การรักษาโรคลําไส้อักเสบ ยารักษาโรคลําไส้แปรปรวน โรคลําไส้
การรักษา โรคลำไส้แปรปรวน (IRRITABLE BOWEL SYNDROME)
มีวิธีการรักษา และ ยารักษามากมาย บางครั้งต้องอาจใช้ยาหลายกลุ่มเข้ารักษาร่วมกัน เนื่องจากโรคนี้มีหลายกลุ่มย่อย และ การตอบสนองต่อยาก็แตกต่างกัน บางครั้งอาจต้องใช้วิธีปรับยาหลายครั้งจึงดีขึ้น ทั้งนี้ขึ้นกับความเข้าใจโรคดังกล่าวด้วยว่าโรคนี้ไม่ร้ายแรง (หลังจากตรวจค้นหา จนแน่ใจ 1 ถึง 2 ครั้ง หรือ บางคนแค่ประวัติตรวจร่างกายก็แน่ใจได้ว่าไม่ได้มีโรคร้ายแรงโดยตรวจเพิ่มเติมแค่เล็กน้อย) รวมทั้งต้องติดตามการรักษาอธิบายอาการอย่างละเอียด ระหว่างผู้ป่วย และ แพทย์ที่รักษาด้วย จึงทำให้ผลการรักษาดีขึ้น
การติดตามการรักษา - ในการรักษาขั้นแรก อาจต้องติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด โดยต้องรายงานอาการ นิสัยความเป็นอยู่ และ การรับประทานของผู้ป่วย รวมทั้งต้องทราบประวัติทุกอย่างที่อาจมีผลต่อลำใส้ บางรายอาจจับจุดได้ว่าแก้ไขได้ง่าย เช่นอาจแพ้อาหารบางอย่าง หรือ ย่อยอาหารกลุ่มนมไม่ได้ (lactose intolerance) รวมทั้งการแก้ความเครียด โรคซึมเศร้าอาจทำให้อาการดีขึ้นได้มาก ควรมีสมุดบันทึกเรื่องเหล่านี้อย่างละเอียดจะช่วยในการรักษาได้มาก
การเปลี่ยนนิสัยการรับประทาน - จากทฤษฎี ที่อธิบายแล้วว่าผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งอาจมีปัญหาการย่อย แพ้อาหาร ควรหลีกเลี่ยงกลุ่มอาหาร เช่นอาหารที่ทำให้เกิดลม มันมาก กลุ่มนม อาหารย่อยยาก ผัก หรือ เนื้อบางอย่าง ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละคน หรือ บางคนอาจไม่เกี่ยวกับอาหารใด ๆ เลยก็ได้ ควรมีบันทึกอาหาร แต่ละมื้ออย่างละเอียด และ ดูร่วมกับอาการ อาจทำให้ค้นหาอาหารที่ทำให้เกิดอาการได้ชัดเจนขึ้น ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ลองหยุดอาหารกลุ่มนมดูในช่วงแรก เพราะ พบคนที่มีปัญหาย่อยอาหารกลุ่มนม (lactose intolerance) พบได้บ่อยมาก (กินนมแล้วท้องเสีย กินแล้วอืด หรือ กินนมช่วยระบาย) การงดนมก็ควรทดแทนด้วยการกิน calcium ทดแทนด้วย เพื่อบำรุงกระดูก
อาหารบางอย่างจะมีการย่อยแค่บางส่วน จนเมื่อถึงลำไส้ใหญ่จึงจะใช้แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ช่วยย่อย ทำให้เกิดลมในท้อง และ ปวดบีบได้ อาหารดังกล่าวได้แก่ legumes (คืออาหารประเภทถั่ว beans) และ อาหารกลุ่มกระหล่ำ บลอคคาลี่ cruciferous vegetables เช่น cabbage, brussels sprouts, cauliflower, และ broccoli บางรายอาจมีปัญหากับอาหาร หัวหอม onions, celery, แคลลอท carrots, เลซิน raisins, กล้วย bananas, แอปปริคอท apricots, พรุน prunes, sprouts, และ wheat.
