดูเหมือนจะดีขึ้น ไข้ลดแล้วกลับมีไข้สูงอีก อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน กินอาหารไม่ได้ ในวันที่ ๕ หลังเริ่มป่วย มีอาการกระสับการะส่าย ท้องอืด ถ่ายเหลวมีเลือดออกในอุจจาระ ตับและไตไม่ทำงาน ผู้ป่วยช็อก เลือดออกในช่องท้อง ต้องผ่าตัดด่วน แม้จะให้ยา ให้เลือด ให้พลาสม่าสด ให้เกล็ดเลือด ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้
หญิงสาวทั้ง ๒ คนเสียชีวิตในโรงพยาบาลใหญ่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ทั้งที่ได้รับการดูแลรักษาสุดความสามารถ ก่อความโศกเศร้าอาดูรต่อครอบครัวและญาติมิตร นอกจาก ๒ รายนี้แล้ว ยังมีผู้ป่วยไข้เลือดออกรุนแรงเช่นนี้ที่โรงพยาบาลอื่นอีกหรือไม่? โรคอะไรจะรุนแรงขนาดนี้! แล้วจะมีรายอื่นตามมาอีกไหม? ทีมแพทย์ พยาบาลจะเตรียมการตั้งรับอย่างไร? ถ้าพวกเราทุกคนช่วยกันเต็มที่จะป้องกันภัยไข้เลือดออกได้ทันเวลาหรือไม่?
สัญญาณเตือนภัย...ไข้เลือดออกเริ่ม ขึ้นแล้ว เพิ่งจะเดือนมิถุนายนต้นกรกฎาคม ยังไม่ถึงวันเข้าพรรษา ฝนยังไม่ลงหนัก ก็พบผู้ป่วยไข้เลือดออกหนาตา แล้วอีก ๒-๓ เดือนข้างหน้า เมื่อฝนตก...น้ำขัง...ยุงไข่ ประชากรยุงลายเพิ่มมากขึ้น อะไรจะตามมา...
 
๒. โรคไข้เลือดออก
ชื่อ โรคไข้เลือดออก บ่งบอกอาการสำคัญ คือไข้สูงกับเลือดออก อาการเฉียบพลันในผู้ที่แข็งแรงดีมาก่อน พบผื่นหรือจุดเลือดออกหรือจ้ำเขียวที่ผิวหนัง เลือดกำเดาออก อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระปัสสาวะมีเลือดปน มีเลือดซึมจากตำแหน่งรอยเข็มฉีดยาหรือเจาะเลือด หรือตามเยื่อเมือก เลือดออกที่อวัยวะภายใน ผู้ป่วยเสียชีวิตจากอาการช็อกและเสียเลือด
ไข้ เลือดออกที่มีการระบาดพบผู้ป่วยหลายรายในเวลาใกล้เคียงกัน มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสสาเหตุไข้เลือดออกมีมากมายหลายชนิด แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคของโลก อาจแบ่งได้เป็น ๓ กลุ่ม

กลุ่มแรก พบเชื้อในคนหรือลิงบางชนิด และมียุงเป็นพาหะนำเชื้อ ตัวอย่างเช่น ไข้เหลือง (Yellow fever) และไข้เดงกี่ (Dengue fever) ผู้ป่วยบางรายติดเชื้อเดงกี่มีอาการไข้เลือดออกรุนแรงเรียกว่า ไข้เลือดออกเดงกี่ (Degue hemorrhagic fever)

กลุ่มที่ ๒ พบ เชื้อในสัตว์แทะประเภทหนู คนได้รับเชื้อจากหนูทางการหายใจ หรือสัมผัสกับหนูที่ติดเชื้อ ตัวอย่างเช่น ไข้เลือดออกฮันทัน (Haantan hemorrhagic fever) เชื้อไวรัสตัวนี้แยกได้ครั้งแรกจากหนูบริเวณแม่น้ำฮันทัน ซึ่งเป็นเส้นขนานแบ่งประเทศเกาหลีเหนือและใต้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ทหารอเมริกันป่วยตายจำนวนมากในสงครามเกสหลีด้วยโรคไข้ เลือดออกที่มีอาการทางไตร่วมด้วย ไข้เลือดออกจากไวรัสกลุ่มนี้กำลังได้รับความสนใจมาก เนื่องจากพบได้ในหลายประเทศ และติดต่อได้ทางการหายใจ

กลุ่มที่ ๓ เข้า ใจว่า น่าจะมีการติดเชื้อในลิงบางชนิด และติดต่อมายังคนโดยถูกลิงกัด หรือสัมผัสเลือดและซากศพลิง ตัวอย่างเช่น ไข้เลือดออกมาร์บูร์ก (Marburg hemorrhagic fever) ซึ่งเชื้อมีลักษณะคล้ายคลึงกับเชื้อไวรัสอีโบล่า (Eblola virus) ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้เลือดออกรุนแรงที่พบในแอฟริกา

