ปัจจุบันสภาพแวดล้อมทั่วโลกรวมถึงประเทศเราเองมีสภาวะที่เปลี่ยนแปลง ไปในหลายๆ เหตุการณ์ และที่สัมผัสได้ตลอดเวลาคือ ความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ตลอดทั้ง
โรคเท้าร้อน การรักษาโรคเท้าร้อน โรคเท้าร้อนเวลานอน
โรคเท้าร้อน
ภาวะร่างกายไม่สมดุลแบบร้อนเกิน
ปัจจุบันสภาพแวดล้อมทั่วโลกรวมถึงประเทศเราเองมีสภาวะที่เปลี่ยนแปลง ไปในหลายๆ เหตุการณ์ และที่สัมผัสได้ตลอดเวลาคือ ความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหนๆ ก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายได้รับความร้อนที่เกินความจำเป็น โดยเฉพาะหากใครทานอาหารประเภทของทอด ของไขมันสูง ก็จะยิ่งสร้างอุณหภูมิในร่างกายให้ร้อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บและอาการเจ็บป่วยของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเรา
สาเหตุของภาวะไม่สมดุลแบบร้อนเกิน ได้แก่
- เครียด ทำให้ร่างกายเร่งผลิตพลังงานเพื่อต่อสู้กับภาวะที่ทำให้เครียดนั้น โดยเฉพาะการเครียดมากๆเป็นประจำๆ จะเกิดภาวะร้อนเกินขึ้น
- อด หลับอดนอน ถ้าเราไม่พักผ่อนนอนหลับในช่วงที่กำลังง่วงนอน ร่างกายจะผลิตพลังงานสำรองออกมาใช้ยิ่งถ้าไม่หลับในช่วง 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 (ช่วงไฟกำเริบ) จะเกิดภาวะร้อนเกินขึ้น ในช่วงเวลาดังกล่าวควรจะทำร่างกายให้นิ่งมากที่สุด(ควรจะหลับลึกในช่วงนี้ดี ที่สุด)
- อดอาหาร แม้หิวก็ไม่ยอมกินอาหาร เมื่อเกิดอาการหิว เป็นช่วงที่ไฟเผาพลาญอาหารกำลังทำงาน ถ้าไม่มีอาหารให้ย่อย ไฟนั้นก็จะเผาตัวเรา(โดยการสันดาปจากไขมันและโปรตีนในร่างกายแทน)
- เร่งร้อน เร่งรีบ คนใจร้อน ทำให้ต่อมหมวกไตหลั่งแอดดรีนาลีนออกมากระตุ้นให้เซลล์เร่งผลิตพลังงาน ภาวะร้อนเกินก็จะเกิดขึ้น
- มักจะทำงานเกินกำลังบ่อยๆ ทำให้พลังงานความร้อนและของเสียอยู่ในร่างกายมาก
- มัก ทำงานให้เสร็จก่อนถึงจะยอมดื่มน้ำ ทั้งๆ ที่รู้สึกคอแห้ง ปากแห้ง ซึ่งเป็นอาการที่แสดงว่าร่างกายกำลังขาดน้ำเมื่อไม่มีน้ำคุ้มครอง ความร้อนทั้งที่อยู่ในและนอกร่างกายก็จะเผาร่างกาย
- มักกลั้นปัสสาวะ อุจจาระ จึงทำให้ของเสียถูกดูดกลับเข้าร่างกาย เกิดภาวะร้อนเกินขึ้น
- มัก ทำงานที่ต้องงอมือ หรือกำมือนานๆ แล้วไม่ได้ดัดคืนหรือไม่ได้กดนวดคลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้างกดล็อกลมปราณ ทับระบบไหลเวียนของเลือดลม ไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ รวมถึงคนที่อยู่หน้าเตาไฟนานๆ
- นั่ง รถเดินทางบ่อยๆ ในขณะที่นั่งรถเดินทางเครื่องยนต์สั่นสะเทือนร่างกายทำให้เซลล์ในร่างกาย สั่นสะเทือนไปด้วยและเกิดพลังงานความร้อนขึ้นในเซลล์ จะสังเกตุได้ว่าเวลาเราเดินทางนานๆ ร่างกายจะอ่อนเพลีย ซึ่งเป็นภาวะร้อนเกิน
- มีกิจกรรมหรือการงานที่ต้องพูดมากๆ กล่องเสียงสั่นสะเทือนส่งผลให้ต่อมไทรอยด์บริเวณคอถูกกระตุ้นให้ทำงาน(ต่อม นี้ทำหน้าที่เร่งการสันดาปเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานความร้อน) คนที่ต้องพูดมากๆ บ่อยๆ จึงเกิดภาวะร้อนเกิน