พยายามกินอาหารที่มีไฟเบอร์ (fiber) มากขึ้นมักดีในผู้ป่วยกลุ่มที่ปวดท้อง แบบท้องผูก บางรายแม้ปวดแบบท้องเสียการกินไฟเบอร์ กลับทำให้ลำไส้ได้ฝึกบีบตัวดีขึ้นได้การกินผักผลไม้อาจเกิดข้อเสียดังที่กล่าวแล้วในบางคนที่มีปัญหาการย่อย หรือ ไวต่อลม บางครั้งอาจต้องพิจารณาให้ fiber ทางการแพทย์ เช่น psyllium [Metamucil] หรือ methylcellulose [Citrucel] โดยเริ่มจากขนาดน้อย ไปหาขนาดมาก สาเหตุที่ fiber ทำให้ดีขึ้นยังไม่เข้าใจเหตุผลนัก อาจจากทำให้ลำใส้ได้ฝึกบีบตัวตามที่กล่าวแล้ว ก็ได้
ื การช่วยเหลือ ความเครียด หรือ แก้ปัญหาซึมเศร้า จิตเวชตามที่กล่าวแล้วว่า ความเครียด และ ความกังวลใจ อาจทำให้โรคนี้เป็นมากขึ้นได้ในบางราย ผู้ป่วยควรนึกคิด และ ปรึกษาปัญหาในกลุ่มนี้กับแพทย์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อช่วยแพทย์ในการพิจารณาให้การรักษา
- ผู้ป่วยบางคนอาจดีขึ้นเมื่อปรึกษากับจิตแพทย์ ร่วมกับให้ หรือ ไม่ให้ยากลุ่มนี้ รวมทั้งการให้ยานอนหลับ หรือ สอนการทำ biofeedback เป็นต้น
- บางรายอาจดีขึ้นหลังเข้ากลุ่มปรึกษาทางจิตเวช
- ผู้ป่วยหลายรายดีขึ้น หลังออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือดีขึ้นจากการเดิน เพราะช่วยในการทำงานของลำไส้ได้ด้วย
ยารักษา แม้มียารักษาหลายอย่าง แต่ไม่สามารถทำให้โรคนี้หายขาดได้ ส่วนใหญ่เพื่อทำให้ดีขึ้น หรือ หายไปชั่วคราวเท่านั้น ยารักษาจะขึ้นกับว่าผู้ป่วยเป็นกลุ่มใด ระหว่างท้องเสียเด่น ท้องผูกเด่น หรือ ปวดท้องเด่น ควรลองการเปลี่ยนอาหาร เพิ่มไฟเบอร์ใยอาหาร ก่อนทานยา
โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) การรักษาและยาที่ใช้ โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล
มาถึงตอนสุดท้ายของโรค IBS ผมจะได้สาธยายถึงการรักษาโรคนี้ที่จะได้ผลดี คนไข้สบายกายและจิตใจต้อง ก้อต่อเมื่อต้องอาศัยการรักษาอย่างเป็นทีมทั้งผู้ป่วยและญาติๆ เพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงผู้ทำการรักษา จึงจะได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจของคุณๆผู้ป่วยเอง ลองมาติดตามกันนะครับ
โรคนี้รักษาได้ แต่อันดับแรกต้องวินิจฉัยให้ได้แน่ชัดเสียก่อน
หากคุณได้ทำแบบทดสอบและไปพบแพทย์มาแล้ว ต่อไปเมื่อถึงเวลาจ่ายยา วิธีการรักษาและ ยาที่เลือกนำมารักษาจะมีมากหลายตัว บางครั้งต้องอาจใช้ยาหลายกลุ่มเข้ารักษาร่วมกัน เนื่องจากโรคนี้มีหลายกลุ่มย่อย และ การตอบสนองต่อยาก้อแตกต่างกัน บางครั้งคุณอาจต้องได้รับการปรับยาหลายครั้ง พอคนไข้กลับไปบ้านมีการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมด้วย ดังนั้นในคนไข้ทีเข้าใจโรคอย่างดี มีการติดตามการรักษาและมีการอธิบายอาการอย่างละเอียด ระหว่างผู้ป่วยและทีมผู้ให้การรักษาด้วย จึงทำให้ผลการรักษาดีขึ้น
หลักการเลือกใช้ยา
เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนของโรคนี้ อาการโรคมักจะเรื้อรัง โดนที่บางช่วงที่ผู้ป่วยไม่มีอาการใดๆ เลย ดังนั้น ผลสำเร็จในการรักษา IBS ช่วยบรรเทาอาการจะช่วยยืดระยะเวลาของช่วงที่ไม่มีอาการออกไปได้ พบว่ามีการรักษาได้หลายอย่าง ซึ่งให้ผลตอบสนองที่แตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย โดยส่วนใหญ่ทำให้อาการดีขึ้นหรือหายชั่วคราว แต่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ เนื่องจาก IBS มีสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นหลายด้าน ดังนั้นการรักษาที่เป็นที่ยอมรับและมีประสิทธิภาพดี คือการใช้การรักษาหลายวิธีร่วมกัน ในแง่การให้ยา จะให้ยารักษาตามความเด่นของอาการ ได้แก่
1. ท้องผูกเป็นอาการเด่น: ใช้วิธีเพิ่มอาหารที่อุดมด้วยเส้นใย เช่นผัก ผลไม้ หรือยาช่วยระบายกลุ่มเพิ่มกากใยอาหาร (Ispaghula husk, psyllium seed ) หรือให้ยาระบายเช่น polyethylene glycol (PEG), sorbitol, lactulose เพื่อกระตุ้นการถ่ายให้สม่ำเสมอ ลดอาการอึดอัดหรือปวดในช่องท้องที่เกิดร่วมกับท้องผูก Lubiprostone (Amitiza) ช่วยเพิ่มการเคลื่อนตัวของลำไส้ เนื่องจากเป็น prostaglandin analog นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการขับน้ำจากผนังลำไส้ ซึ่งช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงเนื่องจากไม่มีผลต่อสมดุลเกลือแร่ Tegaserod (Zelmorm) เป็นสารกระตุ้นตัวรับชนิดย่อยที่ 4 ของเซโรโทนิน (5HT-4 agonist) ซึ่งมีผลเพิ่มจังหวะการบีบเคลื่อนตัวของทางเดินอาหาร จึงช่วยแก้ไข IBS ชนิดท้องผูก
2. ท้องเสียเป็นอาการเด่น: เริ่มจากการวิเคราะห์ว่าอาการท้องเสียที่เกิดขึ้น มีปัจจัยกระตุ้นจากอาหาร ยา หรือพฤติกรรมบางอย่างหรือไม่ ตัวอย่างที่พบได้บ่อยเช่นนมโค ซึ่งทำให้ท้องเสียได้ ในรายที่ร่างกายขาดน้ำย่อย lactase ซึ่งใช้ย่อยน้ำตาล lactose ซึ่งมีอยู่ในนม ผู้ป่วยเหล่านี้จึงต้องเลี่ยงดื่มนมโค หรือในผู้ที่มีอาการท้องเสียจากการใช้หมากฝรั่ง อาจเนื่องจากน้ำตาล sorbitol ที่ใช้เป็นสารให้ความหวานในหมากฝรั่ง ในรายที่อาการท้องเสียเป็นมาก และรบกวน อาจใช้ยาซึ่งลดความถี่ในการถ่าย (anti-motility) เช่น diphenoxylate หรือ loperamide
3. ปวดท้องหรือท้องอืดเป็นอาการเด่น: ควรเริ่มด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่นปริมาณอาหารแต่ละมื้อ พฤติกรรมการเคี้ยวอาหาร ชนิดและสัดส่วนของอาหารประเภทต่างๆ อาหารที่มีความมันมาก อาหารรสจัด หรือมีแก๊สมาก เช่นโปรตีน เนื้อสัตว์ หรือพืชตระกูลถั่ว อาจทำให้อาการเป็นรุนแรงขึ้น มักจะเลือกใช้ยาผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (anti-spasmodics) เช่น mebeverine, dicyclomine, hyoscine Nbutylbromide, peppermint oil, Magesto-F อาจช่วยบรรเทาอาการปวดเกร็งลงได้ และในรายที่มีท้องเสียร่วมด้วย ยาในกลุ่มนี้อาจช่วยลดความถี่ในการถ่าย ข้อควรระวังของการใช้ยากลุ่มนี้ คืออาการท้องผูก ปากคอแห้ง มองภาพเบลอ ปัสสาวะขัด และอาการต้อหินกำเริบ ควรหลีกเลี่ยงการใช้peppermint oil ในผู้ป่วยที่มีอาการกรดไหลย้อนร่วมด้วย เนื่องจาก peppermint oil มีผลคลายกล้ามเนื้อหูรูดบริเวณส่วนต่อกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร ทำให้เกิดการกำเริบของกรดไหลย้อนได้
