ระวังด่วน! ใช้ยาไมเกรนผิด ชีวิตอาจจบ


1,222 ผู้ชม



ระวังด่วน! ใช้ยาไมเกรนผิด ชีวิตอาจจบ

ไมเกรนเป็น โรคปวดหัวชนิดหนึ่งที่ พบไม่บ่อยแต่พบได้เรื่อยๆปัญหา ในประเทศไทย คือ หลายคนเรียกโรคนี้ว่าปวดหัวข้างเดียว ทำให้เกิดการเหมาไปว่าหากปวดหัวข้างเดียวแปลว่าเป็นไมเกรน ทั้งที่ความจริงแล้วปวดหัวข้างเดียวส่วนใหญ่ เกิดจากการปวดกล้ามเนื้อหรืออวัยวะที่อยู่รอบๆศีรษะ


ยาในกลุ่ม Ergot ซึ่งใช้รักษาไมเกรนที่กินยาแก้ปวดชนิดอื่นไม่หาย เป็นยาที่รักษาไมเกรนได้ แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ต้องระวังคือ มันมีฤทธิ์หดหลอดเลือดได้ ดังนั้นในกรณีได้ยามากเกินไปหรือยาออกฤทธิ์มากเกินไป ก็จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ เช่น แขนขาขาดเลือดจนต้องตัดทิ้ง หรือ เส้นเลือดสมองตีบ

ยาที่มีผลเสริมฤทธิ์ของยากลุ่ม Ergot ห้ามใช้ร่วมกัน ได้แก่:

1. Protease inhibitor เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี
2. ยากลุ่มฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน
3. ยาฆ่าเชื้อในกลุ่ม Macrolide เช่น Clarithromycin
4. น้ำ Grapefruit (ซึ่งทำให้อาจจะต้องระวังน้ำส้มโอไปด้วย)
5. ยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด เช่นf luoxetine (บางตัวอยู่ในยากลุ่มที่ใช้ลดความอ้วน)

ปัญหามักจะไม่เกิดในโรงพยาบาลที่มีระบบสั่งจ่ายยาที่เข้มงวด เพราะว่าพอแพทย์สั่งยาไปแล้วเภสัชตรวจย้อนกลับไปว่ามีการสั่งยาErgotแก้ปวดไมเกรนก่อนหน้านั้น ก็จะระงับการสั่งจ่ายยาแล้วให้แพทย์พิจารณายาใหม่

แต่สำหรับบางกรณีที่มีการเก็บยาเอาไว้กินเองโดยไม่ได้แจ้ง หรือปวดหัวแล้วไปซื้อยามาเก็บไว้กินเอง ก็มีความเสี่ยงที่จะได้ยาใน5กลุ่มข้างบนไปแล้วกินไปพร้อมกันจนเกิดผลข้างเคียงได้ บางรายถูกตัดแขนขา บางรายเป็นอัมพาต

ดังนั้นหากปวดหัว ไม่ควรซื้อยาไมเกรนมากินเองหากป่วยไม่สบายไปรักษา โปรดแจ้งเภสัชและแพทย์เสมอว่ากินยาอะไรอยู่เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่น่ากลัวจนถึงชีวิตนี้ได้น

 


ขอบคุณบทความและรูปภาพ : เพจความรู้สนุกๆแบบหมอแมว

อัพเดทล่าสุด