- คนที่ทำงานใช้สมองมากๆ การใช้พลังงานสมองนั้นเปลืองพลังงานมากกว่าการใช้พลังงานร่างกาย
- หงุดหงิดโมโหง่ายบ่อยๆ
- มัก กินของที่มีฤทธิ์ร้อนมากๆ บ่อยๆ ได้แก่ ข้าวเหนียว, ข้าวกล้องสีแดง - ดำ, เผือก มัน กลอย, ข้าวสาลี, ขนมปังอาหารหวานจัด, เห็ดหลินจือ, ถั่วแดง, ถั่วดำ, ถั่วลิสง, กะทิ, งา, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, น้ำมันพืช, น้ำมันสัตว์, ผักที่มีรสเผ็ดร้อน, ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง, อาหารเผ็ดจัดเค็มจัด, อาหารใส่สารสังเคราะห์ หรือผงชูรส ,ยาบำรุงเลือด ,เหล้า เบียร์ ไวน์ บุหรี่ , ของหมักดอง, กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำร้อนจัด หรือเย็นจัด เป็นต้น
เห็นไหมว่ากิจกรรมที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะกิน นอน ทำงาน ต่างส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดภาวะร้อนเกินซึ่งจะเป็นสาเหตุและที่มาของโรค ภัยต่างๆ แต่เราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะร้อนเกินไปได้ ดังนั้น ตอนนี้เรามาดูกันต่อว่า ในขณะนี้เราเองมีอาการของร่างกายที่แสดงออกมาว่าร่างกายเราเกิดภาวะร้อนเกิน แล้วหรือยัง ดังนี้
- หน้าแดง บางคนบริเวณตาขาวมีลักษณะแดง ตาแห้งไม่ค่อนมีขี้ตา
- มีสิวฝ้าขึ้น
- มีแผลในช่องปากด้านล่าง (ถ้าเป็นแผลด้านบนจะเกิดภาวะเย็นเกิน)
- ปากคอแห้ง บางคนถึงกับริมฝีปากแตกเป็นขุย
- รูขุมขนจะขยายโดยเฉพาะบริเวณหน้าอก คอ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผมหงอกก่อนวัย
- ไข้ขึ้น ปวดหัว ตัวร้อน แขน - ขาร้อน มือร้อน เท้าร้อน
- บริเวณท้องแขนด้านใน น่อง หน้าแข้ง เส้นเลือดจะขยายตัวใหญ่ มีเส้นเลือดขอดตามจุดต่างๆ
- ปวด บวมแดงร้อนตามร่างกายหรือตามข้อ
- กล้ามเนื้อเกร็งค้างกดเจ็บ
- ผิวหนังผิดปกติคล้ายรอยไหม้
- มักจะตกกระเป็นสีน้ำตาล หรือสีดำตามร่างกาย
- อุจจาระแข็งหรือเป็นก้อนเหมือนขี้แพะ ท้องผูกเป็นประจำ
- ปัสสาวะปริมาณน้อย และเป็นสีเข้ม ปัสสาวะบ่อยมีอาการแสบขัด มักลุกขึ้นมาปัสสาวะช่วงเที่ยงคืน ถึง ตีสอง
- บางครั้งมีอาการท้องอืด
- ผิวหนังจะมีผื่นหรือปื้นแดงคัน ยิ่งเกายิ่งคัน
- ถ้ามีอาการร้อนเกินมากๆ จะเป็นเริม หรืองูสวัด
- หายใจร้อน เสมหะเหนียวข้น มีสีขาวขุ่น สีเหลือง หรือสีเขียวก็ได้
- มีเลือดกำเดาออก
- มักง่วงนอนหลังกินอาหารอิ่มใหม่ๆ
- บางคนเป็นมากจะยกแขนขึ้นไม่สุด
- เล็บมือเล็บเท้ามีลักษณะขวางสั้น (เล็บกุดๆ ปุ้มๆ) มีเล็บสีน้ำตาลหรือดำคล้ำ
- มีอาการหน้ามืดเป็นลม เช่น หน้าแดง ปวดศรีษะ ปวดต้นคอ ปวดไหล่ ปวดตา หรือคลื่นไส้อาเจียน
- รู้สึกร้อนแต่เหงื่อไม่ออก
- เจ็บปลายลิ้น แสดงว่าหัวใจร้อนมาก เป็นมากจะยกแขนไม่ขึ้นถ้าฝืนยกจะเจ็บแปล๊บร้าวไปที่ปลายแขน
- เจ็บคอ เสียงแหบ
- หิวมาก หิวบ่อย กินเท่าไรก็ไม่อ้วน
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
- สะอึก
- ปวดท้อง
- ส้นเท้าแตก เจ็บส้นเท้า