ยากระตุ้นการทำงานของลำไส้ (prokinetics) เช่น domperidone, metoclopramide, itopride (Ganaton) อาจช่วยบรรเทาอาการท้องอืดซึ่งพบร่วมกับ IBS ได้ โดยเฉพาะในรายที่มีภาวะกรดไหลย้อนร่วมด้วย ถ้าเลือกใช้ยาในกลุ่มนี้ร่วมด้วย ต้องระวังไม่ให้ไปตีกันกับ anti-spamodics ทำให้ เพราะจะทำให้ prokinetics ออกฤทธิ์ได้ลดลง หากต้องใช้ร่วมกัน นิยมให้ anti-spasmodics ก่อนอย่างน้อยครึ่ง-1 ชั่วโมง
ในรายที่มีอาการเครียดหรือซึมเศร้าร่วมด้วย
ผู้ป่วยหลายรายมักจะความเครียดและกังวลใจ ทำให้โรคนี้มีอาการมากขึ้นทำให้เสียคุณภาพชีวิตได้ เรามักแนะนำให้ผู้ป่วยปรึกษาปัญหาในกลุ่มนี้กับแพทย์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อช่วยแพทย์ในการพิจารณาให้การรักษา โดยคุณๆอาจดีขึ้นเมื่อปรึกษากับจิตแพทย์ ร่วมกับให้ยารักษาควบคุ่ไปด้วย กลุ่มของยาที่เลือกใช้ได้แก่ Antidepressant ซึ่งมีผลดีเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดมวนท้อง และอาจช่วยให้ IBS แบบท้องเสียเด่นมีอาการลดลง ตัวอย่าง TCA ที่มีการใช้ใน IBS เช่น imipramine, amitriptyline, nortriptyine, desipramine
การรักษาที่ไม่ใช้ยา
IBS ไม่ได้เกิดจากโรคทางจิตโดยตรง แต่อารมณ์ก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้อาการดีขึ้นหรือเลวลง การลดความเครียดจึงช่วยให้การรักษาหรือควบคุมอาการของ IBS เกิดได้ดีขึ้น โดยมาตรการผ่อนคลายความเครียด มีหลายวิธี เช่น การออกกำลังกาย โยคะ การหายใจหรือนั่งสมาธิ รวมไปถึงการสะกดจิต และจิตบำบัด เพื่อเพิ่มการเรียนรู้พร้อมปรับพฤติกรรม (cognitive behavioral therapy)
ที่เด่นๆในช่วงหลังก้อมีการ นำ Probiotics ซึ่งเป็นอาหารที่ประกอบด้วยเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่นเชื้อ Lactobacillus plantarum, Bifidobacteria infantis หรือเชื้อตระกูลอื่นๆ ในโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว จากการศึกษาในผู้ป่วย IBS ที่เกิดอาการหลังการติดเชื้อในทางเดินอาหาร ซึ่งส่วนหนึ่งมีภาวะที่ไม่สมดุลระหว่างจุลินทรีย์ชนิดดีและชนิดอันตราย ดังนั้นการรับประทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวจึงอาจช่วยบรรเทาอาการ ลดความรุนแรงของผู้ป่วย IBS บางรายได้
จบตอนการรักษาของดรคนี้ไปแล้ว อาจจะดูยุ่งยาก แต่หากคุณๆทำความเข้าใจกลไกของโรค ก้อจะยังคงชีพมีความสุขอยู่กับโรคนี้ไปอย่างมีความสุขครับ หากมีคำถามเพิ่มเติมก้อส่งมาได้มาได้ทางอีเมล์เลยนะครับ
แหล่งข้อมูล
•เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล สงวนลิขสิทธิ์ 1 สค. 2553
ห้ามนำบทความ รูปภาพและเนื้อหาอื่นๆ โดยผู้เขียนไปเผยแพร่เชิงพาณิชย์ ให้นำไปเผยแพร่เป็นวิทยาทานหรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น ผู้ประกอบการเว็บไซต์ต้องยึดหลักความเคารพและคำนึงถึงลิขสิทธิ์ในการสร้างสรรค์งานเขียนและจริยธรรมทางธุรกิจ