 
๓. ไข้เลือดออกที่พบในประเทศไทย
โรคไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่เข้าใจว่าเริ่มพบผู้ป่วยในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๒
หลัง สงครามโลกครั้งที่สอง แต่แยกเชื้อต้นเหตุไม่ได้จึงเรียกว่า ไข้เลือดออกไทย (Thai hemorrhagic fever) โรคไข้เลือดออกระบาดชัดเจนพบครั้งแรกในประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ แพทย์ฟิลิปปินส์เรียกไข้เลือดออกฟิลิปปินส์ (Philippine hemorrhagic fever) นับแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๑ มีการระบาดของไข้เลือดออกเดงกี่ในประเทศไทยทุกปีจำนวนผู้ป่วยมากบ้าง น้อยบ้าง อันตรายสูงมากถึงร้อยละ ๑๐ เมื่อแรกพบ ต่อมาแพทย์สามารถวินิจฉัยและให้การรักษาได้เหมาะสม อัตราการตายลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ ๑ ไข้เลือดออกเดงกี่นี้พบได้หลายประเทศในแถบเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ ไทย บังกลาเทศ เมียนมาร์ (พม่า) อินโดนีเซีย ศรีลังกา เวียดนาม มัลดีฟ จีน อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย หมู่เกาะแปซิฟิก ขณะนี้เริ่มพบในทวีปอเมริกา ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในวัยนักเรียน แต่ก็พบได้ในวัยรุ่น ผู้ใหญ่ และเด็กเล็ก

 
๔. อาการโรคไข้เลือดออกเดงกี่
การติดเชื้อไข้เลือดออกเดงกี่แสดงอาการโรค ๒ แบบ คือ

ไข้เดงกี่ อาการไม่รุนแรง ระยะฟักตัว ๔-๖ วัน หลังจากถูกยุงที่มีเชื้อกัดเริ่มด้วยไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อตามตัว ผื่นขึ้น มักพบในผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อเดงกี่ครั้งแรก ส่วนใหญ่หายในเวลา ๑-๒ สัปดาห์ ในประเทศที่มีเชื้อชุกชุมพบการติดเชื้อครั้งแรกตั้งแต่เด็ก มักไม่พบผู้ป่วยไข้เดงกี่ แต่พบไข้เลือดออก

ไข้เลือดออกเดงกี่ เชื้อไวรัสเดงกี่แบ่งเป็น ๔ ชนิด คือ เชื้อเดงกี่ทัยป์ ๑, ๒, ๓, และ ๔ เมื่อติดเชื้อทัยป์ใดทัยป์หนึ่ง จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อทัยป์เดิมเกิดขึ้นไม่ติดเชื้อทัยป์เดิมอีก แต่จะติดเชื้อทัยป์อื่นได้ ผู้ที่ติดเชื้อเดงกี่ครั้งที่สองมักแสดงอาการรุนแรง มีเลือดออก และช็อก อาการไข้เลือดออกเดงกี่ เริ่มด้วยอาการฟักตัว ๔-๖ วัน และมีไข้สูง อาการคล้ายกับไข้เดงกี่ มักมีไข้อยู่ ๓-๔ วัน แล้วไข้เริ่มลดลง ในวันที่ ๒ ถึงวันที่ ๗ หลังจากไข้เริ่มลด เป็นระยะที่ต้องระวัง เพราะเป็นระยะที่ผู้ป่วยช็อกและมีเลือดออก อาการที่พบร่วม คือ คลื่นไส้อาเจียน กินอาหารไม่ได้ ปวดท้อง เจ็บชายโครงขวาเนื่องจากตับโต พบจุดเลือดออกหรือจ้ำเขียว อาจพบเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ
 
สัญญาณอันตรายของไข้เลือดออกเดงกี่

๑. ไข้สูงมาก เกิน ๓๘.๕ องศาเซลเซียส จำเป็นต้องพบแพทย์ ห้ามกินยาลดไข้พาราเซตามอลเอง เกินกว่า ๑ ครั้งใน ๔ ชั่วโมง จำเป็นต้องกินให้ห่างกันไม่ต่ำกว่า ๔-๖ ชั่วโมง เนื่องจากพาราเซตามอล มีพิษต่อตับ และห้ามกินแอสไพรินเพราะจะทำให้เลือดออกง่าย หากอาการไข้ไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์และบอกแพทย์ถึงยาและเวลาที่กิน

