อาการวูบ หน้ามืด อันเนื่องจากฮอร์โมนแปรปรวน สาเหตุและวิธีแก้ไข


1,069 ผู้ชม


อาการวูบวาบ อันเนื่องจากฮอร์โมนแปรปรวน

อาการวูบ


          สรีระร่างกายของผู้หญิงโดยเฉพาะเมื่ออย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จะถูกกำหนดและควบคุมด้วยฮอร์โมนเพศ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งตรงมาจากต่อมไร้ท่อใต้สมองหรือต่อมพิทูอิทารีสั่งการให้ระบบสืบพันธุ์ขอเพศหญิงทำงานด้วยการผลิตเซลล์ไข่ขึ้น พร้อมกับทำให้ผนังภายในของมดลูกมีเลือดมาหล่อเลี้ยงบุให้ผนังมดลูกมีเลือดสำหรับรองรับการฝังตัวของไข่ ซึ่งอาจได้รับการปฏิสนธิกับสเปิร์มหรืออสุจิของเพศชาย แต่เมื่อไม่มีการปฏิสนธิและไม่มีการฝังตัวของไข่ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนพรอสสตาแกลนดิน ซึ่งส่งผลให้ผนังมดลูกบีบตัว ด้วยเหตุนี้เลือดที่บุตัวบนผนังภายในมดลูกจึงหลุดลอกออกมาจากช่องคลอด
          ในวัยสาวแรกรุ่นวงจรนี้อาจยังมาไม่สม่ำเสมอ จนกว่าระบบทุกส่วนจะทำงานสมบูรณ์พร้อม เลือดดังกล่าวก็จะหลุดลอกออกมาเป็นประจำทุกเดือน โดยปกติปริมาณของเลือดในแต่ละรอบเดือนของวัยสาวสะพรั่งจะอยู่ในราว 80 มล. ซึ่งในช่วงก่อนหรือระหว่างการมีรอบเดือนผู้หญิงมากกว่า 1 ใน 3 มักจะประสบกับอาการผิดปกติหรือไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว อย่างเช่นคัดเต้านม ปวดหลัง ปวดท้อง ปวดหัว หรือบางรายอาจถึงขั้นเป็นไข้ทับระดู อย่างไรก็ดีลักษณะอาการต่างๆ ดังกล่าวสามารถจะผ่อนคลายให้บรรเทาเบาบางลงได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

          เปลี่ยนยาเม็ดคุมกำเนิด

          ผู้หญิงบางคนที่จำเป็นต้องรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นประจำอาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับวงจรของการมีรอบเดือนได้ เช่น ไม่มีรอบเดือนมาเมื่อถึงเวลาที่ควรมา หรือมีรอบเดือนมาอย่างกะปริบกะปรอย นอกจากนี้ยังอาจะจะส่งผลให้เกิดอาการมือเท้าบวม เวียนศรีษะ คลื้นไส้ อาเจียน และรู้สึกคัดเต้านมมากก็เป็นได้
          ทางแก้ไขที่ดีที่สุดคือปรึกษาสูตินรีแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจจะแนะนำให้คุณลองเปลี่ยนชนิดของยาคุมเพราะเป็นไปได้ว่าอาการดังกล่าวเป็นผลข้างเคียงของฮอร์โมนในยาคุมกำเนิด

          วิตามินบี 6 ช่วยสงบสติอารมณ์

          เพื่อต้านอารมณ์ฉุนเฉียวและความรู้สึกห่อเหี่ยวในจิตใจ การรับประทานวิตามินบี 6 วันละ 100 มก.เป็นประจำ หรืออย่างน้อย 10 วันก่อนประจำเดือนมา จะสามารถช่วยให้สภาพจิตใจของคุณดีขึ้น