โรค ที่เกิดจากภาวะในร่างกายร้อนเกิน ได้แก่ โรคหัวใจ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ตับอักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ ไทรอยด์เป็นพิษ ริดสีดวงทวาร มะเร็งและเนื้องอกต่างๆ มดลูกโต ตกขาว ตกเลือด ปวดมดลูก หอบหืดที่มีเสลดเหนียวข้น ไตอักเสบ ไตวาย นิ่วไต นิ่วถุงน้ำดี นิ่วกระเพาะปัสสาวะ ไส้เลื่อน ต่อมลูกหมากโต โรคเก๊าต์ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภูมิแพ้จากแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นต้น หากใครกำลังเป็นโรคที่กล่าวมาหรือสงสัยว่าตนเองจะเข้าข่ายผู้ที่เกิดภาวะ ร้อนเกินซึ่งนานๆ ไปจะเกิดโรคภัยต่างๆ ตามมาแล้วล่ะก็ อย่าลืมติดตามอ่านฉบับหน้า........คนธาตุดินจะบอกวิธีแก้ไขแบบธรรมชาติบำบัด ง่าย ไม่ต้องเสียเงินทองมากมาย และที่สำคัญไม่มีผลข้างเคียงด้วย ก็แค่หาอาหารหรือผักผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นมารับประทานเท่านั้นเองอย่าลืม ติดตามอ่านฉบับหน้าน่ะค่ะ................................
ข้อมูลจาก.....หนังสือถอดรหัสสุขภาพ โดย หมอเขียว
Link https://www.oknation.net/
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การรักษาโรคเท้าร้อน
ดิฉันก้อเป็นคนหนึ่งที่ร้อนฝ่าเท้ามาปีกว่า ไม่เจ็บ ไม่ปวด แต่ร้อน รู้สึกรำคาญมาก ต้องนอนเอาเท้าพาดบนแหย่งสักครึ่งชั่วโมง แล้วทำงานอย่างอื่นต่อได้ มีผู้แนะนำให้ดิฉันดื่มเครื่องดื่มชนิดผง ที่มีส่วนผสมของธัญพืชหลายๆ ชนิด
ผลิตภัณฑ์นี้มีชื่อว่า Biotik (ไบโอติค) เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งในกลุ่มของ P& G
และมีอีกหลายชนิด เช่น Botanika (โบทานิก้า) เป็นน้ำข้าวกล้องงอก (คุณพ่อและคุณแม่ทานอยู่)
ดิฉันดื่มมาประมาณอาทิตย์เดียวเอง ทุกคนที่บ้านแปลกใจว่าทำไมดิฉันถึงไม่บ่นร้อนฝ่าเท้าอีก
ดิฉันก้อเลยแชร์ความคิดเห็นกัน ว่าดื่มแล้วหายจริงๆ เพียงแต่ใส่ในเครื่องดื่มกาแฟ หรือโอวัลติน
ครั้งละ 1 ช้อน เอง
Link webboard https://www.mongkoline.com
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โรคเท้าร้อนเวลานอน
ปัจจุบันสภาพแวดล้อมทั่วโลกรวมถึงประเทศเราเองมีสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปใน หลายๆ เหตุการณ์ และที่สัมผัสได้ตลอดเวลาคือ ความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหนๆ ก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายได้รับความร้อนที่เกินความจำเป็น โดยเฉพาะหากใครทานอาหารประเภทของทอด ของไขมันสูง ก็จะยิ่งสร้างอุณหภูมิในร่างกายให้ร้อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บและอาการเจ็บป่วยของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเรา
สาเหตุของภาวะไม่สมดุลแบบร้อนเกิน ได้แก่
- เครียด ทำให้ร่างกายเร่งผลิตพลังงานเพื่อต่อสู้กับภาวะที่ทำให้เครียดนั้น โดยเฉพาะการเครียดมากๆเป็นประจำๆ จะเกิดภาวะร้อนเกินขึ้น