๒. คลื่นไส้อาเจียนมาก ควรพยายามให้จิบน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มน้ำข้าวต้ม น้ำเกลือแร่ ถ้ากินไม่ได้ ต้องรีบไปพบแพทย์

๓. ปวดท้อง ท้องอืด เจ็บภายในช่องท้อง

๔. เลือดออก อาจเป็นเลือดกำเดา จ้ำเลือด ประจำเดือนออกมากผิดปกติ ถ่ายเหลวดำ อาเจียนเป็นเลือด

๕. การป้องกันและควบคุม ขณะนี้วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ยังอยู่ในระยะค้นคว้าทดลองวิธีควบคุมไข้เลือดออกที่ได้ผล คือ

  • ช่วย กันรณรงค์ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่พบรอบบ้าน โรงเรียน และสถานที่อื่นๆ กำจัดน้ำขังที่พบในจานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์ กระป๋อง กะลา หมั่นคว่ำภาชนะขังน้ำฝนให้น้ำแห้ง เปลี่ยนน้ำขาตู้กับข้าว และแจกันปลูกต้นไม้ประเภทพลูด่าง เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่ขังไว้ใช้ ปิดฝาโอ่งไม่ให้ยุงวางไข่ ทำลายลูกน้ำและยุง
  • ระมัดระวังไม่ให้ถูก ยุงกัด ยุงลายเป็นยุงที่ออกกินเวลากลางวัน ต้องป้องกันเด็กเล็กที่นอนกลางวัน อย่าให้นอนที่มืดอับถูกยุงกัด ควรให้นอนในห้องมุ้งลวดหรือมีมุ้งครอบ
  • ระมัดระวังไม่ให้ยุงกัดผู้ป่วยที่มีไข้ เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อต่อไป

ปี พ.ศ.๒๕๔๐ นี้ ประเทศไทยบอบช้ำและสูญเสียทางเศรษฐกิจมากพออยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของเราทุกคนต้องช่วยกันป้องกันไข้เลือดออกก่อนที่จะพบความสูญ เสียของบุคคลผู้เป็นที่รักตามมาซ้ำเติม เนื่องจากภัยไข้เลือดออกที่ป้องกันได้

อาการไข้เลือดออก เด็ก

วิธีสังเกตุ..อาการไข้เลือดออกแบบง่ายๆในเด็ก


ไข้เลือดออกมีอาการอย่างไร 
fever dengue ยุง mosquito , ยุงลาย petachiae

ปกติ คนที่โดนยุงที่มีเชื้อไข้เลือดออกกัดครั้งแรก อย่างมากจะเกิดเป็นไข้ เดงกิ่ว(Dengue Fever ) ซึ่งอาการไม่รุนแรง ไม่มีช้อค แต่ถ้า ในปีถัดๆ มาโดนยุงที่มีเชื้อกัดอีก อาจจะทำให้เกิดปฏิกริยาเป็นไข้เลือดออกได้ เพราะฉะนั้นเด็กเล็กๆโดยเฉพาะต่ำกว่าขวบจึงไม่ค่อยเป็นไข้เลือดออก ครับ 
อาการไข้เลือดออก จะเริ่มด้วยไข้สูงๆ มากๆๆ ประมาณ สามสี่วัน อาจจะมีตาแดงๆ ท้องอื่ด ปวดท้อง อาเจียน(มักมีปวดท้องอาเจียนร่วมด้วยเกือบทุกคน) ไข้จะสูงลอยกินยาไม่ค่อยลดง่ายๆ
 
บางคนอาจจะมีจุดเลือดออกตามตัวให้เห็นหรือ มีเลือดกำเดาออก อาเจียรเป็นเลือดสีกาแฟดำ ให้เห็น(มักจะเป็นตอนวันท้ายที่เป็นมากแล้ว)
 
ไข้จะสูงอยู่ สี่วันหลังจากนั้น จะเข้าระยะไข้ลด ระยะนี้เป็นช่วงที่น่ากลัว ความดันจะต่ำลงอย่างรวดเร็ว ท้องอืด ช็อค ถ้าไม่ได้รับการรักษาให้ทัน อาจจะเสียชีวิตได้
 
ที่ว่าไข้เลือดออกตัวร้อนตัวเย็น ไม่ใช่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็นนะครับ หมายถึงร้อนจัดๆๆไม่ค่อยลด สี่วันก่อน ลดลง ตอนวันที่สี่ ย่างเข้าวันที่ห้า ตอนหนักนี่แหละครับ  

Link 
https://www.gotoknow.org
https://xn--q3cpbe5bna8ah.com
https://www.doctor.or.th
https://www.oknation.net

อัพเดทล่าสุด