การนำเอาบทความ รูปภาพและเนื้อหาอื่นๆ ซึ่งผลิตขึ้นโดยผู้เขียนไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตและผลิตซ้ำเพื่อเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาและ Copy url address https://www.oknation.net/blog/DIVING ไปด้วยเพื่อให้ผู้อ่านสามารถลิ้งค์กลับมาอ่านบทความจากเว็บไซต์ของผู้เขียนได้โดยตรง
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ไม่แนะนำให้คุณนำไปใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรคด้วยตนเอง ขอความกรุณารับคำปรึกษาได้โดยตรงจากบุคลากรสหวิชาชีพทางสาธารณสุข รวมทั้งเภสัชกรใจดี ที่พร้อมดูแลสุขภาพพ่อแม่พี่น้องนะครับ
· รูปประกอบจากอินเตอร์เนท
· Irritable Bowel Syndrome, National Digestive Diseases Information Clearinghouse, Bethesda, https://digestive.niddk.nih.gov/ddiseases/pubs/ibs/index.htm
· Mayer EA. , Clinical practice. Irritable bowel syndrome. Center for Neurobiology of Stress, Division of Digestive Diseases, Department of Medicine, David Geffen School of Medicine at UCLA, Los Angeles, CA 90095-6949, USA, N Engl J Med. 2008 Apr 17;358(16):1692-9., https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18420501
· Irritable bowel syndrome in adults. Diagnosis and management of irritable bowel syndrome in primary care, National Collaborating Centre for Nursing and Supportive Care. Irritable bowel syndrome in adults. Diagnosis and management of irritable bowel syndrome in primary care. London (UK): National Institute for Health and Clinical Excellence (NICE); 2008 Feb. 27 p. (Clinical guideline; no. 61), https://www.guideline.gov/content.aspx?id=13703
· Irritable bowel syndrome: full guideline. Page 1 of 554. Clinical practice guideline. Irritable bowel syndrome in adults: Diagnosis and management of www.nice.org.uk/nicemedia/pdf/IBSFullGuideline.pdf
· irritable bowel syndrome Medications, https://www.irritable-bowel-syndrome.ws/ibs-medications.htm
· โรคลำไส้แปรปรวน(IBS=Irritable bowel syndrome),Thai Health, https://www.thaihealth.net/h/article302.html , https://www.thaihealth.net/h/article321.html
· Irritable Bowel Syndrome Medications and Drugs, IBS Self Help and Support Group , https://www.ibsgroup.org/medications
· โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome : IBS) ,Vejthani Hospital International Medical & Health Care Services,https://www.vejthani.com/web-thailand/Health-Magazine/Irritable-Bowel-Syndrome.php
· ภก.กิติยศ ยศสมบัติ,โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS), สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน (โอสถศาลา), คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
· Linn WD, Wofford MR, O’keefe ME, et al. Pharmacotherapy in primary care. USA: McGraw-Hill; 2009
Link