- อด หลับอดนอน ถ้าเราไม่พักผ่อนนอนหลับในช่วงที่กำลังง่วงนอน ร่างกายจะผลิตพลังงานสำรองออกมาใช้ยิ่งถ้าไม่หลับในช่วง 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 (ช่วงไฟกำเริบ) จะเกิดภาวะร้อนเกินขึ้น ในช่วงเวลาดังกล่าวควรจะทำร่างกายให้นิ่งมากที่สุด(ควรจะหลับลึกในช่วงนี้ดี ที่สุด)
- อดอาหาร แม้หิวก็ไม่ยอมกินอาหาร เมื่อเกิดอาการหิว เป็นช่วงที่ไฟเผาพลาญอาหารกำลังทำงาน ถ้าไม่มีอาหารให้ย่อย ไฟนั้นก็จะเผาตัวเรา(โดยการสันดาปจากไขมันและโปรตีนในร่างกายแทน)
- เร่งร้อน เร่งรีบ คนใจร้อน ทำให้ต่อมหมวกไตหลั่งแอดดรีนาลีนออกมากระตุ้นให้เซลล์เร่งผลิตพลังงาน ภาวะร้อนเกินก็จะเกิดขึ้น
- มักจะทำงานเกินกำลังบ่อยๆ ทำให้พลังงานความร้อนและของเสียอยู่ในร่างกายมาก
- มัก ทำงานให้เสร็จก่อนถึงจะยอมดื่มน้ำ ทั้งๆ ที่รู้สึกคอแห้ง ปากแห้ง ซึ่งเป็นอาการที่แสดงว่าร่างกายกำลังขาดน้ำเมื่อไม่มีน้ำคุ้มครอง ความร้อนทั้งที่อยู่ในและนอกร่างกายก็จะเผาร่างกาย
- มักกลั้นปัสสาวะ อุจจาระ จึงทำให้ของเสียถูกดูดกลับเข้าร่างกาย เกิดภาวะร้อนเกินขึ้น
- มัก ทำงานที่ต้องงอมือ หรือกำมือนานๆ แล้วไม่ได้ดัดคืนหรือไม่ได้กดนวดคลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้างกดล็อกลมปราณ ทับระบบไหลเวียนของเลือดลม ไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ รวมถึงคนที่อยู่หน้าเตาไฟนานๆ
- นั่ง รถเดินทางบ่อยๆ ในขณะที่นั่งรถเดินทางเครื่องยนต์สั่นสะเทือนร่างกายทำให้เซลล์ในร่างกาย สั่นสะเทือนไปด้วยและเกิดพลังงานความร้อนขึ้นในเซลล์ จะสังเกตุได้ว่าเวลาเราเดินทางนานๆ ร่างกายจะอ่อนเพลีย ซึ่งเป็นภาวะร้อนเกิน
- มีกิจกรรมหรือการงานที่ต้องพูดมากๆ กล่องเสียงสั่นสะเทือนส่งผลให้ต่อมไทรอยด์บริเวณคอถูกกระตุ้นให้ทำงาน(ต่อม นี้ทำหน้าที่เร่งการสันดาปเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานความร้อน) คนที่ต้องพูดมากๆ บ่อยๆ จึงเกิดภาวะร้อนเกิน
- คนที่ทำงานใช้สมองมากๆ การใช้พลังงานสมองนั้นเปลืองพลังงานมากกว่าการใช้พลังงานร่างกาย
- หงุดหงิดโมโหง่ายบ่อยๆ
- มัก กินของที่มีฤทธิ์ร้อนมากๆ บ่อยๆ ได้แก่ ข้าวเหนียว, ข้าวกล้องสีแดง - ดำ, เผือก มัน กลอย, ข้าวสาลี, ขนมปังอาหารหวานจัด, เห็ดหลินจือ, ถั่วแดง, ถั่วดำ, ถั่วลิสง, กะทิ, งา, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, น้ำมันพืช, น้ำมันสัตว์, ผักที่มีรสเผ็ดร้อน, ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง, อาหารเผ็ดจัดเค็มจัด, อาหารใส่สารสังเคราะห์ หรือผงชูรส ,ยาบำรุงเลือด ,เหล้า เบียร์ ไวน์ บุหรี่ , ของหมักดอง, กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำร้อนจัด หรือเย็นจัด เป็นต้น
เห็นไหมว่ากิจกรรมที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะกิน นอน ทำงาน ต่างส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดภาวะร้อนเกินซึ่งจะเป็นสาเหตุและที่มาของโรค ภัยต่างๆ แต่เราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะร้อนเกินไปได้ ดังนั้น ตอนนี้เรามาดูกันต่อว่า ในขณะนี้เราเองมีอาการของร่างกายที่แสดงออกมาว่าร่างกายเราเกิดภาวะร้อนเกิน แล้วหรือยัง ดังนี้