อาการวูบ


          สารอาหารช่วยต้นอาการปวดท้อง

          อาการปวดท้องเป็นอาการที่มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยกับผู้หญิงส่วนใหญ่ โดยปกติจะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ก็หายไป แต่ก็อาจมีผู้หญิงบางรายที่มีอาการปวดท้องมากและหลายวันกว่าจะหาย อย่างไรก็ดีอาหารที่อุดมด้วยวิตามินอี แคลเซียม และแมกนีเซียมสูง อย่างเช่น น้ำมันดอกทานตะวัน ผลิตภัณฑ์จากนม และธัญพืชหลากชนิด จะสามารถช่วยบรรเท่าอาการปวดดังกล่าวลงได้
          บวมน้ำต้องขับด้วยน้ำ

          อาจฟังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก แต่จริงๆ แล้ว เป็นวิธีการที่ใช้ได้ผล เพราะยิ่งคุณดื่มน้ำเข้าไปมากเท่าไหร่เซลล์ของคุณก็จะกักเก็บน้ำไว้กับตัวเองน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้อาการบวมน้ำค่อยๆ ยุบลงไปโดยอัตโนมัติ และน้ำที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายก็คือน้ำสะอาดบริสุทธิ์
          บำบัดอารมณ์หงุดหงิดด้วยกลิ่นหอม

จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการใช้กลิ่นหอมเพื่อบำบัดเยียวยารักษาอาการของผู้หญิงมีประจำเดือน พบว่ากลิ่นหอมอันอบอวลของกุหลาบ เจอเรนียม หรือลาเวนเดอร์ จะสามารถช่วยให้ผู้หญิงบางคนมีอารมณ์ที่ดีขึ้น อารมณ์ที่เคยหงุดหงิดหัวเสียง่าย โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนหรือระหว่างมีรอบเดือนลดน้อยลง นอกจากนี้การนอนแช่ตัวในน้ำอุ่นที่ผสมด้วยกลิ่นหอมดังกล่าวยังสามารถช่วยบำบัดให้อาการปวดเกร็งที่ท้องน้อยหรือที่มดลูกให้ทุเลาเบาบางลงได้อย่างดี
          ให้สมุนไพรช่วยผ่อนคลายความรู้สึก

          สมุนไพรบางชนิด อย่างเช่น ดอกและใบขี้เหล็ก มะระ บวบ หรือผักโขม จะสามารถช่วยเปลี่ยนวันหนักๆ ของคุณให้กลับกลายเป็นวันเบาๆ และสามารถทำให้จิตใจของคุณรู้สึกผ่อนคลายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดอกและใบขึ้เหล็กมีสารธรรมชาติบางอย่างที่สามารถช่วยลดอาการกระสับกระส่ายและยังช่วยทำให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นอีกด้วย
          งดอาหารทอดๆ มันๆ เพื่อลดการเกิดสิว

          เนื่องจากในช่วงก่อน หรือระหว่างการมีประจำเดือนร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ ของฮอร์โมนเพศ ซึ่งฮอร์โมนเพศบางตัวจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จนอาจทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดเป็นสิว ฉะนั้นทางที่ดีในช่วงเวลาดังกล่าวจึงควรกินอาหารที่มีไขมันให้น้อยที่สุด หรือหากเป็นไปได้ก็ควรจะงดกินอาหารลักษณะดังกล่าวไปสักระยะหนึ่ง
          อาการผิดปกติที่มักพบได้บ่อย ๆ ในช่วงก่อนหรือระหว่างวันนั้นของเดือน

           ง่วงเหงาหาวนอน 92 % 
           หิวบ่อย อยากอาหาร ไม่เป็นเวลา 70 %

           หงุดหงิดฉุนเฉียว  91 % 
           มีอาการภูมิแพ้ง่าย 69 %  
           ท้องเฟ้อ  90 %  
           แขนขาบวม  67 % 
           คัดเต้านม 85 %   
           ปวดศีรษะ  60 % 
           อารมณ์อ่อนไหว เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวโกรธ  81 %  
           หลงลืม 56 %    
           จิตใจห่อเหี่ยว  80 %    
           ปวดท้อง  48 %  
           สิว  71 %    
           ไม่มีสมาธิ  47 %   

        
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.lisaguru.com/homepage

อัพเดทล่าสุด