- หน้าแดง บางคนบริเวณตาขาวมีลักษณะแดง ตาแห้งไม่ค่อนมีขี้ตา
- มีสิวฝ้าขึ้น
- มีแผลในช่องปากด้านล่าง (ถ้าเป็นแผลด้านบนจะเกิดภาวะเย็นเกิน)
- ปากคอแห้ง บางคนถึงกับริมฝีปากแตกเป็นขุย
- รูขุมขนจะขยายโดยเฉพาะบริเวณหน้าอก คอ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผมหงอกก่อนวัย
- ไข้ขึ้น ปวดหัว ตัวร้อน แขน - ขาร้อน มือร้อน เท้าร้อน
- บริเวณท้องแขนด้านใน น่อง หน้าแข้ง เส้นเลือดจะขยายตัวใหญ่ มีเส้นเลือดขอดตามจุดต่างๆ
- ปวด บวมแดงร้อนตามร่างกายหรือตามข้อ
- กล้ามเนื้อเกร็งค้างกดเจ็บ
- ผิวหนังผิดปกติคล้ายรอยไหม้
- มักจะตกกระเป็นสีน้ำตาล หรือสีดำตามร่างกาย
- อุจจาระแข็งหรือเป็นก้อนเหมือนขี้แพะ ท้องผูกเป็นประจำ
- ปัสสาวะปริมาณน้อย และเป็นสีเข้ม ปัสสาวะบ่อยมีอาการแสบขัด มักลุกขึ้นมาปัสสาวะช่วงเที่ยงคืน ถึง ตีสอง
- บางครั้งมีอาการท้องอืด
- ผิวหนังจะมีผื่นหรือปื้นแดงคัน ยิ่งเกายิ่งคัน
- ถ้ามีอาการร้อนเกินมากๆ จะเป็นเริม หรืองูสวัด
- หายใจร้อน เสมหะเหนียวข้น มีสีขาวขุ่น สีเหลือง หรือสีเขียวก็ได้
- มีเลือดกำเดาออก
- มักง่วงนอนหลังกินอาหารอิ่มใหม่ๆ
- บางคนเป็นมากจะยกแขนขึ้นไม่สุด
- เล็บมือเล็บเท้ามีลักษณะขวางสั้น (เล็บกุดๆ ปุ้มๆ) มีเล็บสีน้ำตาลหรือดำคล้ำ
- มีอาการหน้ามืดเป็นลม เช่น หน้าแดง ปวดศรีษะ ปวดต้นคอ ปวดไหล่ ปวดตา หรือคลื่นไส้อาเจียน
- รู้สึกร้อนแต่เหงื่อไม่ออก
- เจ็บปลายลิ้น แสดงว่าหัวใจร้อนมาก เป็นมากจะยกแขนไม่ขึ้นถ้าฝืนยกจะเจ็บแปล๊บร้าวไปที่ปลายแขน
- เจ็บคอ เสียงแหบ
- หิวมาก หิวบ่อย กินเท่าไรก็ไม่อ้วน
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
- สะอึก
- ปวดท้อง
- ส้นเท้าแตก เจ็บส้นเท้า
โรค ที่เกิดจากภาวะในร่างกายร้อนเกิน ได้แก่ โรคหัวใจ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ตับอักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ ไทรอยด์เป็นพิษ ริดสีดวงทวาร มะเร็งและเนื้องอกต่างๆ มดลูกโต ตกขาว ตกเลือด ปวดมดลูก หอบหืดที่มีเสลดเหนียวข้น ไตอักเสบ ไตวาย นิ่วไต นิ่วถุงน้ำดี นิ่วกระเพาะปัสสาวะ ไส้เลื่อน ต่อมลูกหมากโต โรคเก๊าต์ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภูมิแพ้จากแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นต้น หากใครกำลังเป็นโรคที่กล่าวมาหรือสงสัยว่าตนเองจะเข้าข่ายผู้ที่เกิดภาวะ ร้อนเกินซึ่งนานๆ ไปจะเกิดโรคภัยต่างๆ ตามมาแล้วล่ะก็ อย่าลืมติดตามอ่านฉบับหน้า........คนธาตุดินจะบอกวิธีแก้ไขแบบธรรมชาติบำบัด ง่าย ไม่ต้องเสียเงินทองมากมาย และที่สำคัญไม่มีผลข้างเคียงด้วย ก็แค่หาอาหารหรือผักผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นมารับประทานเท่านั้นเองอย่าลืม ติดตามอ่านฉบับหน้าน่ะค่ะ................................
ข้อมูลจาก.....หนังสือถอดรหัสสุขภาพ โดย หมอเขียว
Link https://www.oknation.net/
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++